คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินงานตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทยตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอดังนี้
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 — ตุลาคม 2547 กระทรวงมหาดไทยมีผลการดำเนินงานตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล สรุปได้ดังนี้
1. การแก้ไขพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509
โดยที่พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ใช้บังคับมาเป็นเวลานานและมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมกับสถาพการณ์ปัจจุบัน สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติดังกล่าวโดยเฉพาะในเรื่องคำนิยามของคำว่าสถานบริการ ประเภทของสถานบริการ วิธีการจัดตั้งสถานบริการ จึงเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสถานบริการโดยพระราชบัญญัติสถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2547 แล้ว
จากการเพิ่มเติมแก้ไขโพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ดังกล่าว ได้มีบทบัญญัติให้กระทรวงมหาดไทยออกกฏกระทรวงและประกาศกระทรวงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในหลายประการ
2. การกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning)
กระทรวงมหาดไทยนำบทบัญญัติในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ซึ่งให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการมาใช้บังคับให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาซึ่งขณะนี้ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการครบทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานครแล้ว โดยเป็นเขตพื้นที่เพื่องดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จำนวน 26 จังหวัด และพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการจำนวน 49 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร
3. การบังคับใช้พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างเป็นรูปธรรม
กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินนโยบายจัดระเบียบสังคมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการโดยได้สั่งการให้ทุกจังหวัด อำเภอ กิ่งอำเภอและประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ถือปฏิบัติในการกวดขันสถานบริการซึ่งหากมีกรณีที่สถานบริการใดกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายหรือนโยบายข้างต้นให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งพักใช้ใบอนุญาต เพิกถอนใบอนุญาตหรือในการใช้อำนาจตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 50 สั่งปิดสถานบริการดังกล่าวโดยมีกำหนดระยะเวลาและไม่มีกำหนดระยะเวลา ตามควรแก่กรณี
การกวดขันสถานบริการมีผลการดำเนินงาน ดังนี้
1) คณะทำงานการจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจสถานบริการทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยในกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการตรวจสถานบริการ จำนวน 156 แห่ง และในจังหวัดอื่นๆ จำนวน 139 แห่ง
2) กองบัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตกรุงเทพมหานครได้ใช้มาตรการทางปกครองโดยสถานบริการที่ฝ่าฝืนกฏหมายโดยการพักใช้ใบอนุญาต เพิกถอนใบอนุญาต สั่งหยุดกิจการสถานบริการทุกประเภท ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 — 30 มิถุนายน 2547 รวมจำนวน 251 แห่ง
3) ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ในจังหวัดอื่นนอกจากรุงเทพมหานครได้ใช้มาตรการทางปกครองสั่งลงโทษสถานบริการโดยการพักใช้ใบอนุญาต เพิกถอนใบอนุญาต สั่งหยุดกิจการสถานบริการทุกประเภท ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 — 30 กันยายน 2547 รวมจำนวน 386 แห่ง
4) สำหรับสถานประกอบการประเภทร้านจำหน่ายอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นที่เข้าลักษณะของสถานบริการแต่ประกอบกิจการให้คล้ายกับสถานบริการ เช่น มีดนตรีและอุปกรณ์ให้แสงสว่างอื่นๆ นอกเหนือจากอุปกรณ์ให้แสงสว่างตามปกติ โดยปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนเข้าไปมั่วสุมดื่มสุราซึ่งได้ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้เคียง กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและกองบัญชาการตำรวจนครบาลกวดขันสถานประกอบการดังกล่าว สำหรับสถานประกอบการที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายให้จับกุมดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดทุกราย ซึ่งหากปรากฏว่ายังคงดำเนินกิจการฝ่าฝืนกฎหมายอีกให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแล้วแต่กรณี ใช้อำนาจตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 50 ลงวันที่ 15 มกราคม 2502 สั่งปิดสถานที่ดังกล่าวโดยมีกำหนดเวลาหรือไม่มีกำหนดเวลาตามควรแก่กรณี
4 การให้ความรู้ทางกฎหมาย
5 การสร้างจิตสำนึกให้กับเด็ก เยาวชน ผู้ปกครอง ผู้ประกอบกิจการสถานบริการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 — ตุลาคม 2547 กระทรวงมหาดไทยมีผลการดำเนินงานตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล สรุปได้ดังนี้
1. การแก้ไขพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509
โดยที่พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ใช้บังคับมาเป็นเวลานานและมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมกับสถาพการณ์ปัจจุบัน สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติดังกล่าวโดยเฉพาะในเรื่องคำนิยามของคำว่าสถานบริการ ประเภทของสถานบริการ วิธีการจัดตั้งสถานบริการ จึงเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสถานบริการโดยพระราชบัญญัติสถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2547 แล้ว
จากการเพิ่มเติมแก้ไขโพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ดังกล่าว ได้มีบทบัญญัติให้กระทรวงมหาดไทยออกกฏกระทรวงและประกาศกระทรวงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในหลายประการ
2. การกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning)
กระทรวงมหาดไทยนำบทบัญญัติในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ซึ่งให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการมาใช้บังคับให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาซึ่งขณะนี้ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการครบทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานครแล้ว โดยเป็นเขตพื้นที่เพื่องดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จำนวน 26 จังหวัด และพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการจำนวน 49 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร
3. การบังคับใช้พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างเป็นรูปธรรม
กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินนโยบายจัดระเบียบสังคมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการโดยได้สั่งการให้ทุกจังหวัด อำเภอ กิ่งอำเภอและประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ถือปฏิบัติในการกวดขันสถานบริการซึ่งหากมีกรณีที่สถานบริการใดกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายหรือนโยบายข้างต้นให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งพักใช้ใบอนุญาต เพิกถอนใบอนุญาตหรือในการใช้อำนาจตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 50 สั่งปิดสถานบริการดังกล่าวโดยมีกำหนดระยะเวลาและไม่มีกำหนดระยะเวลา ตามควรแก่กรณี
การกวดขันสถานบริการมีผลการดำเนินงาน ดังนี้
1) คณะทำงานการจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจสถานบริการทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยในกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการตรวจสถานบริการ จำนวน 156 แห่ง และในจังหวัดอื่นๆ จำนวน 139 แห่ง
2) กองบัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตกรุงเทพมหานครได้ใช้มาตรการทางปกครองโดยสถานบริการที่ฝ่าฝืนกฏหมายโดยการพักใช้ใบอนุญาต เพิกถอนใบอนุญาต สั่งหยุดกิจการสถานบริการทุกประเภท ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 — 30 มิถุนายน 2547 รวมจำนวน 251 แห่ง
3) ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ในจังหวัดอื่นนอกจากรุงเทพมหานครได้ใช้มาตรการทางปกครองสั่งลงโทษสถานบริการโดยการพักใช้ใบอนุญาต เพิกถอนใบอนุญาต สั่งหยุดกิจการสถานบริการทุกประเภท ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 — 30 กันยายน 2547 รวมจำนวน 386 แห่ง
4) สำหรับสถานประกอบการประเภทร้านจำหน่ายอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นที่เข้าลักษณะของสถานบริการแต่ประกอบกิจการให้คล้ายกับสถานบริการ เช่น มีดนตรีและอุปกรณ์ให้แสงสว่างอื่นๆ นอกเหนือจากอุปกรณ์ให้แสงสว่างตามปกติ โดยปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนเข้าไปมั่วสุมดื่มสุราซึ่งได้ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้เคียง กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและกองบัญชาการตำรวจนครบาลกวดขันสถานประกอบการดังกล่าว สำหรับสถานประกอบการที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายให้จับกุมดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดทุกราย ซึ่งหากปรากฏว่ายังคงดำเนินกิจการฝ่าฝืนกฎหมายอีกให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแล้วแต่กรณี ใช้อำนาจตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 50 ลงวันที่ 15 มกราคม 2502 สั่งปิดสถานที่ดังกล่าวโดยมีกำหนดเวลาหรือไม่มีกำหนดเวลาตามควรแก่กรณี
4 การให้ความรู้ทางกฎหมาย
5 การสร้างจิตสำนึกให้กับเด็ก เยาวชน ผู้ปกครอง ผู้ประกอบกิจการสถานบริการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--