การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 26, 2012 11:09 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ

(The United Nations Population Fund-UNFPA) ประจำประเทศไทยและกระทรวงสาธารณสุข

ราชอาณาจักรภูฏานว่าด้วยการดำเนินงานความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบไตรภาคี

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอดังนี้

1. อนุมัติให้ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (The United Nations Population Fund-UNFPA) ประจำประเทศไทยและกระทรวงสาธารณสุขราชอาณาจักรภูฏานว่าด้วยการดำเนินงานความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบไตรภาคี และลงนามในเอกสารย่อยภายใต้บันทึกความเข้าใจดังกล่าวโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก

2. หากมีความจำเป็นต้องปรับแก้ถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก

สาระสำคัญของเรื่อง

กต. รายงานว่า

1. คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติร่างกรอบความร่วมมือหุ้นส่วนระหว่างไทยกับสหประชาชาติ ปี ค.ศ. 2012-2016 (UNPAF 2012-2016) (มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 26 เมษายน 2554, 2 เมษายน 2555) โดยมีความร่วมมือ 6 สาขา ดังนี้ 1) การคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) 2) สิทธิมนุษยชนและการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม (Human Rights and Access to justice) 3) ข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Information) 4) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) 5) ความร่วมมือระหว่างประเทศ (International Cooperation) 6) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)

2. ภายใต้สาขาความร่วมมือระหว่างประเทศ (International Cooperation) สพร. กต. ได้ลงนามในเอกสารแผนปฏิบัติการรายปี (Annual Work Plan 2012) กับสำนักงาน UNFPA เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในรูปแบบ South-South Cooperation ในด้านการพัฒนาประชากรและอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งภายใต้แผนปฏิบัติการดังกล่าว สพร. และสำนักงาน UNFPA ได้เห็นชอบร่วมกันที่จะให้ความช่วยเหลือแก่กระทรวงสาธารณสุขราชอาณาจักรภูฏานเพื่อพัฒนาด้านสาธารณสุขและการให้บริการ โดยทั้งสามฝ่ายเห็นควรจัดทำบันทึกความเข้าใจเพื่อกำหนดกิจกรรมและความรับผิดชอบในการดำเนินงานความร่วมมือไตรภาคีดังกล่าว และได้เห็นชอบถ้อยคำร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ด้วยแล้ว

3. ร่างบันทึกความเข้าใจความร่วมมือไตรภาคีฯ เป็นเอกสารกำหนดกรอบความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาระหว่าง กต. โดย สพร. สำนักงาน UNFPA ประจำประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุขราชอาณาจักรภูฏานในการพัฒนาด้านสาธารณสุขและการบริการ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในการส่งเสริมการดำเนินงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในรูปแบบ South-South Cooperation ของไทยในเวทีระหว่างประเทศ

4. การดำเนินงานความร่วมมือนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานการร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่าย โดยประเทศไทยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของผู้รับทุนและสำนักงาน UNFPA ประจำประเทศไทยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดหลักสูตรฝึกอบรม/ดูงาน ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ลงนามไปจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแจ้งขอยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 6 เดือน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 ธันวาคม 2555--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ