คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการโอนทรัพย์สินของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2541 ไปเป็นทรัพย์สินของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 38 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2546 ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ
ทั้งนี้ การโอนทรัพย์สินของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายในข้อ 5 อันมีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันปัญหาความซ้ำซ้อนหรือขัดแย้งในการดำเนินกิจการขององค์การมหาชนกับหน่วยงานอื่น ซึ่งกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ได้พิจารณาเห็นชอบแล้วด้วย
กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) รายงานว่า
1. พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2546 มาตรา 38 ระบุว่า เมื่อพระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ให้สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2547 เป็นอันยุบเลิก และให้รัฐมนตรีเสนอคณะรัฐมนตรีดำเนินการตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 เพื่ออนุมัติให้มีการโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และเงินงบประมาณของสถาบันของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณี ฯ ไปเป็นของสถาบันตามพระราชกฤษฎีกานี้
2. คณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบัน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบัน ประกอบด้วยตัวอย่างอัญมณีและเครื่องประดับที่ใช้ในการตรวจสอบใช้ในการฝึกอบรม และจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ อุปกรณ์สำหรับการตรวจสอบอัญมณี อุปกรณ์สำหรับการฝึกอบรม รวมทั้งครุภัณฑ์สำนักงานให้เป็นไปตามทะเบียนทรัพย์สินอัญมณีของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546 และนำเสนอรายงานการตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบันต่อประธานกรรมการบริหารสถาบันฯ เพื่อโอนเป็นทรัพย์สินของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบัน ฯ พ.ศ. 2546 มาตรา 38
3. คณะทำงานตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบันได้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบันเสร็จแล้ว พบว่าถูกต้องตามทะเบียนทรัพย์สินของสถาบัน โดยมีทรัพย์สินประเภทครุภัณฑ์มูลค่ารวมทั้งสิ้น 65,030,476.77 บาท และได้นำเสนอรายงานการตรวจสอบดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันฯ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2547 ซึ่งที่ประชุมมีมติรับรองรายงานผลการตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบันดังกล่าวแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 ตุลาคม 2547--จบ--
-กภ-
ทั้งนี้ การโอนทรัพย์สินของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายในข้อ 5 อันมีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันปัญหาความซ้ำซ้อนหรือขัดแย้งในการดำเนินกิจการขององค์การมหาชนกับหน่วยงานอื่น ซึ่งกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ได้พิจารณาเห็นชอบแล้วด้วย
กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) รายงานว่า
1. พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2546 มาตรา 38 ระบุว่า เมื่อพระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ให้สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2547 เป็นอันยุบเลิก และให้รัฐมนตรีเสนอคณะรัฐมนตรีดำเนินการตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 เพื่ออนุมัติให้มีการโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และเงินงบประมาณของสถาบันของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณี ฯ ไปเป็นของสถาบันตามพระราชกฤษฎีกานี้
2. คณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบัน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบัน ประกอบด้วยตัวอย่างอัญมณีและเครื่องประดับที่ใช้ในการตรวจสอบใช้ในการฝึกอบรม และจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ อุปกรณ์สำหรับการตรวจสอบอัญมณี อุปกรณ์สำหรับการฝึกอบรม รวมทั้งครุภัณฑ์สำนักงานให้เป็นไปตามทะเบียนทรัพย์สินอัญมณีของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546 และนำเสนอรายงานการตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบันต่อประธานกรรมการบริหารสถาบันฯ เพื่อโอนเป็นทรัพย์สินของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบัน ฯ พ.ศ. 2546 มาตรา 38
3. คณะทำงานตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบันได้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบันเสร็จแล้ว พบว่าถูกต้องตามทะเบียนทรัพย์สินของสถาบัน โดยมีทรัพย์สินประเภทครุภัณฑ์มูลค่ารวมทั้งสิ้น 65,030,476.77 บาท และได้นำเสนอรายงานการตรวจสอบดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันฯ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2547 ซึ่งที่ประชุมมีมติรับรองรายงานผลการตรวจสอบทรัพย์สินของสถาบันดังกล่าวแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 ตุลาคม 2547--จบ--
-กภ-