คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานภาวะการค้าและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2547 (1-5 พฤศจิกายน 2547) โดนเปรียบเทียบกับสัปดาห์ที่ 5 เดือนตุลาคม 2547 (26-29 ตุลาคม 2547) ดังนี้
สถานการณ์การค้าที่สำคัญ
1. กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงานได้ร่วมกันพิจารณากำหนดเวลาเปิด-ปิดธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก
ในช่วงวันที่ 9 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2547 และตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2548 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงนอกเทศกาลพิเศษ 1 เดือน (4 ธันวาคม 2547 - 4 มกราคม 2548) ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีดังนี้
(1) Department Store ได้กำหนดเวลาทำการดังนี้ 1) ในพื้นที่ทั่วไปตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. 2) ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 9.00-23.00 น. 3) พื้นที่ท้องถิ่นตั้งแต่เวลา 9.00-21.00 น. สำหรับกรณี Midnight Sale ได้รับสิทธิการยกเว้น หลังจากได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการเท่านั้น
(2) Hyper Mart ได้กำหนดเวลาทำการตั้งแต่เวลา 9.00-23.00 น. ยกเว้นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและจังหวัดปัตตานี
2. ความเคลื่อนไหวราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ราคาสินค้าในสัปดาห์นี้มีทั้งเคลื่อนไหวสูง
ขึ้นและลดลง โดยสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ถุงพลาสติกและเงาะ สำหรับสินค้าที่ราคาลดลงได้แก่ น้ำมันเบนซิน เม็ดพลาสติก ไข่ไก่ กล้วยหอม ผักคะน้าและผักชี
2.1 ราคาสูงขึ้น
- ถุงพลาสติก ราคาสูงขึ้นจาก 70-74 บาท/ กก. เป็น 74 บาท/กก. เฉลี่ยสูงขึ้น 2 บาท/กก. เนื่องจากการผลิตใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในสต๊อคราคาสูง ซึ่งได้ปรับตัวสูงขึ้นมากก่อนหน้านี้
- เงาะ ราคาสูงขึ้นจาก 18-25 บาท/กก. เป็น 20-28 บาท/กก. เฉลี่ยสูงขึ้น 2.50 บาท/กก. เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูกาลทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง
2.2 ราคาลดลง
- เม็ดพลาสติก ราคาลดลงจาก 53 บาท/กก. เป็น 51 บาท/กก. เฉลี่ยลดลง 2 บาท/กก. เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวลดลง
- น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ราคาลดลงจาก 21.59 บาท/ลิตร และ 22.39 บาท/
ลิตร เป็น 21.19 บาท/ลิตร และ 21.99 บาท/ลิตร ตามลำดับ เฉลี่ยลดลง 0.40 บาท/ลิตร ตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวลดลง
- ไข่ไก่ ราคาลดลงจาก 2.30-2.70 บาท/ฟอง เป็น 2.20-2.50 บาท/ฟอง เฉลี่ยลดลง 0.15 บาท/ฟอง เนื่องจากปริมาณไข่ไก่ออกจากตลาดเพิ่มขึ้น และสภาพอากาศเย็นเอื้อให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
- กล้วยหอม ราคาลดลงจาก 2.50-3 บาท/ผล เป็น 2-2.50 บาท/ผล เฉลี่ยลดลง 0.05
บาท/ผล ซึ่งเป็นผลจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
- ผักคะน้าและผักชี โดย ผักคะน้า ราคาลดลงจาก 15-20 บาท/กก. เป็น 12-15 บาท/กก.
เฉลี่ยลดลง 4 บาท/กก. และผักชีราคาลดลงจาก 5-7 บาท/ขีด เป็น 5-6 บาท/ขีด เฉลี่ยลดลง 0.50 บาท/ขีด เพราะว่าผลผลิตรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
สำหรับสินค้าในกลุ่มอื่นๆราคายังทรงตัว ยกเว้นสินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำซีอิ้ว น้ำตาลทราย สบู่และแชมพู เป็นต้น
3. ผลการตรวจสอบได้ดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบการค้าทั้งสิ้น 7,836 ราย โดยจำแนกตาม
พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 จำนวน 4,723 ราย พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า จำนวน 4 ราย และราคาจำหน่ายไม่ตรงกับป้ายแสดงราคาจำนวน 1 ราย สำหรับ พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 จำนวน 3,113 ราย พบการกระทำผิดมาตรวัดน้ำมันไม่ได้มาตรฐาน จำนวน 1 ราย ซึ่งได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--
สถานการณ์การค้าที่สำคัญ
1. กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงานได้ร่วมกันพิจารณากำหนดเวลาเปิด-ปิดธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก
ในช่วงวันที่ 9 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2547 และตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2548 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงนอกเทศกาลพิเศษ 1 เดือน (4 ธันวาคม 2547 - 4 มกราคม 2548) ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีดังนี้
(1) Department Store ได้กำหนดเวลาทำการดังนี้ 1) ในพื้นที่ทั่วไปตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. 2) ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 9.00-23.00 น. 3) พื้นที่ท้องถิ่นตั้งแต่เวลา 9.00-21.00 น. สำหรับกรณี Midnight Sale ได้รับสิทธิการยกเว้น หลังจากได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการเท่านั้น
(2) Hyper Mart ได้กำหนดเวลาทำการตั้งแต่เวลา 9.00-23.00 น. ยกเว้นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและจังหวัดปัตตานี
2. ความเคลื่อนไหวราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ราคาสินค้าในสัปดาห์นี้มีทั้งเคลื่อนไหวสูง
ขึ้นและลดลง โดยสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ถุงพลาสติกและเงาะ สำหรับสินค้าที่ราคาลดลงได้แก่ น้ำมันเบนซิน เม็ดพลาสติก ไข่ไก่ กล้วยหอม ผักคะน้าและผักชี
2.1 ราคาสูงขึ้น
- ถุงพลาสติก ราคาสูงขึ้นจาก 70-74 บาท/ กก. เป็น 74 บาท/กก. เฉลี่ยสูงขึ้น 2 บาท/กก. เนื่องจากการผลิตใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในสต๊อคราคาสูง ซึ่งได้ปรับตัวสูงขึ้นมากก่อนหน้านี้
- เงาะ ราคาสูงขึ้นจาก 18-25 บาท/กก. เป็น 20-28 บาท/กก. เฉลี่ยสูงขึ้น 2.50 บาท/กก. เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูกาลทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง
2.2 ราคาลดลง
- เม็ดพลาสติก ราคาลดลงจาก 53 บาท/กก. เป็น 51 บาท/กก. เฉลี่ยลดลง 2 บาท/กก. เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวลดลง
- น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ราคาลดลงจาก 21.59 บาท/ลิตร และ 22.39 บาท/
ลิตร เป็น 21.19 บาท/ลิตร และ 21.99 บาท/ลิตร ตามลำดับ เฉลี่ยลดลง 0.40 บาท/ลิตร ตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวลดลง
- ไข่ไก่ ราคาลดลงจาก 2.30-2.70 บาท/ฟอง เป็น 2.20-2.50 บาท/ฟอง เฉลี่ยลดลง 0.15 บาท/ฟอง เนื่องจากปริมาณไข่ไก่ออกจากตลาดเพิ่มขึ้น และสภาพอากาศเย็นเอื้อให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
- กล้วยหอม ราคาลดลงจาก 2.50-3 บาท/ผล เป็น 2-2.50 บาท/ผล เฉลี่ยลดลง 0.05
บาท/ผล ซึ่งเป็นผลจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
- ผักคะน้าและผักชี โดย ผักคะน้า ราคาลดลงจาก 15-20 บาท/กก. เป็น 12-15 บาท/กก.
เฉลี่ยลดลง 4 บาท/กก. และผักชีราคาลดลงจาก 5-7 บาท/ขีด เป็น 5-6 บาท/ขีด เฉลี่ยลดลง 0.50 บาท/ขีด เพราะว่าผลผลิตรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
สำหรับสินค้าในกลุ่มอื่นๆราคายังทรงตัว ยกเว้นสินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำซีอิ้ว น้ำตาลทราย สบู่และแชมพู เป็นต้น
3. ผลการตรวจสอบได้ดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบการค้าทั้งสิ้น 7,836 ราย โดยจำแนกตาม
พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 จำนวน 4,723 ราย พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า จำนวน 4 ราย และราคาจำหน่ายไม่ตรงกับป้ายแสดงราคาจำนวน 1 ราย สำหรับ พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 จำนวน 3,113 ราย พบการกระทำผิดมาตรวัดน้ำมันไม่ได้มาตรฐาน จำนวน 1 ราย ซึ่งได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--