คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานภาวะการค้าและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนตุลาคม 2547 (18-22 ตุลาคม 2547) โดยเปรียบเทียบกับสัปดาห์ที่ 3 เดือนตุลาคม 2547 (11-15 ตุลาคม 2547) ดังนี้
1. สถานการณ์การค้าที่สำคัญ
1.1 การตรึงราคาสินค้า กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการผลิตและนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคหมวดต่าง ๆ ที่สำคัญ ให้ตรึงราคาสินค้าจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2548 โดยสินค้าใดที่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นได้ จะมีการพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ซึ่งจะพิจารณาให้ทยอยปรับราคาเป็นระยะหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เป็นต้นไป
1.2 การปรับเวลาเปิด-ปิดบริการธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณากำหนดเวลา เปิด-ปิดบริการธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกในช่วงเทศกาลปีใหม่ (4 ธันวาคม 2547-4 มกราคม 2548) ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี ดังนี้
(1) Department Store ได้กำหนดเวลาเป็น 3 ช่วง คือ ในช่วงเทศกาล 1 เดือน เปิดทำการตั้งแต่ 10.00- 22.00 น. ช่วงวันที่ 24-30 ธันวาคม 2547 เปิดทำการ ตั้งแต่เวลา 10.00 23.00 น. และวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เปิดทำการตั้งแต่ 10.00-24.00 น.
(2) Hyper Mart ใน กรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยวเปิดทำการตั้งแต่ 08.00-24.00 น. ในต่างจังหวัดเปิดทำการตั้งแต่ 09.00-23.00 น.
สำหรับเวลาเปิด-ปิดหลังครบกำหนดการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดพลังงาน (วันที่ 8 พฤศจิกายน 2547) กระทรวงพาณิชย์จะหารือกับกระทรวงพลังงานเพื่อพิจารณากำหนดเวลาทำการที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
2. ความเคลื่อนไหวราคาสินค้า สินค้าที่มีการเคลื่อนไหวด้านราคาอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่
2.1 หมวดวัสดุก่อสร้าง สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ สังกะสี ราคาสูงขึ้นจาก 13-15.50 บาท/ฟุต เป็น 15-16.50 บาท/ฟุต เฉลี่ยสูงขึ้น 1.50 บาท/ฟุต เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าสูงขึ้นตามภาวะราคาเหล็กตลาดโลกที่คงอยู่ในระดับสูง ท่อพีวีซี ราคาสูงขึ้นจาก 48-60 บาท/ท่อน เป็น 48-65 บาท/ท่อน เฉลี่ยสูงขึ้น 2.50 บาท/ท่อน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากต้นทุนเม็ดพลาสติกที่ปรับเพิ่มขึ้น กระจก ราคาสูงขึ้นจาก 25-30 บาท/ตร.ฟุต เป็น 28-30 บาท/ตร.ฟุต เฉลี่ยสูงขึ้น 1.50 บาท/ตร.ฟุต โดยมีสาเหตุจากน้ำยาสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบในการผลิตปรับราคาสูงขึ้น
2.2 หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม สินค้าในหมวดนี้ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ราคาสูงขึ้นจาก 20.99 บาท/ลิตร และ 21.79 บาท/ลิตร เป็น 21.59 บาท/ลิตร และ 22.39 บาท/ลิตร ตามลำดับ เฉลี่ยสูงขึ้น 0.60 บาท/ลิตร ถุงพลาสติก ราคาสูงขึ้นจาก 66-74 บาท/กก. เป็น 70-74 บาท/กก. เฉลี่ยสูงขึ้น 2 บาท/กก.
2.3 หมวดปัจจัยทางการเกษตร สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ราคาสูงขึ้นจาก 445 บาท/กระสอบ เป็น 450 บาท/กระสอบ เป็นผลจากแม่ปุ๋ยที่นำเข้าจากต่างประเทศราคาสูงขึ้น สำหรับสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ยากำจัด วัชพืช ราคาลดลงจาก 160-170 บาท/ลิตร เป็น 160-165 บาท/ลิตร เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูแล้งทำให้ความต้องการใช้ลดลง
2.4 หมวดอาหารสด สินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ไก่สด ราคาลดลงจาก 40-45 บาท/กก. เป็น 40-42 บาท/กก. เฉลี่ยลดลง 1.50 บาท/กก. โดยมีสาเหตุจากจิตวิทยาเกี่ยวกับการระบาดของโรคไข้หวัดนกที่ยังไม่คลี่คลายและอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้การบริโภคไก่ลดลง
2.5 หมวดผักสดและผลไม้ ราคาสินค้ามีทั้งลดลงและสูงขึ้นตามภาวะตลาดและฤดูกาล โดยผักคะน้า ราคาลดลงจาก 22-25 บาท/กก. เป็น 18-22 บาท/กก. เฉลี่ยลดลง 3.50 บาท/กก. ผักชี ราคาลดลงจาก 7-11 บาท/ขีด เป็น 7-8 บาท/ขีด เฉลี่ยลดลง 1.50 บาท/ขีด ผักบุ้งจีน ราคาลดลงจาก 15-20 บาท/กก. เป็น 12-20 บาท/กก. เฉลี่ยลดลง 1.50 บาท/กก. เพราะว่าผลผลิตยังคงทยอยออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก สำหรับ เงาะ ราคาสูงขึ้นจาก 15-18 บาท/กก. เป็น 15-20 บาท/กก. เฉลี่ยสูงขึ้น 1 บาท/กก. เนื่องจากได้เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฤดูกาลผลิต ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยกว่าปกติ ในขณะที่ความต้องการบริโภคเท่าเดิม
ทั้งนี้สินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยกเว้น สินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ปูนซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์นม น้ำดื่ม น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว และน้ำตาลทราย
3. ผลการตรวจสอบ
3.1 การตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับสูงขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2547 กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนทั้งสิ้น 156 ราย โดยเป็นการสุ่มตรวจสอบในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 119 ราย และตรวจสอบตามข้อร้องเรียน เกี่ยวกับพฤติกรรมการฉวยโอกาสของสาถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศ จำนวน 37 ราย พบการกระทำผิดปรับราคาก่อนกำหนด จำนวน 1 ราย ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
3.2 การตรวจสอบผู้ประกอบการทั่วไป ได้ดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบการค้าทั้งสิ้น 10,046 ราย โดยจำแนกตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 จำนวน 4,436 ราย พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า จำนวน 5 ราย และราคาจำหน่ายสินคาไม่ตรงกับป้ายแสดงราคา จำนวน 1 ราย สำหรับ พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 จำนวน 5,610 ราย พบการกระทำผิดมาตรวัดปริมาตรน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้มาตรฐาน จำนวน 2 ราย ทั้งนี้ในส่วนของผู้กระทำความผิดได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-
1. สถานการณ์การค้าที่สำคัญ
1.1 การตรึงราคาสินค้า กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการผลิตและนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคหมวดต่าง ๆ ที่สำคัญ ให้ตรึงราคาสินค้าจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2548 โดยสินค้าใดที่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นได้ จะมีการพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ซึ่งจะพิจารณาให้ทยอยปรับราคาเป็นระยะหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เป็นต้นไป
1.2 การปรับเวลาเปิด-ปิดบริการธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณากำหนดเวลา เปิด-ปิดบริการธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกในช่วงเทศกาลปีใหม่ (4 ธันวาคม 2547-4 มกราคม 2548) ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี ดังนี้
(1) Department Store ได้กำหนดเวลาเป็น 3 ช่วง คือ ในช่วงเทศกาล 1 เดือน เปิดทำการตั้งแต่ 10.00- 22.00 น. ช่วงวันที่ 24-30 ธันวาคม 2547 เปิดทำการ ตั้งแต่เวลา 10.00 23.00 น. และวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เปิดทำการตั้งแต่ 10.00-24.00 น.
(2) Hyper Mart ใน กรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยวเปิดทำการตั้งแต่ 08.00-24.00 น. ในต่างจังหวัดเปิดทำการตั้งแต่ 09.00-23.00 น.
สำหรับเวลาเปิด-ปิดหลังครบกำหนดการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดพลังงาน (วันที่ 8 พฤศจิกายน 2547) กระทรวงพาณิชย์จะหารือกับกระทรวงพลังงานเพื่อพิจารณากำหนดเวลาทำการที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
2. ความเคลื่อนไหวราคาสินค้า สินค้าที่มีการเคลื่อนไหวด้านราคาอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่
2.1 หมวดวัสดุก่อสร้าง สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ สังกะสี ราคาสูงขึ้นจาก 13-15.50 บาท/ฟุต เป็น 15-16.50 บาท/ฟุต เฉลี่ยสูงขึ้น 1.50 บาท/ฟุต เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าสูงขึ้นตามภาวะราคาเหล็กตลาดโลกที่คงอยู่ในระดับสูง ท่อพีวีซี ราคาสูงขึ้นจาก 48-60 บาท/ท่อน เป็น 48-65 บาท/ท่อน เฉลี่ยสูงขึ้น 2.50 บาท/ท่อน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากต้นทุนเม็ดพลาสติกที่ปรับเพิ่มขึ้น กระจก ราคาสูงขึ้นจาก 25-30 บาท/ตร.ฟุต เป็น 28-30 บาท/ตร.ฟุต เฉลี่ยสูงขึ้น 1.50 บาท/ตร.ฟุต โดยมีสาเหตุจากน้ำยาสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบในการผลิตปรับราคาสูงขึ้น
2.2 หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม สินค้าในหมวดนี้ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ราคาสูงขึ้นจาก 20.99 บาท/ลิตร และ 21.79 บาท/ลิตร เป็น 21.59 บาท/ลิตร และ 22.39 บาท/ลิตร ตามลำดับ เฉลี่ยสูงขึ้น 0.60 บาท/ลิตร ถุงพลาสติก ราคาสูงขึ้นจาก 66-74 บาท/กก. เป็น 70-74 บาท/กก. เฉลี่ยสูงขึ้น 2 บาท/กก.
2.3 หมวดปัจจัยทางการเกษตร สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ราคาสูงขึ้นจาก 445 บาท/กระสอบ เป็น 450 บาท/กระสอบ เป็นผลจากแม่ปุ๋ยที่นำเข้าจากต่างประเทศราคาสูงขึ้น สำหรับสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ยากำจัด วัชพืช ราคาลดลงจาก 160-170 บาท/ลิตร เป็น 160-165 บาท/ลิตร เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูแล้งทำให้ความต้องการใช้ลดลง
2.4 หมวดอาหารสด สินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ไก่สด ราคาลดลงจาก 40-45 บาท/กก. เป็น 40-42 บาท/กก. เฉลี่ยลดลง 1.50 บาท/กก. โดยมีสาเหตุจากจิตวิทยาเกี่ยวกับการระบาดของโรคไข้หวัดนกที่ยังไม่คลี่คลายและอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้การบริโภคไก่ลดลง
2.5 หมวดผักสดและผลไม้ ราคาสินค้ามีทั้งลดลงและสูงขึ้นตามภาวะตลาดและฤดูกาล โดยผักคะน้า ราคาลดลงจาก 22-25 บาท/กก. เป็น 18-22 บาท/กก. เฉลี่ยลดลง 3.50 บาท/กก. ผักชี ราคาลดลงจาก 7-11 บาท/ขีด เป็น 7-8 บาท/ขีด เฉลี่ยลดลง 1.50 บาท/ขีด ผักบุ้งจีน ราคาลดลงจาก 15-20 บาท/กก. เป็น 12-20 บาท/กก. เฉลี่ยลดลง 1.50 บาท/กก. เพราะว่าผลผลิตยังคงทยอยออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก สำหรับ เงาะ ราคาสูงขึ้นจาก 15-18 บาท/กก. เป็น 15-20 บาท/กก. เฉลี่ยสูงขึ้น 1 บาท/กก. เนื่องจากได้เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฤดูกาลผลิต ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยกว่าปกติ ในขณะที่ความต้องการบริโภคเท่าเดิม
ทั้งนี้สินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยกเว้น สินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ปูนซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์นม น้ำดื่ม น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว และน้ำตาลทราย
3. ผลการตรวจสอบ
3.1 การตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับสูงขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2547 กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนทั้งสิ้น 156 ราย โดยเป็นการสุ่มตรวจสอบในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 119 ราย และตรวจสอบตามข้อร้องเรียน เกี่ยวกับพฤติกรรมการฉวยโอกาสของสาถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศ จำนวน 37 ราย พบการกระทำผิดปรับราคาก่อนกำหนด จำนวน 1 ราย ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
3.2 การตรวจสอบผู้ประกอบการทั่วไป ได้ดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบการค้าทั้งสิ้น 10,046 ราย โดยจำแนกตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 จำนวน 4,436 ราย พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า จำนวน 5 ราย และราคาจำหน่ายสินคาไม่ตรงกับป้ายแสดงราคา จำนวน 1 ราย สำหรับ พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 จำนวน 5,610 ราย พบการกระทำผิดมาตรวัดปริมาตรน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้มาตรฐาน จำนวน 2 ราย ทั้งนี้ในส่วนของผู้กระทำความผิดได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-