(ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี
และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี เป็นทางต้องเสีย
ค่าผ่านทางพิเศษประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอดังนี้
สาระสำคัญของเรื่อง
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีหนังสือขอให้กระทรวงคมนาคมเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ กรณีการทางพิเศษแห่งประเทศไทยยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2556 สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. เพื่อให้การดำเนินการจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2550 ตามมาตรา 5 มาตรา 19 และมาตรา 39 จึงได้ออกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษ ประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 โดยมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นให้ผู้ใช้รถบนทางพิเศษสายดังกล่าวไม่ต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษตามอัตราที่ประกาศ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2555 เวลา 00.01 นาฬิกา ถึงวันที่ 3 มกราคม 2556 เวลา 24.00 นาฬิกา ซึ่งคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้มีมติเห็นชอบ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นชอบและลงนามในประกาศกระทรวงคมนาคมแล้ว
2. การดำเนินการยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษดังกล่าว คาดว่าจะมีปริมาณการจราจรที่ใช้ทางพิเศษ ทั้งสิ้น 882,256 คัน จะทำให้สูญเสียรายได้ประมาณ 36,613,624 บาท แต่จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจประเมินเป็นมูลค่าเงิน จำนวน 13,727,920 บาท ซึ่งประกอบด้วย มูลค่าจากการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้รถ (Vehicle Operating Cost Saving: VOC Saving) 2,171,832 บาท และมูลค่าจากการประหยัดเวลาในการเดินทาง (Value of Time Saving: VOT Saving) 11,556,088 บาท อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากผลประโยชน์ที่ประเมินเป็นมูลค่าเงินได้ (VOC Saving, VOT Saving) ยังมีผลประโยชน์ที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าเงินได้ ได้แก่ ความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยต่อผู้ใช้ทางพิเศษและลดมลพิษทางอากาศบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ อีกทั้ง เป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางพิเศษในช่วงเทศกาลที่มีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก และเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยที่มีต่อประชาชนเพื่อให้เกิดเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยงาน และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีมากขึ้น และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการอำนวยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 ธันวาคม 2555--จบ--