คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ตามที่กระทรวงการคลังเสนอแล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้โรงงานยาสูบฯ ดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่พร้อมเครื่องจักรที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยวิธีการจัดหาผู้รับจ้างแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล ระหว่างประเทศไทยกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และให้ดำเนินการการค้าต่างตอบแทนตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
2. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในสัญญาระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล และให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแจ้งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อกำหนดตัวบุคคลและมอบอำนาจลงนามในสัญญาทั้งระดับรัฐบาลและระดับผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้ ผู้ลงนามในระดับผู้ดำเนินการนั้น ผู้อำนวยการยาสูบได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว
3. วงเงินลงทุนโครงการ
3.1 อนุมัติปรับเพิ่มวงเงินลงทุนที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวงเงินลงทุนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ (จังหวัดเชียงใหม่) ตามรายการที่ปรากฏใน TOR จาก 13,014.00 ล้านบาท เป็น 14,733.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,719.50 ล้านบาท
3.2 อนุมัติวงเงินลงทุนเพิ่มเติมจำนวน 2,736.30 ล้านบาท ตามระบบในกระบวนการผลิตบางระบบซึ่งบริษัท CYC เสนอเพิ่มเติมจาก TOR เนื่องจากเป็นระบบที่จะช่วยทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพ และมีความสมบูรณ์โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและช่วยลดต้นทุนในการผลิตและรองรับการแข่งขันในอนาคต
3.3 อนุมัติวงเงินค่าจ้างที่ปรึกษา จำนวน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เกี่ยวข้องกับโครงการและเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการบริหารโครงการ
3.4 อนุมัติให้โรงงานยาสูบฯ เบิกจ่ายเงินสำหรับวงเงินลงทุนที่เปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เกิดขึ้นจริง สรุป วงเงินลงทุนของโครงการฯ ประกอบด้วย วงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเดิมจำนวน 13,094.00 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นอีกตามข้อ 3.1 จำนวน 1,719.50 ล้านบาท ข้อ 3.2 จำนวน 2,736.30 ล้านบาท และข้อ 3.3 จำนวน 200.00 ล้านบาท รวมเพิ่มขึ้นจำนวน 4,655.80 ล้านบาท และอนุมัติให้โรงงานยาสูบฯ เบิกจ่ายเงินสำหรับวงเงินลงทุนที่เปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศที่เกิดขึ้นจริง
4. การขยายระยะเวลากันเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน
อนุมัติให้โรงงานยาสูบฯ ขยายระยะเวลากันเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากการดำเนินงานจาก ปี 2545 - 2549 เป็น ปี 2545 --2551 ตามกรอบวงเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ตามข้อ 3.3 ทั้งนี้ เพื่อโรงงานยาสูบฯ มีเงินลงทุนเพียงพอ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาวงเงินในแต่ละปี ให้สอดคล้องกับภาระการลงทุนจริงและสถานะทางการเงินของโรงงานยาสูบฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 ตุลาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. อนุมัติให้โรงงานยาสูบฯ ดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่พร้อมเครื่องจักรที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยวิธีการจัดหาผู้รับจ้างแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล ระหว่างประเทศไทยกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และให้ดำเนินการการค้าต่างตอบแทนตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
2. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในสัญญาระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล และให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแจ้งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อกำหนดตัวบุคคลและมอบอำนาจลงนามในสัญญาทั้งระดับรัฐบาลและระดับผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้ ผู้ลงนามในระดับผู้ดำเนินการนั้น ผู้อำนวยการยาสูบได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว
3. วงเงินลงทุนโครงการ
3.1 อนุมัติปรับเพิ่มวงเงินลงทุนที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวงเงินลงทุนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ (จังหวัดเชียงใหม่) ตามรายการที่ปรากฏใน TOR จาก 13,014.00 ล้านบาท เป็น 14,733.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,719.50 ล้านบาท
3.2 อนุมัติวงเงินลงทุนเพิ่มเติมจำนวน 2,736.30 ล้านบาท ตามระบบในกระบวนการผลิตบางระบบซึ่งบริษัท CYC เสนอเพิ่มเติมจาก TOR เนื่องจากเป็นระบบที่จะช่วยทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพ และมีความสมบูรณ์โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและช่วยลดต้นทุนในการผลิตและรองรับการแข่งขันในอนาคต
3.3 อนุมัติวงเงินค่าจ้างที่ปรึกษา จำนวน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เกี่ยวข้องกับโครงการและเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการบริหารโครงการ
3.4 อนุมัติให้โรงงานยาสูบฯ เบิกจ่ายเงินสำหรับวงเงินลงทุนที่เปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เกิดขึ้นจริง สรุป วงเงินลงทุนของโครงการฯ ประกอบด้วย วงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเดิมจำนวน 13,094.00 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นอีกตามข้อ 3.1 จำนวน 1,719.50 ล้านบาท ข้อ 3.2 จำนวน 2,736.30 ล้านบาท และข้อ 3.3 จำนวน 200.00 ล้านบาท รวมเพิ่มขึ้นจำนวน 4,655.80 ล้านบาท และอนุมัติให้โรงงานยาสูบฯ เบิกจ่ายเงินสำหรับวงเงินลงทุนที่เปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศที่เกิดขึ้นจริง
4. การขยายระยะเวลากันเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน
อนุมัติให้โรงงานยาสูบฯ ขยายระยะเวลากันเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากการดำเนินงานจาก ปี 2545 - 2549 เป็น ปี 2545 --2551 ตามกรอบวงเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ตามข้อ 3.3 ทั้งนี้ เพื่อโรงงานยาสูบฯ มีเงินลงทุนเพียงพอ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาวงเงินในแต่ละปี ให้สอดคล้องกับภาระการลงทุนจริงและสถานะทางการเงินของโรงงานยาสูบฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 ตุลาคม 2547--จบ--
-กภ-