คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอรายงานผลการดำเนินงานการรับเรื่องร้องเรียน ดังนี้
1. "ตู้นายกฯ ทักษิณ รับเรื่องร้องเรียนของประชาชน จังหวัด........" ในระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2547 จังหวัดต่าง ๆ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผ่านตู้นายกฯ ทักษิณ ที่ตั้งบริเวณบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวนรวมทั้งสิ้น 543 เรื่อง
- จังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 109 เรื่อง
- อยู่ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา 428 เรื่อง
- ส่งเรื่องให้ส่วนกลางพิจารณาดำเนินการ 6 เรื่อง
- ประมวลภาพรวมการดำเนินการตั้งแต่เปิดตู้นายกฯ ทักษิณ รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในส่วน ภูมิภาค (1 มิถุนายน -15 พฤศจิกายน 2547) รวมทั้งสิ้น 8,833 เรื่อง โดยจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว (ยอดสะสม) 4,566 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 51.69
2. "ตู้นายกฯ ทักษิณ หน้าบ้านพิษณุโลก กทม." จังหวัดต่าง ๆ ได้รับเรื่องร้องเรียนที่กระทรวงมหาดไทย รับจาก คตส.นรม. (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) ส่งให้จังหวัดพิจารณาจำนวน 1,631 เรื่อง มีผลการดำเนินการ ดังนี้
- จังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 858 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 52.61
- อยู่ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา 753 เรื่อง
- เรื่องที่จังหวัดส่งให้ส่วนกลางพิจารณา 20 เรื่อง
3. ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้ให้คำปรึกษาพร้อมรับเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์จากประชาชนในงานมหกรรม "เหลียวหลังแลหน้า จากรากหญ้าสู่รากแก้ว" ในระหว่างวันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2547 จำนวนทั้งสิ้น 408 เรื่อง
4. การให้ความช่วยเหลือ/แก้ปัญหา เรื่องที่จังหวัดสามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการได้ดำเนินการแก้ไขในบทบาทหน้าที่ไปแล้ว ในห้วงระยะเวลานี้ เช่น
4.1 จังหวัดอุดรธานี (กรณีขอให้ช่วยเหลือประนอมหนี้) ราษฎรตำบลหนองเม็ก อำเภอหนองหาน ร้องขอให้ประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ เนื่องจากเจ้าหนี้แจ้งชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยที่ค้างชำระมาแล้ว 6 ปี รวมเป็นเงิน 250,000 บาท ซึ่งผู้ร้องได้นำโฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้ แต่ผู้ร้องไม่มีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด นัดหมายคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ ได้ข้อสรุปให้ผู้ร้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้ จำนวน 165,000 บาท ซึ่งผู้ร้องได้รับโฉนดที่ดินคืนเรียบร้อยแล้ว
4.2 จังหวัดสตูล (กรณีปัญหาหนี้นอกระบบ) ราษฎรหมู่ 9 ตำบลท่าแพ อำเภอท่าแพ ร้องขอให้ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ โดยผู้ร้องมีหนี้ค้างชำระอยู่จำนวน 194,635 บาท และนำโฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เงินกู้กับเจ้าหนี้ราษฎรอำเภอละงู ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้ให้อำเภอละงู ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจาประนอมหนี้ สามารถตกลงกันได้ โดยเจ้าหนี้ยินดีลดเงินต้นและดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ชำระเงินคืนเพียง 100,000 บาท ซึ่งทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้มีความพึงพอใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
4.3 จังหวัดยะลา (กรณีได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด) เจ้าของร้านขาวเมืองใหม่เครื่องครัว ราษฎรอำเภอเมืองยะลา ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกรณีผู้ร้องได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่หน่วยบริการประชาชนตลาดเมืองใหม่ ทำให้บ้านและทรัพย์สินของผู้ร้องได้รับความเสียหาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็นค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 25,000 บาท ซึ่งผู้ร้องได้รับเงินดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว
4.4 จังหวัดตาก (กรณีโรงงานไอศครีมก่อมลภาวะ) ราษฎรหมู่ 1 ตำบลเชียงทอง กิ่งอำเภอวังเจ้า ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนกรณีโรงงานผลิตไอศครีม ประกอบกิจการส่งเสียงดังและส่งกลิ่นเหม็น ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ให้สาธารณสุขจังหวัดและอุตสาหกรรมจังหวัด ตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฎว่า โรงงานไอศครีมดังกล่าว ไม่ได้ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ จึงได้สั่งให้ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม และให้จัดทำและควบคุมแหล่งกำเนิดเสียงโดยทำแผงกั้น Boiling และรวมทั้งได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาผลิตไอศครีมจำหน่ายโดยไม่ได้ขออนุญาตใช้ฉลากอาหาร ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 รวมทั้งแจ้งให้ผู้ประกอบการงดผลิตไอศครีมเพื่อจำหน่าย จนกว่าจะได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องต่อไป
4.5 จังหวัดภูเก็ต (กรณีใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์) ผู้ร้องเป็นชาวแคนาดา และภรรยาคนไทย ร้องขอความเป็นธรรมกรณีขออนุญาตก่อสร้างอาคารบ้านพัก ต่อองค์การบริหารสวนตำบลสาคู และเจ้าหน้าที่ได้เรียกรับเงินในการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารจากผู้ร้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้ชุดเฉพาะกิจฯ ตรวจสอบและประสานงานกับผู้ร้อง ทราบว่าจะมีเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลสาคู ไปรับเงินจากผู้ร้อง ชุดเฉพาะกิจฯ จึงวางแผนจับกุมบุคคลที่อ้างถึง และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งเป็นลูกจ้างช่างองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู ได้พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 40,000 บาท และได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
4.6 จังหวัดยโสธร (กรณีผู้พิการขอความช่วยเหลือ) ราษฎรหมู่ 2 ตำบลขุมเงิน อำเภอเมืองร้องขอ ความช่วยเหลือกรณีผู้ร้องป่วยเป็นโรคโปลิโอเดินไม่ได้ต้องใช้ไม้เท้า ครอบครัวมีฐานะยากจน มารดาเสียชีวิต และบิดา มีภรรยาใหม่ ปัจจุบันผู้ร้องอาศัยอยู่บ้านเช่า จึงขอความอนุเคราะห์ในเรื่องที่อยู่อาศัย และไม้เท้าทดแทนของเดิมที่ชำรุด ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้ให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาให้ความช่วยเหลือ โดยออกไปเยี่ยมครอบครัวผู้ร้องพบว่า บิดาผู้ร้องมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้าน ช่วงเวลากลางคืนจะไปพักที่บ้านภรรยาคนใหม่ ปัจจุบันผู้ร้องรับจ้างห่อขนมซึ่งมีรายได้เฉลี่ยวันละ 50-60 บาท แต่ไม่ได้ทำเป็นประจำ เนื่องจากมีอาการปวดหลังเมื่อนั่งเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่จึงให้คำแนะนำผู้ร้องเกี่ยวกับการจดทะเบียนและการฝึกอาชีพคนพิการ และได้มอบเงินสงเคราะห์ ให้แก่ผู้ร้อง จำนวน 2,000 บาท รวมทั้งให้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และการดูแลคนพิการแก่บิดาของผู้ร้อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-
1. "ตู้นายกฯ ทักษิณ รับเรื่องร้องเรียนของประชาชน จังหวัด........" ในระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2547 จังหวัดต่าง ๆ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผ่านตู้นายกฯ ทักษิณ ที่ตั้งบริเวณบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวนรวมทั้งสิ้น 543 เรื่อง
- จังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 109 เรื่อง
- อยู่ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา 428 เรื่อง
- ส่งเรื่องให้ส่วนกลางพิจารณาดำเนินการ 6 เรื่อง
- ประมวลภาพรวมการดำเนินการตั้งแต่เปิดตู้นายกฯ ทักษิณ รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในส่วน ภูมิภาค (1 มิถุนายน -15 พฤศจิกายน 2547) รวมทั้งสิ้น 8,833 เรื่อง โดยจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว (ยอดสะสม) 4,566 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 51.69
2. "ตู้นายกฯ ทักษิณ หน้าบ้านพิษณุโลก กทม." จังหวัดต่าง ๆ ได้รับเรื่องร้องเรียนที่กระทรวงมหาดไทย รับจาก คตส.นรม. (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) ส่งให้จังหวัดพิจารณาจำนวน 1,631 เรื่อง มีผลการดำเนินการ ดังนี้
- จังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว 858 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 52.61
- อยู่ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา 753 เรื่อง
- เรื่องที่จังหวัดส่งให้ส่วนกลางพิจารณา 20 เรื่อง
3. ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้ให้คำปรึกษาพร้อมรับเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์จากประชาชนในงานมหกรรม "เหลียวหลังแลหน้า จากรากหญ้าสู่รากแก้ว" ในระหว่างวันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2547 จำนวนทั้งสิ้น 408 เรื่อง
4. การให้ความช่วยเหลือ/แก้ปัญหา เรื่องที่จังหวัดสามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการได้ดำเนินการแก้ไขในบทบาทหน้าที่ไปแล้ว ในห้วงระยะเวลานี้ เช่น
4.1 จังหวัดอุดรธานี (กรณีขอให้ช่วยเหลือประนอมหนี้) ราษฎรตำบลหนองเม็ก อำเภอหนองหาน ร้องขอให้ประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ เนื่องจากเจ้าหนี้แจ้งชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยที่ค้างชำระมาแล้ว 6 ปี รวมเป็นเงิน 250,000 บาท ซึ่งผู้ร้องได้นำโฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้ แต่ผู้ร้องไม่มีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด นัดหมายคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ ได้ข้อสรุปให้ผู้ร้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้ จำนวน 165,000 บาท ซึ่งผู้ร้องได้รับโฉนดที่ดินคืนเรียบร้อยแล้ว
4.2 จังหวัดสตูล (กรณีปัญหาหนี้นอกระบบ) ราษฎรหมู่ 9 ตำบลท่าแพ อำเภอท่าแพ ร้องขอให้ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ โดยผู้ร้องมีหนี้ค้างชำระอยู่จำนวน 194,635 บาท และนำโฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เงินกู้กับเจ้าหนี้ราษฎรอำเภอละงู ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้ให้อำเภอละงู ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจาประนอมหนี้ สามารถตกลงกันได้ โดยเจ้าหนี้ยินดีลดเงินต้นและดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ชำระเงินคืนเพียง 100,000 บาท ซึ่งทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้มีความพึงพอใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
4.3 จังหวัดยะลา (กรณีได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด) เจ้าของร้านขาวเมืองใหม่เครื่องครัว ราษฎรอำเภอเมืองยะลา ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกรณีผู้ร้องได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่หน่วยบริการประชาชนตลาดเมืองใหม่ ทำให้บ้านและทรัพย์สินของผู้ร้องได้รับความเสียหาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็นค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 25,000 บาท ซึ่งผู้ร้องได้รับเงินดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว
4.4 จังหวัดตาก (กรณีโรงงานไอศครีมก่อมลภาวะ) ราษฎรหมู่ 1 ตำบลเชียงทอง กิ่งอำเภอวังเจ้า ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนกรณีโรงงานผลิตไอศครีม ประกอบกิจการส่งเสียงดังและส่งกลิ่นเหม็น ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ให้สาธารณสุขจังหวัดและอุตสาหกรรมจังหวัด ตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฎว่า โรงงานไอศครีมดังกล่าว ไม่ได้ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ จึงได้สั่งให้ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม และให้จัดทำและควบคุมแหล่งกำเนิดเสียงโดยทำแผงกั้น Boiling และรวมทั้งได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาผลิตไอศครีมจำหน่ายโดยไม่ได้ขออนุญาตใช้ฉลากอาหาร ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 รวมทั้งแจ้งให้ผู้ประกอบการงดผลิตไอศครีมเพื่อจำหน่าย จนกว่าจะได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องต่อไป
4.5 จังหวัดภูเก็ต (กรณีใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์) ผู้ร้องเป็นชาวแคนาดา และภรรยาคนไทย ร้องขอความเป็นธรรมกรณีขออนุญาตก่อสร้างอาคารบ้านพัก ต่อองค์การบริหารสวนตำบลสาคู และเจ้าหน้าที่ได้เรียกรับเงินในการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารจากผู้ร้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้ชุดเฉพาะกิจฯ ตรวจสอบและประสานงานกับผู้ร้อง ทราบว่าจะมีเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลสาคู ไปรับเงินจากผู้ร้อง ชุดเฉพาะกิจฯ จึงวางแผนจับกุมบุคคลที่อ้างถึง และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งเป็นลูกจ้างช่างองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู ได้พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 40,000 บาท และได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
4.6 จังหวัดยโสธร (กรณีผู้พิการขอความช่วยเหลือ) ราษฎรหมู่ 2 ตำบลขุมเงิน อำเภอเมืองร้องขอ ความช่วยเหลือกรณีผู้ร้องป่วยเป็นโรคโปลิโอเดินไม่ได้ต้องใช้ไม้เท้า ครอบครัวมีฐานะยากจน มารดาเสียชีวิต และบิดา มีภรรยาใหม่ ปัจจุบันผู้ร้องอาศัยอยู่บ้านเช่า จึงขอความอนุเคราะห์ในเรื่องที่อยู่อาศัย และไม้เท้าทดแทนของเดิมที่ชำรุด ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้ให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาให้ความช่วยเหลือ โดยออกไปเยี่ยมครอบครัวผู้ร้องพบว่า บิดาผู้ร้องมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้าน ช่วงเวลากลางคืนจะไปพักที่บ้านภรรยาคนใหม่ ปัจจุบันผู้ร้องรับจ้างห่อขนมซึ่งมีรายได้เฉลี่ยวันละ 50-60 บาท แต่ไม่ได้ทำเป็นประจำ เนื่องจากมีอาการปวดหลังเมื่อนั่งเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่จึงให้คำแนะนำผู้ร้องเกี่ยวกับการจดทะเบียนและการฝึกอาชีพคนพิการ และได้มอบเงินสงเคราะห์ ให้แก่ผู้ร้อง จำนวน 2,000 บาท รวมทั้งให้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และการดูแลคนพิการแก่บิดาของผู้ร้อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-