1. เห็นชอบมาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมจากการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และ
2. เห็นชอบในหลักการ
2.1 ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
2.2 ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้
3. มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) และกระทรวงคมนาคม (คค.) ดำเนินการยกร่างกฎหมายเพื่อลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่เกี่ยวข้องในคราวเดียวกัน ได้แก่ เครื่องจักร และรถที่อยู่ระหว่างการให้ลูกหนี้เช่าซื้อ และให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
4. มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของหน่วยงานดังกล่าวไปดำเนินการต่อไปด้วย
ข้อเท็จจริง
กค. เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาว่า
1. พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 502) พ.ศ. 2553 ซึ่งให้สิทธิประโยชน์แก่สถาบันการเงินในการยกเว้นภาษีเงินได้ อันเนื่องมาจากการที่สถาบันการเงินควบเข้ากันหรือโอนกิจการให้แก่กันตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 โดยสิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้สิ้นสุด ลงแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2554
2. ปัจจุบันยังคงมีสถาบันการเงินบางแห่งอยู่ระหว่างการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2554 จึงไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ตามพระราชกฤษฎีกาตามข้อ 1. ได้ เพื่อช่วยให้การควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่องและเสริมสร้างความมั่นคงให้กับสถาบันการเงิน จึงเห็นควรขยายระยะเวลาของมาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมจากการควบรวมกิจการดังกล่าวต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557
3. ในการควบรวมกิจการของสถาบันการเงินจะต้องมีการโอนสิทธิและนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องระหว่างสถาบันการเงินที่โอนและรับโอนกิจการ ได้แก่ เครื่องจักรและรถที่อยู่ระหว่างการให้ลูกหนี้เช่าซื้อ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเครื่องจักรและค่าธรรมเนียมการโอนทะเบียนรถที่เป็นค่าใช้จ่าย ซึ่ง อก. และ คค. สมควรดำเนินการยกร่างกฎหมายเพื่อลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่เกี่ยวข้องในคราวเดียวกันด้วย
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างประกาศ
1) ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้แก่ผู้ถือหุ้นของสถาบันการเงิน และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่สถาบันการเงินเฉพาะการควบเข้ากันหรือโอนกิจการให้แก่กัน ที่ได้กระทำภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552
2) ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด กำหนดให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ กรณีที่มีทุนทรัพย์ ในอัตราร้อยละ 0.01 สำหรับสถาบันการเงินที่ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่กันตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 ตั้งแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557
3) ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด กำหนดให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองห้องชุด กรณีที่มีทุนทรัพย์ ในอัตราร้อยละ 0.01 สำหรับสถาบันการเงินที่ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่กันตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 ตั้งแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 มกราคม 2556--จบ--