ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 12, 2012 10:52 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) เสนอ แล้วมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงิน 66,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหารถบรรทุก (ดีเซล) ขนาด 1 ตัน แบบดับเบิ้ลแคป หุ้มเกราะกันกระสุนทั้งคัน จำนวน 33 คัน

สาระสำคัญของเรื่อง

1. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบรามผู้กระทำผิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ซี่งผู้ปฏิบัติงานหลักส่วนใหญ่เป็นตำรวจชั้นผู้น้อย อีกทั้งเพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของทางราชการให้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล หน่วยปฏิบัติจำเป็นต้องมีครุภัณฑ์ อาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องมืออุปกรณ์พิเศษที่ทันสมัยก้าวทันเทคโนโลยีที่เหล่าประเทศชั้นนำของโลกใช้งานไว้ประจำกายและประจำหน่วย สำหรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเพียงพอต่อความต้องการในการรักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชนและเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่รัฐ

2. การจัดหารถบรรทุก (ดีเซล) ขนาด 1 ตัน แบบดับเบิ้ลแคป หุ้มเกราะกันกระสุนทั้งคัน เป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตช. จึงเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงิน 420,000,000 บาท สำหรับจัดหารถบรรทุก (ดีเซล) ขนาด 1 ตัน แบบดับเบิ้ลแคป หุ้มเกราะกันกระสุนทั้งคัน จำนวน 210 คัน เพื่อแจกจ่ายให้กับหน่วยปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

3. สำนักงบประมาณ (สงป.) พิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามผู้กระทำผิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และลดการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นสมควรที่นายกรัฐมนตรีจะพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงิน 66,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหารถบรรทุก (ดีเซล) ขนาด 1 ตัน แบบดับเบิ้ลแคป ขับเคลื่อน 4 ล้อ หุ้มเกราะกันกระสุนทั้งคัน จำนวน 33 คัน เพื่อทดแทนรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนที่มีอายุการใช้งาน 8 ปีขึ้นไป จำนวน 27 คัน และรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติภารกิจ จำนวน 6 คัน สำหรับส่วนรถยนต์ที่เหลืออีก จำนวน 177 คัน ขอให้ ตช. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 ธันวาคม 2555--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ