คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณอุดหนุนโครงการเปลี่ยนอาชีพของพนักงานส่วนท้องถิ่นให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ตามความเห็นของคณะกรรมการมาตรการพัฒนาและบริหารกำลังคนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
1. เห็นควรให้องค์กรปกครองท้องถิ่นนำแนวทางของมาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 2 ไปปรับใช้โดยคำนวณสิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 8-15 เท่าของเงินเดือน รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) โดยนำเงินเดือน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547 มาเป็นฐานในการคำนวณเงินก้อน
2. เห็นควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำเงินงบประมาณซึ่งปรับปรุงรายการใช้จ่ายจากเงินอุดหนุนที่ตั้งงบประมาณไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อสนับสนุนการถ่ายโอนบุคลากรและเงินอุดหนุนด้านการศึกษามาใช้สำหรับการจ่ายเงินก้อนผู้ที่ออกจากราชการตามโครงการดังกล่าว
3. สำหรับการนำแนวทางของมาตรการที่ 3 ไปปรับใช้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีผู้ปฏิบัติงานเป็นจำนวนน้อย บางแห่งมีผู้ปฏิบัติงาน 3-5 คน และเมื่อคำนวณร้อยละ 5 ของผู้ปฏิบัติงานแล้ว จะมีไม่ถึง 1 คน ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจพิจารณากำหนดแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้เหมาะสมสอดคล้องกับท้องถิ่นเองได้ โดยให้สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น) และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ปรับปรุงรายการใช้จ่ายเงินจากเงินอุดหนุนที่ตั้งงบประมาณไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อสนับสนุนการถ่ายโอนบุคลากรและเงินอุดหนุนด้านการศึกษามาใช้สำหรับโครงการดังกล่าว และให้กระทรวงมหาดไทยรับประเด็นอภิปรายไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ประเด็นอภิปรายระบุว่า ปัจจุบันได้มีการถ่ายโอนภารกิจของการบริหารราชการส่วนกลางไปสู่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก ทำให้ภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเพิ่มมากขึ้น มีความจำเป็นต้องใช้บุคคลากรเพื่อปฏิบัติงานรองรับการกระจายอำนาจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการครูขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความจำเป็นต้องมีจำนวนที่สอดคล้องกับจำนวนนักเรียน การยุบอัตรากำลังของข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน อาจเกิดปัญหาในการทำงานได้ สมควรที่จะมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาดำเนินการปรับอัตรากำลังและตำแหน่งข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้เหมาะสมสอดคล้องกับภารกิจ และหากภารกิจในตำแหน่งใดไม่มีความจำเป็นหรือไม่อาจปรับภารกิจได้ก็ให้ยุบอัตราตำแหน่งนั้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-
1. เห็นควรให้องค์กรปกครองท้องถิ่นนำแนวทางของมาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 2 ไปปรับใช้โดยคำนวณสิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 8-15 เท่าของเงินเดือน รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) โดยนำเงินเดือน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547 มาเป็นฐานในการคำนวณเงินก้อน
2. เห็นควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำเงินงบประมาณซึ่งปรับปรุงรายการใช้จ่ายจากเงินอุดหนุนที่ตั้งงบประมาณไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อสนับสนุนการถ่ายโอนบุคลากรและเงินอุดหนุนด้านการศึกษามาใช้สำหรับการจ่ายเงินก้อนผู้ที่ออกจากราชการตามโครงการดังกล่าว
3. สำหรับการนำแนวทางของมาตรการที่ 3 ไปปรับใช้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีผู้ปฏิบัติงานเป็นจำนวนน้อย บางแห่งมีผู้ปฏิบัติงาน 3-5 คน และเมื่อคำนวณร้อยละ 5 ของผู้ปฏิบัติงานแล้ว จะมีไม่ถึง 1 คน ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจพิจารณากำหนดแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้เหมาะสมสอดคล้องกับท้องถิ่นเองได้ โดยให้สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น) และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ปรับปรุงรายการใช้จ่ายเงินจากเงินอุดหนุนที่ตั้งงบประมาณไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อสนับสนุนการถ่ายโอนบุคลากรและเงินอุดหนุนด้านการศึกษามาใช้สำหรับโครงการดังกล่าว และให้กระทรวงมหาดไทยรับประเด็นอภิปรายไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ประเด็นอภิปรายระบุว่า ปัจจุบันได้มีการถ่ายโอนภารกิจของการบริหารราชการส่วนกลางไปสู่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก ทำให้ภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเพิ่มมากขึ้น มีความจำเป็นต้องใช้บุคคลากรเพื่อปฏิบัติงานรองรับการกระจายอำนาจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการครูขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความจำเป็นต้องมีจำนวนที่สอดคล้องกับจำนวนนักเรียน การยุบอัตรากำลังของข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน อาจเกิดปัญหาในการทำงานได้ สมควรที่จะมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาดำเนินการปรับอัตรากำลังและตำแหน่งข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้เหมาะสมสอดคล้องกับภารกิจ และหากภารกิจในตำแหน่งใดไม่มีความจำเป็นหรือไม่อาจปรับภารกิจได้ก็ให้ยุบอัตราตำแหน่งนั้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-