ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับสำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 19, 2012 09:20 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับสำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ

ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เกี่ยวกับการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญา

ว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 และการประชุม

คณะกรรมาธิการบริหาร ครั้งที่ 63 และ ครั้งที่ 64 และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมสมัยสามัญ

ภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 ในประเทศไทย พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับสำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธ์ (CITES) เกี่ยวกับการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 และการประชุมคณะกรรมาธิการบริหาร ครั้งที่ 63 และครั้งที่ 64 และเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป

2. อนุมัติให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในร่างความตกลงฯ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้แก่ผู้ลงนามดังกล่าว เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานงานกับสำนักเลขาธิการอนุสัญญาญฯ ภายหลังจากประกาศใช้พระราชบัญญัติฯ ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เพื่อแจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลไทยได้เสร็จสิ้นกระบวนการตามกฎหมายภายในประเทศเพื่อให้มีผลบังคับใช้แล้ว

3. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 ในประเทศไทย พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

1. ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับสำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เกี่ยวกับการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 และการประชุมคณะกรรมาธิการบริหาร ครั้งที่ 63 และครั้งที่ 64

1.1 ลักษณะและขอบเขตของการประชุม มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนการดำเนินงานตามอนุสัญญาฯ และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานในอนาคต นอกจากนี้ จะมีการจัดประชุม SC63 และ SC64 ซึ่งเป็นการประชุมตามปกติของคณะกรรมการธิการบริหารของอนุสัญญาฯ ตามความในมติที่ประชุมที่ 11.1 (แก้ไข CoP15) ที่ได้รับความเห็นชอบโดยที่ประชุมครั้งที่ 11 ของการประชุมสมัยสามัญภาคีฯ (กรุงกิจิริ, 2543) และแก้ไขโดยที่ประชุม ครั้งที่ 12 ครั้งที่ 13 ครั้งที่ 14 และครั้งที่ 15 (กรุงซานติเอโก, 2545; กรุงเทพฯ, 2547; กรุงเฮค, 2550 และกรุงโดฮา, 2553)

1.2 การจัดการประชุมและข้อปฏิบัติด้านการเงิน รัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายการเตรียมการจัดประชุม การจัดเตรียมสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ และบุคลากรตามรายละเอียดข้อกำหนดการจัดประชุม การรักษาความปลอดภัย ค่าใช้จ่ายของสำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ และค่าขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น

1.3 เอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เข้าร่วมประชุมบุคลากร และอาณาบริเวณการจัดประชุม การให้เอกสิทธิ์บางประการแก่ผู้เข้าร่วมประชุม เช่น การอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับวีซ่า การยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าเอกสาร วัสดุอุปกรณ์ สำหรับการประชุมและการทำงานของสื่อมวลชน เป็นต้น

1.4 ความรับผิดชอบต่อความเสียหาย รัฐบาลไทยจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเรียกร้องที่ต่อต้านสำนักเลขาธิการอนุสัญญาสัญญาฯ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และสถานที่จัดการประชุมการใช้มาตรการป้องกันภัย เป็นต้น

2. ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 ในประเทศไทย พ.ศ. ....

2.1 กำหนดนิยามคำว่า “อนุสัญญา” หมายความว่า อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งทำขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2516 (ร่างมาตรา 3)

2.2 กำหนดให้เพื่อให้การคุ้มครองการประชุมฯ ในประเทศไทยบรรลุตามความประสงค์ให้สถานที่จัดการประชุมและบุคคล ได้แก่ ผู้แทนของรัฐภาคีอนุสัญญาที่ได้รับแต่งตั้งโดยถูกต้อง ผู้สังเกตการณ์ขององค์การสหประชาชาติฯ รวมถึงผู้แทนของรัฐอื่นใดที่มิได้เป็นภาคีอนุสัญญาที่เข้าร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ เป็นต้น ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ตามที่ระบุไว้ในความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและสำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ (ร่างมาตรา 4)

2.3 กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 ธันวาคม 2555--จบ--


แท็ก รัฐบาลไทย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ