การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคปี 2565 (ค.ศ. 2022)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 21, 2012 10:28 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

1. ให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคในปี 2565 (ค.ศ. 2022)

2. ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ/คณะทำงานต่าง ๆ ในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อเตรียมการสำหรับ

เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคในปี 2565

สาระสำคัญของเรื่อง

กต. รายงานว่า

1. ในระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 20 ณ นครวลาดิวอสต็อก สหพันธรัฐรัสเซีย นายกรัฐมนตรีได้แจ้งความประสงค์ของไทยที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคในปี 2565 (มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 11 กันยายน 2555) ทั้งนี้ สมาชิกเอเปคจะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในแต่ละปี โดยจะต้องจัดการประชุมที่เกี่ยวข้องตลอดปีทั้งในระดับรัฐมนตรีสาขาต่าง ๆ เจ้าหน้าที่อาวุโส คณะกรรมการ และคณะทำงาน ซึ่งการประชุมที่สำคัญที่สุด คือ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปี

2. ไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งเอเปค ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2532 (ค.ศ. 1989) ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 21 เขตเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ความร่วมมือในกรอบเอเปคเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและวิชาการกับสมาชิกเอเปคที่เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไทย ทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

3. ในขณะนี้มีเขตเศรษฐกิจสมาชิกเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเอเปคแล้วจนถึงปี 2564 (ค.ศ. 2021) กอปรกับเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้วหลังจากไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรี (APEC Ministerial Meeting-AMM) เมื่อปี 2535 (ค.ศ. 1992) และการประชุมระดับผู้นำ (APEC Economic Leaders Meeting-AELM) เมื่อปี 2546 (ค.ศ. 2003) ภายใต้หัวข้อหลัก “A World of Differences : Partnership for the Future” ดังนั้น การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของไทยในปี 2565 จึงถือเป็นช่วงจังหวะเวลาเหมาะสมที่ไทยจะมีบทบาทเด่นและสร้างสรรค์ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างประเทศชั้นนำอีกครั้ง

4. ไทยควรแจ้งความจำนงในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคต่อสำนักเลขาธิการ เอเปคอย่างเป็นทางการในโอกาสแรก เพื่อเป็นการดำเนินการตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ต่อที่ประชุมผู้นำ และเพื่อแสดงเจตนารมณ์ของไทยในเรื่องดังกล่าว อันจะช่วยรักษาโอกาสของไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปค ในปี 2565

5. การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อผลประโยชน์และภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งในแง่บทบาทของไทยในเวทีเอเปค ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจชั้นนำกรอบหนึ่งของโลก การผลักดันประเด็นสำคัญต่าง ๆ เชิงนโยบาย และการแสดงศักยภาพของไทยในการเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับนานาชาติ รวมทั้งผลประโยชน์ทางอ้อมทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ การเตรียมการเพื่อให้ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมดังกล่าวได้อย่างเรียบร้อยและสำเร็จลุล่วงอย่างเต็มภาคภูมิ ต้องอาศัยความร่วมมือและการดำเนินการของส่วนราชการหลายภาคส่วน จึงต้องขอความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรีเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการและมีส่วนร่วมในคณะทำงาน/คณะกรรมการด้านต่าง ๆ ซึ่งจะมีการจัดตั้งขึ้นในระยะต่อไปสำหรับการเตรียมงานจัดการประชุมในปี 2565

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 พฤศจิกายน 2555--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ