คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานสรุปผลความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ดังนี้
1. การติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง
1.1 ให้กรมชลประทาน และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สำรวจพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งทุกจังหวัด
1.2 ให้หัวหน้าโครงการชลประทานจังหวัดประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยแล้งสอบถาม จำนวน และระยะเวลาความต้องการเครื่องสูบน้ำจากกรมชลประทาน
1.3 มอบหมายให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ และในกรณีที่เกิดเหตุภัยพิบัติภัยแล้งดังกล่าวขึ้นในท้องที่ใดให้นำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาประกาศให้เป็นภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้สามารถขออนุมัติใช้เงินทดรองราชการภายในวงเงิน 50 ล้านบาท ทั้งในส่วนที่เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2. การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
2.1 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดนโยบาย มาตรการและเป้าหมายการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2547/48 ดังนี้
(1) เป้าหมายการปลูกพืชฤดูแล้ง 2547/48
นาปรัง พืชไร่ รวม
ในเขตชลประทาน 5.40 0.80 6.20
นอกเขตประทาน 2.12 1.80 3.92
7.52 2.60 10.12
(2) โครงการสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2547/48
1) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งทดแทนนาปรังปี 2547/48 จำนวน 50,000 ไร่ เกษตรกร 5,000 ราย ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวม 13 จังหวัด
2) โครงการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย (พื้นที่เขตชลประทาน) จำนวน 8,000 ไร่ เกษตรกร 4,000 ราย ในเขตภาคเหนือ 11 จังหวัด ภคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ภาคกลาง 13 จังหวัด และภาคใต้ 2 จังหวัด
(3) การประชาสัมพันธ์ ให้มีการประชาสัมพันธ์ทางสื่อมวลชนต่าง ๆ ในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง และนำสื่อมวลชนดูงานในพื้นที่ โดยมีประเด็นในการประชาสัมพันธ์ ดังนี้
1) สถานการณ์น้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ แผนการจัดสรรน้ำของกรมชลประทาน
2) รณรงค์การใช้น้ำชลประทานอย่างประหยัดและการปฏิบัติตามรอบเวรการส่งน้ำ
3) สถานการณ์และแนวโน้มด้านการตลาด
4) เทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืช และการดูแลพืชผลเมื่อประสบปัญหาภัยแล้ง
5) การเตือนเรื่องศัตรูพืชและภัยแล้ง
2.2 การช่วยเหลือเฉพาะหน้า
(1) ในเขตชลประทาน : เนื่องจากจังหวัดร้อยเอ็ด เกิดสภาพฝนทิ้งช่วง ทำให้ในเขตพื้นที่อ.เกษตรวิสัย อ.ปทุมรัตน์ ประสบปัญหาภัยแล้ง ข้าวกล้าและพืชผลการเกษตรของราษฎรขาดแคลนน้ำแห้งตาย กรมชลประทานได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนแล้ว ส่วนจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง อยู่ในเกณฑ์น้อยไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในพื้นที่ของโครงการฯ ได้ กรมชลประทานจึงได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เกษตรและสหกรณ์จังหวัด นายอำเภอและเกษตรอำเภอหัวหน้ากลุ่มผู้ใช้น้ำในเขตโครงการ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ระงับการปลูกพืชฤดูแล้ง 2547/2548 โดยเด็ดขาด เพื่อเก็บกักสำรองน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภค การประปา เป็นหลัก และเพื่อลดสภาวะที่เสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำกิน-น้ำใช้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูแล้งนี้ด้วย
(2) นอกเขตชลประทาน : ให้กรมชลประทานประสานกับกระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อบูรณาการช่วยเหลือเรื่อง เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ ยานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่น ฯลฯ
2.3 การปฏิบัติการฝนหลวง ได้จัดตั้งฐานปฏิบัติการฝนหลวง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 4 ฐาน ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคกลาง จังหวัดลพบุรี และภาคใต้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
การปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเดือนตุลาคมนี้ประสบปัญหาความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสมในการทำฝนหลวง (ต่ำกว่า 60%) การปฏิบัติการจึงประสบคามสำเร็จน้อย ถึงแม้ว่าจะสามารถทำให้มีฝนตกบ้างในบางวันและบางพื้นที่ แต่ยังคงปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไป พร้อมทั้งเร่งรัดการซ่อมบำรุงเครื่องบินและอุปกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่คาดว่าจะมีความรุนแรงยิ่งขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2548 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 ตุลาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. การติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง
1.1 ให้กรมชลประทาน และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สำรวจพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งทุกจังหวัด
1.2 ให้หัวหน้าโครงการชลประทานจังหวัดประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยแล้งสอบถาม จำนวน และระยะเวลาความต้องการเครื่องสูบน้ำจากกรมชลประทาน
1.3 มอบหมายให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ และในกรณีที่เกิดเหตุภัยพิบัติภัยแล้งดังกล่าวขึ้นในท้องที่ใดให้นำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาประกาศให้เป็นภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้สามารถขออนุมัติใช้เงินทดรองราชการภายในวงเงิน 50 ล้านบาท ทั้งในส่วนที่เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2. การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
2.1 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดนโยบาย มาตรการและเป้าหมายการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2547/48 ดังนี้
(1) เป้าหมายการปลูกพืชฤดูแล้ง 2547/48
นาปรัง พืชไร่ รวม
ในเขตชลประทาน 5.40 0.80 6.20
นอกเขตประทาน 2.12 1.80 3.92
7.52 2.60 10.12
(2) โครงการสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2547/48
1) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งทดแทนนาปรังปี 2547/48 จำนวน 50,000 ไร่ เกษตรกร 5,000 ราย ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวม 13 จังหวัด
2) โครงการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย (พื้นที่เขตชลประทาน) จำนวน 8,000 ไร่ เกษตรกร 4,000 ราย ในเขตภาคเหนือ 11 จังหวัด ภคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ภาคกลาง 13 จังหวัด และภาคใต้ 2 จังหวัด
(3) การประชาสัมพันธ์ ให้มีการประชาสัมพันธ์ทางสื่อมวลชนต่าง ๆ ในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง และนำสื่อมวลชนดูงานในพื้นที่ โดยมีประเด็นในการประชาสัมพันธ์ ดังนี้
1) สถานการณ์น้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ แผนการจัดสรรน้ำของกรมชลประทาน
2) รณรงค์การใช้น้ำชลประทานอย่างประหยัดและการปฏิบัติตามรอบเวรการส่งน้ำ
3) สถานการณ์และแนวโน้มด้านการตลาด
4) เทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืช และการดูแลพืชผลเมื่อประสบปัญหาภัยแล้ง
5) การเตือนเรื่องศัตรูพืชและภัยแล้ง
2.2 การช่วยเหลือเฉพาะหน้า
(1) ในเขตชลประทาน : เนื่องจากจังหวัดร้อยเอ็ด เกิดสภาพฝนทิ้งช่วง ทำให้ในเขตพื้นที่อ.เกษตรวิสัย อ.ปทุมรัตน์ ประสบปัญหาภัยแล้ง ข้าวกล้าและพืชผลการเกษตรของราษฎรขาดแคลนน้ำแห้งตาย กรมชลประทานได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนแล้ว ส่วนจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง อยู่ในเกณฑ์น้อยไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในพื้นที่ของโครงการฯ ได้ กรมชลประทานจึงได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เกษตรและสหกรณ์จังหวัด นายอำเภอและเกษตรอำเภอหัวหน้ากลุ่มผู้ใช้น้ำในเขตโครงการ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ระงับการปลูกพืชฤดูแล้ง 2547/2548 โดยเด็ดขาด เพื่อเก็บกักสำรองน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภค การประปา เป็นหลัก และเพื่อลดสภาวะที่เสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำกิน-น้ำใช้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูแล้งนี้ด้วย
(2) นอกเขตชลประทาน : ให้กรมชลประทานประสานกับกระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อบูรณาการช่วยเหลือเรื่อง เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ ยานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่น ฯลฯ
2.3 การปฏิบัติการฝนหลวง ได้จัดตั้งฐานปฏิบัติการฝนหลวง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 4 ฐาน ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคกลาง จังหวัดลพบุรี และภาคใต้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
การปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเดือนตุลาคมนี้ประสบปัญหาความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสมในการทำฝนหลวง (ต่ำกว่า 60%) การปฏิบัติการจึงประสบคามสำเร็จน้อย ถึงแม้ว่าจะสามารถทำให้มีฝนตกบ้างในบางวันและบางพื้นที่ แต่ยังคงปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไป พร้อมทั้งเร่งรัดการซ่อมบำรุงเครื่องบินและอุปกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่คาดว่าจะมีความรุนแรงยิ่งขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2548 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 ตุลาคม 2547--จบ--
-กภ-