เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การลดอัตราอากรและการยกเว้นอากรศุลกากร
ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..)
(การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบ
อุตสาหกรรมในประเทศ)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การลดอัตราอากรและการยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบอุตสาหกรรมในประเทศ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ร่างประกาศกระทรวงการคลังดังกล่าวมีสาระสำคัญ เป็นการปรับลดอัตราอากรขาเข้าปัจจัยการผลิต ที่ไม่มีผลิตในประเทศ ดังนี้
1. สาหร่ายทะเล เฉพาะที่นำเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตวุ้น ตามประเภทย่อย 1212.209 จากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1
2. อะลูมินัสซีเมนต์ สำหรับผลิตคอนกรีตทนไฟ ตามประเภทย่อย 2523.30 จากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 1
3. เครื่องจักรผสมเส้นใย (Blow room) ตามประเภทย่อย 8445.19 ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตเส้นด้ายของอุตสาหกรรมสิ่งทอ จากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1
4. ชิ้นส่วนตามประเภทย่อย 3917.32 3923.29 3926.90 และ 8481.80 เฉพาะที่นำเข้ามาใช้ประกอบเป็นอุปกรณ์ล้างไตตามประเภทย่อย 9018.19 จากร้อยละ 17.5 20 20 และ 3 ตามลำดับ เหลือร้อยละ 1
5. ขยายระยะเวลาปรับลดอัตราอากรขาเข้าแผ่นเหล็ก TMBP ตามประเภทย่อย 8445.19 ซึ่งใช้ใน การผลิตเหล็กแผ่นเคลือบดีบุกและเหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม เพื่อใช้ทำกระป๋องบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารที่มีผู้ผลิตในประเทศรายเดียว โดยมีบางคุณลักษณะที่ยังไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ โดยให้ลดเป็นการชั่วคราวในอัตราร้อยละ 1 ต่อไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549 (เดิมลดเหลือร้อยละ 1 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2548) และให้กำหนดอัตราอากรขาเข้าร้อยละ 5 สำหรับการนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550
6. ทยอยปรับลดอัตราอากรขาเข้าโพลิอะไมด์-6 ตามประเภทย่อย 3908.10 ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มปิโตรเคมีให้เข้าสู่อัตราอากรตามโครงสร้างการผลิตที่กระทรวงการคลังกำหนด คือ ร้อยละ 5 ในวันที่ 1 มกราคม 2550 เช่นเดียวกับสินค้าในกลุ่มปิโตรเคมีรายการอื่น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตในประเทศที่มีอยู่จำนวนมาก (ปัจจุบันปรับลดจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 5 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศเป็นอย่างมาก)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 พฤศจิกายน 2548--จบ--
ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..)
(การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบ
อุตสาหกรรมในประเทศ)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การลดอัตราอากรและการยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบอุตสาหกรรมในประเทศ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ร่างประกาศกระทรวงการคลังดังกล่าวมีสาระสำคัญ เป็นการปรับลดอัตราอากรขาเข้าปัจจัยการผลิต ที่ไม่มีผลิตในประเทศ ดังนี้
1. สาหร่ายทะเล เฉพาะที่นำเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตวุ้น ตามประเภทย่อย 1212.209 จากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1
2. อะลูมินัสซีเมนต์ สำหรับผลิตคอนกรีตทนไฟ ตามประเภทย่อย 2523.30 จากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 1
3. เครื่องจักรผสมเส้นใย (Blow room) ตามประเภทย่อย 8445.19 ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตเส้นด้ายของอุตสาหกรรมสิ่งทอ จากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1
4. ชิ้นส่วนตามประเภทย่อย 3917.32 3923.29 3926.90 และ 8481.80 เฉพาะที่นำเข้ามาใช้ประกอบเป็นอุปกรณ์ล้างไตตามประเภทย่อย 9018.19 จากร้อยละ 17.5 20 20 และ 3 ตามลำดับ เหลือร้อยละ 1
5. ขยายระยะเวลาปรับลดอัตราอากรขาเข้าแผ่นเหล็ก TMBP ตามประเภทย่อย 8445.19 ซึ่งใช้ใน การผลิตเหล็กแผ่นเคลือบดีบุกและเหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม เพื่อใช้ทำกระป๋องบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารที่มีผู้ผลิตในประเทศรายเดียว โดยมีบางคุณลักษณะที่ยังไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ โดยให้ลดเป็นการชั่วคราวในอัตราร้อยละ 1 ต่อไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549 (เดิมลดเหลือร้อยละ 1 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2548) และให้กำหนดอัตราอากรขาเข้าร้อยละ 5 สำหรับการนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550
6. ทยอยปรับลดอัตราอากรขาเข้าโพลิอะไมด์-6 ตามประเภทย่อย 3908.10 ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มปิโตรเคมีให้เข้าสู่อัตราอากรตามโครงสร้างการผลิตที่กระทรวงการคลังกำหนด คือ ร้อยละ 5 ในวันที่ 1 มกราคม 2550 เช่นเดียวกับสินค้าในกลุ่มปิโตรเคมีรายการอื่น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตในประเทศที่มีอยู่จำนวนมาก (ปัจจุบันปรับลดจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 5 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศเป็นอย่างมาก)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 พฤศจิกายน 2548--จบ--