คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสรุปผลการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดการน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 10 มีนาคม 2547 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2547 สรุปประเด็นสำคัญ ได้ดังนี้
1. กรมควบคุมมลพิษดำเนินการยื่นฟ้องคดีอาญากิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจีกับพวกในข้อหาฉ้อโกง ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องของศาล
2. กรมควบคุมมลพิษมีหนังสือเพื่อปรึกษาคดีเกี่ยวกับการดำเนินคดีข้าราชการประจำหรืออดีตข้าราชการประจำ ไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งได้รับแจ้งจากสำนักงานอัยการสูงสุดว่า พนักงานอัยการไม่อาจเข้าร่วมให้คำปรึกษาได้ เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อการใช้ดุลยพินิจในการดำเนินดคีอาญาของพนักงานอัยการเมื่อได้รับสำนวนสืบสวนในเรื่องเดียวกัน จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติหรือพนักงานสอบสวน ดังนั้นกรมควบคุมมลพิษจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการยื่นฟ้องในคดีดังกล่าวเอง
3. สำนักงานอัยการสูงสุดได้มอบหมายพนักงานอัยการยื่นฟ้องกิจการร่วมค้าฯ ต่อศาลแพ่ง เรื่องนิติกรรมเป็นโมฆะเพื่อเรียกเงินคืนตามหลักกฎหมายเพื่อลาภมิควรได้มีจำนวนทุนทรัพย์ 17,045,889,431.40 บาท และ 121,343,887.19 เหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามคำร้องของกิจการร่วมค้าฯ ซึ่งพนักงานอัยการๆได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
4. กรมควบคุมมลพิษฟ้องคดีแพ่งกับกลุ่มธนาคารผู้ค้ำประกันต่อศาลแพ่ง เรียกให้ชำระหนี้ตามหนังสือสัญญาค้ำประกันจำนวน 2,203,408,730.50 บาท และ 19,794,781:16 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้คดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง
5. กิจการร่วมค้า ฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กรมควบคุมมลพิษแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการ ฝ่ายกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งกรมควบคุมมลพิษได้ยื่นคำคัดค้านต่อคำร้องดังกล่าวแล้ว ขณะนี้ ฝ่ายกิจการร่วมค้าฯ ได้แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการฝ่ายตนเองแล้ว และผลจากการที่ศาลแพ่งมีคำสั่งจำหน่ายคดีแพ่งเรื่องนิติกรรมเป็นโมฆะศาลจึงให้แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการฝ่ายกรมควบคุมมลพิษ ทำให้กระบวนการอนุญาโตตุลาการเริ่มดำเนินการต่อไป
6. กรมควบคุมมลพิษว่าจ้างกลุ่มที่ปรึกษาปฎิบัติงานสำรวจและตรวจสอบการออกแบบและการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งวิเคราะห์และจัดทำทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการดำเนินโครงการออกแบบรวมก่อสร้างฯ โดยกลุ่มที่ปรึกษาฯ ได้ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และนำกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนมาใช้ในการพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมในการดำเนินโครงการออกแบบรวมก่อสร้างฯ ซึ่งผลจากการตรวจสอบและการประเมินมูลค่าทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด จะนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมของโครงการออกแบบรวมก่อสร้างฯ และจัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับการดำเนินการตามทางเลือกดังกล่าว เพื่อให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ใช้เป็นแนวทางประกอบการแก้ไขปัญหาการดำเนินโครงการออกแบบรวมก่อสร้างฯ ต่อไป ทั้งนี้ กลุ่มที่ปรึกษาฯ มีกำหนดที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2547
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 ตุลาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. กรมควบคุมมลพิษดำเนินการยื่นฟ้องคดีอาญากิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจีกับพวกในข้อหาฉ้อโกง ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องของศาล
2. กรมควบคุมมลพิษมีหนังสือเพื่อปรึกษาคดีเกี่ยวกับการดำเนินคดีข้าราชการประจำหรืออดีตข้าราชการประจำ ไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งได้รับแจ้งจากสำนักงานอัยการสูงสุดว่า พนักงานอัยการไม่อาจเข้าร่วมให้คำปรึกษาได้ เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อการใช้ดุลยพินิจในการดำเนินดคีอาญาของพนักงานอัยการเมื่อได้รับสำนวนสืบสวนในเรื่องเดียวกัน จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติหรือพนักงานสอบสวน ดังนั้นกรมควบคุมมลพิษจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการยื่นฟ้องในคดีดังกล่าวเอง
3. สำนักงานอัยการสูงสุดได้มอบหมายพนักงานอัยการยื่นฟ้องกิจการร่วมค้าฯ ต่อศาลแพ่ง เรื่องนิติกรรมเป็นโมฆะเพื่อเรียกเงินคืนตามหลักกฎหมายเพื่อลาภมิควรได้มีจำนวนทุนทรัพย์ 17,045,889,431.40 บาท และ 121,343,887.19 เหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามคำร้องของกิจการร่วมค้าฯ ซึ่งพนักงานอัยการๆได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
4. กรมควบคุมมลพิษฟ้องคดีแพ่งกับกลุ่มธนาคารผู้ค้ำประกันต่อศาลแพ่ง เรียกให้ชำระหนี้ตามหนังสือสัญญาค้ำประกันจำนวน 2,203,408,730.50 บาท และ 19,794,781:16 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้คดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง
5. กิจการร่วมค้า ฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กรมควบคุมมลพิษแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการ ฝ่ายกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งกรมควบคุมมลพิษได้ยื่นคำคัดค้านต่อคำร้องดังกล่าวแล้ว ขณะนี้ ฝ่ายกิจการร่วมค้าฯ ได้แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการฝ่ายตนเองแล้ว และผลจากการที่ศาลแพ่งมีคำสั่งจำหน่ายคดีแพ่งเรื่องนิติกรรมเป็นโมฆะศาลจึงให้แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการฝ่ายกรมควบคุมมลพิษ ทำให้กระบวนการอนุญาโตตุลาการเริ่มดำเนินการต่อไป
6. กรมควบคุมมลพิษว่าจ้างกลุ่มที่ปรึกษาปฎิบัติงานสำรวจและตรวจสอบการออกแบบและการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งวิเคราะห์และจัดทำทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการดำเนินโครงการออกแบบรวมก่อสร้างฯ โดยกลุ่มที่ปรึกษาฯ ได้ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และนำกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนมาใช้ในการพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมในการดำเนินโครงการออกแบบรวมก่อสร้างฯ ซึ่งผลจากการตรวจสอบและการประเมินมูลค่าทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด จะนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมของโครงการออกแบบรวมก่อสร้างฯ และจัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับการดำเนินการตามทางเลือกดังกล่าว เพื่อให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ใช้เป็นแนวทางประกอบการแก้ไขปัญหาการดำเนินโครงการออกแบบรวมก่อสร้างฯ ต่อไป ทั้งนี้ กลุ่มที่ปรึกษาฯ มีกำหนดที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2547
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 ตุลาคม 2547--จบ--
-กภ-