คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีนเพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจร่วมกันด้านความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชครั้งที่ 1 ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. พิธีสารข้อกำหนดทางเทคนิค ผัก ผลไม้
1.1 พิธีสารข้อกำหนดทางเทคนิคการส่งออกผลไม้จากไทยไปจีน และจากจีนมาไทย ที่ประชุมได้มีการเจรจาและได้ข้อสรุปของพิธีสาร 2 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมเกี่ยวกับข้อกำหนดมาตรการดำเนินการด้านศัตรูพืช และสารตกค้างต่างๆ ในผลไม้ 5 ชนิด จากไทยไปจีน ได้แก่ มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง และทุเรียน และจากจีนมาไทย 5 ชนิด ได้แก่ แอปเปิ้ล แพร์ พืชตระกูลส้ม พุทรา องุ่น ทั้งนี้ได้มีการแก้ไขข้อกำหนดที่เป็นข้อจำกัดหลายประการในการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน เช่น เดิมมีการจำกัดสวนส่งออกของทุเรียนและมะม่วง แต่ในพิธีสารฉบับใหม่ไม่ได้ระบุจำนวนสวนส่งออก โดยกำหนดให้เป็นสวนที่จดทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรเท่านั้น รวมทั้งไม่ต้องใช้มาตรการพิเศษใดๆ ในการกำจัดศัตรูพืชมะม่วงที่ส่งออกไปจีนเพียงแต่ต้องผ่านการรับรองว่าปลอดแมลงวันผลไม้เท่านั้น เป็นต้น
ขณะเดียวกัน การควบคุมการนำเข้าผลไม้ทั้ง 5 ชนิดจากจีนจะได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน เช่น ต้องเป็นสวนจดทะเบียนกับกระทรวงควบคุมคุณภาพและกักกันโรค เป็นต้น
อนึ่ง ได้มีการลงนามในพิธีสารทั้ง 2 ฉบับ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2547 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 6 เดือนภายหลังการลงนาม
1.2 การปฏิบัติเกี่ยวกับการส่งออกผลไม้อื่นๆ ที่ยังไม่ได้มีการทำพิธีสาร แต่มีการค้าขายกันอยู่แล้ว ให้ถือปฏิบัติดังเช่นปัจจุบันไปก่อน โดยจีนจะไม่ใช้มาตรการพิเศษใดๆ ที่จะเป็นอุปสรรคกับการค้าของไทยเพื่อไม่ให้เกิดการชะงักงันทางการค้า
1.3 การจัดทำพิธีสารการส่งออกผักจากจีนมาไทย ฝ่ายไทยเสนอให้ปรับเปลี่ยนสินค้าจากที่ครอบคลุมผักทุกชนิดเป็นกลุ่มผักแทน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบโดยให้มีการแลกเปลี่ยนรายชื่อสินค้าก่อน
2. การเร่งรัดการตรวจปล่อยสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้าจากไทย ตามมติคณะกรรมการกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งได้มีมติให้มีการดำเนินงานในลักษณะ fast track/fast manner รวมทั้งการจัดส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคมาประจำในประเทศไทยเพื่อตรวจสอบ ที่ประชุมได้หารือในเรื่องนี้ซึ่งฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณฝ่ายจีนที่เร่งรัดการตรวจปล่อยสินค้าจากไทยในลักษณะ fast manner แล้วในปัจจุบัน ที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันว่า การส่งเจ้าหน้าที่จากจีนมาประจำในไทยในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็น แต่การส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบตามพิธีสารและในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าเป็นปัญหา และจำเป็นต้องมีการตรวจสอบร่วมกันก็จะสามารถดำเนินการได้เป็นกรณีๆ ไป
3. การส่งเปิดตลาดส่งออกไก่สุก และความร่วมมือแก้ไขปัญหาไข้หวัดนก ฝ่ายจีนรับข้อเสนอของฝ่ายไทยในการเปิดตลาดไก่สุกและแปรรูป โดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโรงงานไก่สุกในไทย การเปิดตลาดไก่สุกครั้งนี้เป็นการขยายตลาดส่งออกของไทย ซึ่งหากมีการส่งเสริมอย่างจริงจังประเทศจีนจะเป็นตลาดส่งออกไก่สุกไทยที่มีความสำคัญและมั่นคงในอนาคตไม่นอยกว่าสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่ประชุมกำหนดกลไกให้มีการหารือกำหนดท่าทีและผลักดันร่วมกันในเวทีเจรจาระหว่างประเทศในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาไข้หวัดนกและอื่นๆ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนและหาแนวทางแก้ไขประเด็นปัญหาอื่นๆที่มีระหว่างกับจีนในปัจจุบัน ทั้งนี้ให้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจไทย-จีนเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ขึ้น
4. การส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงจากไทยไปจีน
4.1 การจัดทำพิธีสารส่งออกผลิตภัณฑ์จระเข้เพื่อการบริโภคจากไทยไปจีน ซึ่งฝ่านไทยได้ยกร่างพิธีสารเพื่อเสนอขอเปิดตลาด ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้ฝ่ายไทยเร่งรัดจัดส่งข้อมูลให้จีนเพื่อดำเนินการวิเคราะห์ความเสี่ยงเพื่อจัดทำพิธีสารตามข้อเสนอของไทยต่อไป
4.2 ปัญหาการส่งออกตะพาบน้ำจากไทยไปจีน ซึ่งประสบปัญหาเรื่องขั้นตอนการขอใบอนุญาต และมีปัญหาใบรับรองปลอม ที่ประชุมเห็นชอบให้ฝ่ายจีนเร่งรัดการตรวจสอบ รวมทั้งเห็นชอบตามข้อเสนอของไทยที่นำเสนอระบบการจัดทำการเชื่อมโยงการตรวจสอบใบรับรองทางอิเลคทรอนิค (cer.list) โดยในเบื้องต้นให้จีนจัดส่งตัวอย่างใบรับรองของไทยให้ด่านตรวจสอบในมณฑลต่างๆทราบ
5. ปัญหาอื่นๆ
5.1 รูปแบบใบรับรองสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชของไทย ซึ่งจีนได้หยิบยกประเด็นขนาดหรือสีมีความแตกต่างกัน ฝ่ายไทยรับที่จะไปดำเนินการหาข้อสรุปเรื่องนี้ และเมื่อได้ข้อสรุปจะจัดส่งรูปแบบใบรับรองฉบับใหม่ให้จีนเวียนให้ด่านต่างๆทราบ ทั้งนี้ในปัจจุบันให้ยึดถือรูปแบบใบรับรองเดิมก่อน
5.2 ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (C/O) ซึ่งฝ่ายจีนขอให้ไทยอนุโลมให้ปล่อยผ่านสินค้าจากจีนที่ยังไม่มีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าโดยไม่ต้องส่งกลับสินค้าดังเช่นปัจจุบันและให้เก็บภาษ๊ในอัตราปกติไปก่อน และเมื่อนำใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้ามาแสดงแล้วจึงขอชดเชยภาษีภายหลัง เรื่องนี้ฝ่ายไทยรับจะประสานงานแจ้งกระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากรพิจารณาเรื่องนี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-
1. พิธีสารข้อกำหนดทางเทคนิค ผัก ผลไม้
1.1 พิธีสารข้อกำหนดทางเทคนิคการส่งออกผลไม้จากไทยไปจีน และจากจีนมาไทย ที่ประชุมได้มีการเจรจาและได้ข้อสรุปของพิธีสาร 2 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมเกี่ยวกับข้อกำหนดมาตรการดำเนินการด้านศัตรูพืช และสารตกค้างต่างๆ ในผลไม้ 5 ชนิด จากไทยไปจีน ได้แก่ มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง และทุเรียน และจากจีนมาไทย 5 ชนิด ได้แก่ แอปเปิ้ล แพร์ พืชตระกูลส้ม พุทรา องุ่น ทั้งนี้ได้มีการแก้ไขข้อกำหนดที่เป็นข้อจำกัดหลายประการในการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน เช่น เดิมมีการจำกัดสวนส่งออกของทุเรียนและมะม่วง แต่ในพิธีสารฉบับใหม่ไม่ได้ระบุจำนวนสวนส่งออก โดยกำหนดให้เป็นสวนที่จดทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรเท่านั้น รวมทั้งไม่ต้องใช้มาตรการพิเศษใดๆ ในการกำจัดศัตรูพืชมะม่วงที่ส่งออกไปจีนเพียงแต่ต้องผ่านการรับรองว่าปลอดแมลงวันผลไม้เท่านั้น เป็นต้น
ขณะเดียวกัน การควบคุมการนำเข้าผลไม้ทั้ง 5 ชนิดจากจีนจะได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน เช่น ต้องเป็นสวนจดทะเบียนกับกระทรวงควบคุมคุณภาพและกักกันโรค เป็นต้น
อนึ่ง ได้มีการลงนามในพิธีสารทั้ง 2 ฉบับ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2547 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 6 เดือนภายหลังการลงนาม
1.2 การปฏิบัติเกี่ยวกับการส่งออกผลไม้อื่นๆ ที่ยังไม่ได้มีการทำพิธีสาร แต่มีการค้าขายกันอยู่แล้ว ให้ถือปฏิบัติดังเช่นปัจจุบันไปก่อน โดยจีนจะไม่ใช้มาตรการพิเศษใดๆ ที่จะเป็นอุปสรรคกับการค้าของไทยเพื่อไม่ให้เกิดการชะงักงันทางการค้า
1.3 การจัดทำพิธีสารการส่งออกผักจากจีนมาไทย ฝ่ายไทยเสนอให้ปรับเปลี่ยนสินค้าจากที่ครอบคลุมผักทุกชนิดเป็นกลุ่มผักแทน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบโดยให้มีการแลกเปลี่ยนรายชื่อสินค้าก่อน
2. การเร่งรัดการตรวจปล่อยสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้าจากไทย ตามมติคณะกรรมการกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งได้มีมติให้มีการดำเนินงานในลักษณะ fast track/fast manner รวมทั้งการจัดส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคมาประจำในประเทศไทยเพื่อตรวจสอบ ที่ประชุมได้หารือในเรื่องนี้ซึ่งฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณฝ่ายจีนที่เร่งรัดการตรวจปล่อยสินค้าจากไทยในลักษณะ fast manner แล้วในปัจจุบัน ที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันว่า การส่งเจ้าหน้าที่จากจีนมาประจำในไทยในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็น แต่การส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบตามพิธีสารและในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าเป็นปัญหา และจำเป็นต้องมีการตรวจสอบร่วมกันก็จะสามารถดำเนินการได้เป็นกรณีๆ ไป
3. การส่งเปิดตลาดส่งออกไก่สุก และความร่วมมือแก้ไขปัญหาไข้หวัดนก ฝ่ายจีนรับข้อเสนอของฝ่ายไทยในการเปิดตลาดไก่สุกและแปรรูป โดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโรงงานไก่สุกในไทย การเปิดตลาดไก่สุกครั้งนี้เป็นการขยายตลาดส่งออกของไทย ซึ่งหากมีการส่งเสริมอย่างจริงจังประเทศจีนจะเป็นตลาดส่งออกไก่สุกไทยที่มีความสำคัญและมั่นคงในอนาคตไม่นอยกว่าสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่ประชุมกำหนดกลไกให้มีการหารือกำหนดท่าทีและผลักดันร่วมกันในเวทีเจรจาระหว่างประเทศในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาไข้หวัดนกและอื่นๆ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนและหาแนวทางแก้ไขประเด็นปัญหาอื่นๆที่มีระหว่างกับจีนในปัจจุบัน ทั้งนี้ให้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจไทย-จีนเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ขึ้น
4. การส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงจากไทยไปจีน
4.1 การจัดทำพิธีสารส่งออกผลิตภัณฑ์จระเข้เพื่อการบริโภคจากไทยไปจีน ซึ่งฝ่านไทยได้ยกร่างพิธีสารเพื่อเสนอขอเปิดตลาด ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้ฝ่ายไทยเร่งรัดจัดส่งข้อมูลให้จีนเพื่อดำเนินการวิเคราะห์ความเสี่ยงเพื่อจัดทำพิธีสารตามข้อเสนอของไทยต่อไป
4.2 ปัญหาการส่งออกตะพาบน้ำจากไทยไปจีน ซึ่งประสบปัญหาเรื่องขั้นตอนการขอใบอนุญาต และมีปัญหาใบรับรองปลอม ที่ประชุมเห็นชอบให้ฝ่ายจีนเร่งรัดการตรวจสอบ รวมทั้งเห็นชอบตามข้อเสนอของไทยที่นำเสนอระบบการจัดทำการเชื่อมโยงการตรวจสอบใบรับรองทางอิเลคทรอนิค (cer.list) โดยในเบื้องต้นให้จีนจัดส่งตัวอย่างใบรับรองของไทยให้ด่านตรวจสอบในมณฑลต่างๆทราบ
5. ปัญหาอื่นๆ
5.1 รูปแบบใบรับรองสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชของไทย ซึ่งจีนได้หยิบยกประเด็นขนาดหรือสีมีความแตกต่างกัน ฝ่ายไทยรับที่จะไปดำเนินการหาข้อสรุปเรื่องนี้ และเมื่อได้ข้อสรุปจะจัดส่งรูปแบบใบรับรองฉบับใหม่ให้จีนเวียนให้ด่านต่างๆทราบ ทั้งนี้ในปัจจุบันให้ยึดถือรูปแบบใบรับรองเดิมก่อน
5.2 ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (C/O) ซึ่งฝ่ายจีนขอให้ไทยอนุโลมให้ปล่อยผ่านสินค้าจากจีนที่ยังไม่มีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าโดยไม่ต้องส่งกลับสินค้าดังเช่นปัจจุบันและให้เก็บภาษ๊ในอัตราปกติไปก่อน และเมื่อนำใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้ามาแสดงแล้วจึงขอชดเชยภาษีภายหลัง เรื่องนี้ฝ่ายไทยรับจะประสานงานแจ้งกระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากรพิจารณาเรื่องนี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-