คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบธรณีพิบัติในเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อ การร่วมลงทุน ภาษีและค่าธรรมเนียม ณ สิ้นเดือนเมษายน 2548 ดังนี้
1. การให้สินเชื่อ (ณ วันที่ 27 เมษายน 2548)
การให้สินเชื่อโดยสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อไปแล้วจำนวน 11,297 ราย หรือ ร้อยละ 93.76 ของจำนวนผู้ยื่นคำขอทั้งหมด (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 2,196 ราย) คิดเป็นเงินที่อนุมัติแล้ว 18,533.77 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.95 ของวงเงินที่ยื่นคำขอ (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 446 ล้านบาท)
สำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้อนุมัติวงเงินไปแล้ว 721ราย หรือร้อยละ 39.51 ของผู้ที่ขอความช่วยเหลือทั้งหมด คิดเป็นวงเงิน 360.94 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.69 ของวงเงินที่ยื่นขอ (ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน) ส่วนที่เหลือเป็นผู้กู้ใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำสัญญากู้และจะได้รับเงินเมื่อเปิดเทอม
ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนให้กับสถาบันการเงินเพื่อนำไปปล่อยกู้กับลูกค้าแล้ว 2,375 ราย (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 85 ราย) คิดเป็นวงเงิน 48,408.35 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 1,017 ล้านบาท) สำหรับการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อโดยสถาบันการเงินของเอกชนนั้น เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2548 นายอุตตม สาวนายน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้เดินทางไปร่วมประชุมกับผู้ประกอบการในพื้นที่เขาหลัก จังหวัดพังงา สถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการได้รับเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้าง (Refinance) แล้วเป็นส่วนใหญ่ และขณะนี้ถือ ว่าปัญหาที่มีนัยสำคัญ ส่วนการให้กู้เพื่อฟื้นฟูกิจการบางแห่งยังไม่ได้รับอนุมัติหรือยังไม่ได้รับการเบิกจ่ายจากสถาบันการเงินนั้น กระทรวงการคลังได้ดำเนินการเป็นตัวกลางประสานงานระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ประกอบการที่ประสงค์ให้กระทรวงการคลังประสานงานให้แล้ว ผลการติดตามปรากฎว่ามีผู้ประกอบการบางส่วนที่ขอเปลี่ยนแปลงแบบแปลน และรอให้ทางการดำเนินการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคก่อน จึงจะเบิกจ่ายเงินไปดำเนินการก่อสร้าง
2. การร่วมลงทุนโดยกองทุนร่วมลงทุน (ณ วันที่ 27 เมษายน 2548)
2.1 กองทุนร่วมลงทุนเพื่อผู้ประสบภัยสึนามิ (Tsunami SMEs Fund) มีการอนุมัติร่วมลงทุนแล้ว 18 ราย (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 7 ราย)หรือร้อยละ 13.85 ของจำนวนผู้ยื่นคำขอทั้งหมด คิดเป็นวงเงิน 376.50 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 70.5 ล้านบาท) หรือร้อยละ 10.82 ของวงเงินที่ยื่นคำขอ โดยส่วนที่ยังไม่ได้อนุมัติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลตามหลักการก่อนดำเนินการต่อไป สำหรับส่วนที่อนุมัติแล้ว จะทำ Due Diligence เสนอสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อไป
2.2 กองทุนเปิดเพื่อฟื้นฟูและพัฒนากิจการที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ (Tsunami Recovery Fund) มีการอนุมัติกรอบเงินให้ความช่วยเหลือประมาณ 1,400 ล้านบาท จำนวน 11 ราย ซึ่งลงนาม ร่วมลงทุนแล้ว 5 ราย หรือร้อยละ 25 ของจำนวนผู้ยื่นคำขอทั้งหมด คิดเป็นวงเงิน 580 ล้านบาท (ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมีนาคม 2548) หรือร้อยละ 22.38 ของวงเงินที่ยื่นคำขอส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการทำ Due Dilligence ก่อนการลงนามร่วมลงทุน
3. มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียม คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547 มีมติเห็นชอบให้ดำเนินมาตรการภาษีและค่าธรรมเนียม ซึ่งสรุปสถานะล่าสุด ณ วันที่ 27 เมษายน 2548 ดังนี้
3.1 มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมที่มีผลบังคับใช้แล้ว ได้แก่ การหักผลเสียหายในทรัพย์สินเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ การขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจ-เฉพาะ การเสียภาษีของผู้เสียภาษีและผู้ประกอบการที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ใน 6 จังหวัด การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ผู้ประสบภัย 6 จังหวัดภาคใต้ สำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปี พ.ศ. 2547 การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินบริจาคให้แก่ส่วนราชการ (กฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 252/2548 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2548) และการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินบริจาคให้แก่ส่วนราชการโดยผ่านเอกชน (กฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 253/2548 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2548)
3.2 มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วต่อไป ได้แก่
3.2.1 การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการโอนอสังหาริมทรัพย์ กรมที่ดินอยู่ระหว่างเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงนามในประกาศ
3.2.2 การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับจากกิจการประกันภัยในส่วนที่เกินมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาตามที่กระทรวงการคลังเสนอเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์2548 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
3.2.3 การยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ และการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม การโอนและการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กรณีลูกหนี้ที่ได้รับความเสียหายจากธรณีพิบัติภัย ขณะนี้กรมสรรพากรกำลังเร่งดำเนินการอยู่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 มิถุนายน 2548--จบ--
1. การให้สินเชื่อ (ณ วันที่ 27 เมษายน 2548)
การให้สินเชื่อโดยสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อไปแล้วจำนวน 11,297 ราย หรือ ร้อยละ 93.76 ของจำนวนผู้ยื่นคำขอทั้งหมด (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 2,196 ราย) คิดเป็นเงินที่อนุมัติแล้ว 18,533.77 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.95 ของวงเงินที่ยื่นคำขอ (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 446 ล้านบาท)
สำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้อนุมัติวงเงินไปแล้ว 721ราย หรือร้อยละ 39.51 ของผู้ที่ขอความช่วยเหลือทั้งหมด คิดเป็นวงเงิน 360.94 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.69 ของวงเงินที่ยื่นขอ (ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน) ส่วนที่เหลือเป็นผู้กู้ใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำสัญญากู้และจะได้รับเงินเมื่อเปิดเทอม
ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนให้กับสถาบันการเงินเพื่อนำไปปล่อยกู้กับลูกค้าแล้ว 2,375 ราย (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 85 ราย) คิดเป็นวงเงิน 48,408.35 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 1,017 ล้านบาท) สำหรับการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อโดยสถาบันการเงินของเอกชนนั้น เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2548 นายอุตตม สาวนายน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้เดินทางไปร่วมประชุมกับผู้ประกอบการในพื้นที่เขาหลัก จังหวัดพังงา สถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการได้รับเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้าง (Refinance) แล้วเป็นส่วนใหญ่ และขณะนี้ถือ ว่าปัญหาที่มีนัยสำคัญ ส่วนการให้กู้เพื่อฟื้นฟูกิจการบางแห่งยังไม่ได้รับอนุมัติหรือยังไม่ได้รับการเบิกจ่ายจากสถาบันการเงินนั้น กระทรวงการคลังได้ดำเนินการเป็นตัวกลางประสานงานระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ประกอบการที่ประสงค์ให้กระทรวงการคลังประสานงานให้แล้ว ผลการติดตามปรากฎว่ามีผู้ประกอบการบางส่วนที่ขอเปลี่ยนแปลงแบบแปลน และรอให้ทางการดำเนินการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคก่อน จึงจะเบิกจ่ายเงินไปดำเนินการก่อสร้าง
2. การร่วมลงทุนโดยกองทุนร่วมลงทุน (ณ วันที่ 27 เมษายน 2548)
2.1 กองทุนร่วมลงทุนเพื่อผู้ประสบภัยสึนามิ (Tsunami SMEs Fund) มีการอนุมัติร่วมลงทุนแล้ว 18 ราย (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 7 ราย)หรือร้อยละ 13.85 ของจำนวนผู้ยื่นคำขอทั้งหมด คิดเป็นวงเงิน 376.50 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 70.5 ล้านบาท) หรือร้อยละ 10.82 ของวงเงินที่ยื่นคำขอ โดยส่วนที่ยังไม่ได้อนุมัติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลตามหลักการก่อนดำเนินการต่อไป สำหรับส่วนที่อนุมัติแล้ว จะทำ Due Diligence เสนอสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อไป
2.2 กองทุนเปิดเพื่อฟื้นฟูและพัฒนากิจการที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ (Tsunami Recovery Fund) มีการอนุมัติกรอบเงินให้ความช่วยเหลือประมาณ 1,400 ล้านบาท จำนวน 11 ราย ซึ่งลงนาม ร่วมลงทุนแล้ว 5 ราย หรือร้อยละ 25 ของจำนวนผู้ยื่นคำขอทั้งหมด คิดเป็นวงเงิน 580 ล้านบาท (ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมีนาคม 2548) หรือร้อยละ 22.38 ของวงเงินที่ยื่นคำขอส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการทำ Due Dilligence ก่อนการลงนามร่วมลงทุน
3. มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียม คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547 มีมติเห็นชอบให้ดำเนินมาตรการภาษีและค่าธรรมเนียม ซึ่งสรุปสถานะล่าสุด ณ วันที่ 27 เมษายน 2548 ดังนี้
3.1 มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมที่มีผลบังคับใช้แล้ว ได้แก่ การหักผลเสียหายในทรัพย์สินเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ การขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจ-เฉพาะ การเสียภาษีของผู้เสียภาษีและผู้ประกอบการที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ใน 6 จังหวัด การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ผู้ประสบภัย 6 จังหวัดภาคใต้ สำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปี พ.ศ. 2547 การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินบริจาคให้แก่ส่วนราชการ (กฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 252/2548 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2548) และการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินบริจาคให้แก่ส่วนราชการโดยผ่านเอกชน (กฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 253/2548 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2548)
3.2 มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วต่อไป ได้แก่
3.2.1 การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการโอนอสังหาริมทรัพย์ กรมที่ดินอยู่ระหว่างเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงนามในประกาศ
3.2.2 การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับจากกิจการประกันภัยในส่วนที่เกินมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาตามที่กระทรวงการคลังเสนอเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์2548 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
3.2.3 การยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ และการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม การโอนและการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กรณีลูกหนี้ที่ได้รับความเสียหายจากธรณีพิบัติภัย ขณะนี้กรมสรรพากรกำลังเร่งดำเนินการอยู่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 มิถุนายน 2548--จบ--