และการปล้นโดยใช้อาวุธบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งประชาชาติที่ 2077 (ค.ศ. 2012) เกี่ยวกับการปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นโดยใช้อาวุธบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย (ขยายเวลาการดำเนินมาตรการออกไปจนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556) เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีที่ไทยมีต่อสหประชาชาติ โดยสอดคล้องกับกฎหมายภายในของไทย
2. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงคมนาคม กรมประมง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย) ถือปฏิบัติและแจ้งผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ กต. ทราบเพื่อประโยชน์ในการรายงานต่อสหประชาชาติต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
กต. รายงานว่า
1. เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 คณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้รับรองข้อมติ ที่ 2077 (ค.ศ. 2012) ขยายเวลาการดำเนินมาตรการเกี่ยวกับการปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นโดยใช้อาวุธบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย ออกไปจนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 เพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
2. สาระสำคัญของข้อมติ ที่ 2077 (ค.ศ. 2012) และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีดังนี้
2.1 ข้อ 7 เรียกร้องให้รัฐสมาชิกร่วมมือตามความเหมาะสมในเรื่องการจับตัวประกันและการดำเนินคดีกับโจรสลัดที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับตัวประกัน
2.2 ข้อ 10 เรียกร้องอีกครั้งให้รัฐสมาชิกและองค์กรระดับภูมิภาคที่มีขีดความสามารถที่จะกระทำได้เข้าร่วมปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นโดยใช้อาวุธบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย โดยการส่งกองกำลังเรือรบ อาวุธและอากาศยานทหาร และโดยการตรวจยึดและทำลายเรือ อาวุธ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ซึ่งถูกใช้ในการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นโดยใช้อาวุธบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย หรือมีเหตุอันน่าเชื่อถือได้ว่าจะถูกนำไปใช้ในการดังกล่าว โดยให้การปฏิบัติดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมตินี้และกฎหมายระหว่างประเทศ
2.3 ข้อ 12 สนับสนุนให้รัฐสมาชิกร่วมมือกับรัฐบาลโซมาเลียอย่างต่อเนื่องในการปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นโดยใช้อาวุธบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย โดยให้ความสำคัญกับบทบาทหลักของรัฐบาลโซมาเลียและตัดสินใจขยายอาณัติซึ่งอนุญาตให้รัฐสมาชิกและองค์กรระดับภูมิภาคที่ร่วมมือกับรัฐบาลโซมาเลีย สามารถเข้าไปในน่านน้ำของโซมาเลียและดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นโดยอาวุธออกไปอีก 12 เดือนนับจากวันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 โดยรัฐบาลโซมาเลียได้แจ้งให้เลขาธิการสหประชาชาติทราบล่วงหน้าแล้ว
2.4 ข้อ 18 เรียกร้องให้รัฐสมาชิกกำหนดการกระทำอันเป็นโจรสลัดเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายภายในของตน และพิจารณาดำเนินคดีผู้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นโจรสลัดที่ถูกจับบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย รวมทั้งผู้ประสานงานและผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินในการดำเนินการดังกล่าวที่อยู่บนบก และคุมขังผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ทั้งนี้ โดยสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
2.5 ข้อ 21 เรียกร้องให้รัฐสมาชิกดำเนินการตามที่เห็นสมควรภายใต้กฎหมายภายในของตน ในการป้องปรามการให้ความสนับสนุนทางการเงินอย่างผิดกฎหมายต่อการกระทำอันเป็นโจรสลัด รวมทั้งการฟอกเงินซึ่งได้มาจากการกระทำดังกล่าว
3. ในฐานะรัฐสมาชิกสหประชาชาติ การดำเนินการตามข้อมติ ที่ 2077 (ค.ศ. 2012) เป็นพันธกรณีที่ไทยในฐานะรัฐสมาชิกสหประชาชาติ ต้องปฏิบัติตามอยู่แล้วและไม่มีความเกี่ยวข้องกับมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 มกราคม 2556--จบ--