คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการสายส่ง 500 เควี เพื่อการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน 2 วงเงินลงทุน รวม 7,410 ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ต่างประเทศร้อยละ 41.2 เงินกู้ในประเทศร้อยละ 29.4 และเงินรายได้ของ กฟผ. ร้อยละ 29.4
กระทรวงพลังงานรายงานว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2547 กฟผ. ได้เสนอโครงการ ก่อสร้างสายส่ง 500 เควี เพื่อการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน 2 ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่ง กฟผ. ได้ทำสัญญาซื้อไฟฟาจากกลุ่มผู้ลงทุนของบริษท Nam Theun 2 Power Company (NTPC) แล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2546 ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว โครงการสายส่ง 500 เควี เพื่อการรับซื้อจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน 2 (เฉพาะฝั่งไทย) สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. ปริมางาน
(1) ก่อสร้างสายส่งข้ามแม่น้ำโขงแบบเสาโครงเหล็ก (2) ก่อสร้างสายส่ง 500 เควี ชายแดน (บริเวณจังหวัดมุกดาหาร) — ร้อยเอ็ด (3) ก่อสร้างลานไกไฟฟ้า 500 เควี ร้อยเอ็ด (4) ติดตั้ง Shunt Reactor (5) ก่อสร้างสายส่งชั่วคราว 230 เควี (6) รื้อสายส่ง 230 เควี ก่อสร้างใหม่เป็นสายส่ง 230 เควี (7) เพิ่มเติมระบบสื่อสารที่เกี่ยวข้อง
2. ราคาโครงการสายส่ง 500 เควี เพื่อการรับไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน 2 เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 7,410.0 ล้านบาท แยกเป็นเงินตราต่างประเทศ 3,053.0 ล้านบาท (เทียบเท่า 71.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ = 43 บาท) และเงินบาทอีก 4,357.0 ล้านบาท
3. ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เตรียมงานจนก่อสร้างแล้วเสร็จ ประมาณ 5 ปี 6 เดือน ตั้งแต่ปลายปี 2546 จนถึงต้นปี 2552 และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จประมาณเดือนเมษายน 2552
4. ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการฯ
(1) สามารถตอบสนองความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของประเทศโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และรักษาความมั่นคงในการจ่ายไฟฟ้าให้เป็นไปตามมาตรฐานของ กฟผ. เพิ่มความคล่องตัวในการควบคุมและการจ่ายไฟฟ้า ตลอดจนลดความสูญเสียของระบบไฟฟ้า และส่งเสริมความสัมพันธ์ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
(2) การวิเคราะห์ผลประโยชน์ตอบแทนการลงทุนของโครงการได้ดังนี้ Economic Internal Rate of Return ร้อยละ 20.32 Financial Internal Rate of Return ร้อยละ 16.13
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานพิจารณาแล้วเห็นว่า การลงทุนตามโครงการสายส่ง 500 เควี เพื่อการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน 2 ดังกล่าวมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและการเงิน มีความเสี่ยงในการลงทุนในระดับต่ำ และการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นการสนองตอบต่อความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศในระยะยาวต่อไป
สำหรับเงินทุนในส่วนของเงินตราต่างประเทศ (Import contents) จำนวน 3,053 ล้านบาท (เทียบเท่า 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้พิจารณาใช้เงินกู้จากต่างประเทศหรือเงินกู้ในประเทศที่จะเอื้อประโยชน์แก่หน่วยงานและประเทศสูงสุด รวมทั้งให้พิจารณาการใช้สินเชื่อผู้ผลิต (Supplier’s credit) เป็นทางเลือกด้วย โดยให้เสนอขอรับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังก่อนดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--
กระทรวงพลังงานรายงานว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2547 กฟผ. ได้เสนอโครงการ ก่อสร้างสายส่ง 500 เควี เพื่อการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน 2 ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่ง กฟผ. ได้ทำสัญญาซื้อไฟฟาจากกลุ่มผู้ลงทุนของบริษท Nam Theun 2 Power Company (NTPC) แล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2546 ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว โครงการสายส่ง 500 เควี เพื่อการรับซื้อจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน 2 (เฉพาะฝั่งไทย) สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. ปริมางาน
(1) ก่อสร้างสายส่งข้ามแม่น้ำโขงแบบเสาโครงเหล็ก (2) ก่อสร้างสายส่ง 500 เควี ชายแดน (บริเวณจังหวัดมุกดาหาร) — ร้อยเอ็ด (3) ก่อสร้างลานไกไฟฟ้า 500 เควี ร้อยเอ็ด (4) ติดตั้ง Shunt Reactor (5) ก่อสร้างสายส่งชั่วคราว 230 เควี (6) รื้อสายส่ง 230 เควี ก่อสร้างใหม่เป็นสายส่ง 230 เควี (7) เพิ่มเติมระบบสื่อสารที่เกี่ยวข้อง
2. ราคาโครงการสายส่ง 500 เควี เพื่อการรับไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน 2 เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 7,410.0 ล้านบาท แยกเป็นเงินตราต่างประเทศ 3,053.0 ล้านบาท (เทียบเท่า 71.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ = 43 บาท) และเงินบาทอีก 4,357.0 ล้านบาท
3. ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เตรียมงานจนก่อสร้างแล้วเสร็จ ประมาณ 5 ปี 6 เดือน ตั้งแต่ปลายปี 2546 จนถึงต้นปี 2552 และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จประมาณเดือนเมษายน 2552
4. ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการฯ
(1) สามารถตอบสนองความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของประเทศโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และรักษาความมั่นคงในการจ่ายไฟฟ้าให้เป็นไปตามมาตรฐานของ กฟผ. เพิ่มความคล่องตัวในการควบคุมและการจ่ายไฟฟ้า ตลอดจนลดความสูญเสียของระบบไฟฟ้า และส่งเสริมความสัมพันธ์ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
(2) การวิเคราะห์ผลประโยชน์ตอบแทนการลงทุนของโครงการได้ดังนี้ Economic Internal Rate of Return ร้อยละ 20.32 Financial Internal Rate of Return ร้อยละ 16.13
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานพิจารณาแล้วเห็นว่า การลงทุนตามโครงการสายส่ง 500 เควี เพื่อการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน 2 ดังกล่าวมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและการเงิน มีความเสี่ยงในการลงทุนในระดับต่ำ และการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นการสนองตอบต่อความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศในระยะยาวต่อไป
สำหรับเงินทุนในส่วนของเงินตราต่างประเทศ (Import contents) จำนวน 3,053 ล้านบาท (เทียบเท่า 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้พิจารณาใช้เงินกู้จากต่างประเทศหรือเงินกู้ในประเทศที่จะเอื้อประโยชน์แก่หน่วยงานและประเทศสูงสุด รวมทั้งให้พิจารณาการใช้สินเชื่อผู้ผลิต (Supplier’s credit) เป็นทางเลือกด้วย โดยให้เสนอขอรับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังก่อนดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--