เรื่อง รับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามแผนรณรงค์ส่งเสริม
การเรียนรู้เรื่องประชาธิปไตยและการเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2548 รวมทั้งสิ้น 200,000,000 บาท
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามแผนรณรงค์ส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องประชาธิปไตยและการเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2548 รวมทั้งสิ้น 200,000,000 บาทตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอแล้วมีมติอนุมัติค่าใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 200,000,000 บาท
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรายงานว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วันนับแต่วันครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 5 มกราคม 2548 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้จัดทำแผนรณรงค์ส่งเสริมการเรียนรู้ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ปี พ.ศ. 2548 สรุปสาระสำคัญดังนี้
1. วัตถุประสงค์
1.1 เพื่อปลุกจิตสำนึกของประชาชนให้เห็นความสำคัญของการใช้สิทธิเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
1.2 เพื่อเร่งเร้าเชิญชวนให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างถ้วนหน้า
1.3 เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม
1.4 เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นภายในชาติภายหลังการเลือกตั้ง
2. กลุ่มเป้าหมาย
ในการเตรียมความพร้อมของประชาชนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง แผนฯนี้ได้กำหนดยุทธศาสตร์ว่า “การเลือกตั้งสำหรับทุกคน” หรือ Election for All ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายจึงประกอบด้วย
2.1 เยาวชนที่กำลังจะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (Pre-voters) อายุ 16-17 ปี และเยาวชนในระดับอุดมศึกษา อายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง (New Voters) รวมถึงเยาวชนนอกสถานศึกษา (Out school)
2.2 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งประกอบด้วย ประชาชนกลุ่มต่างๆทั้งในเมืองและชนบทที่ห่างไกล ทั้งในภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มผู้พิการต่างๆ ทั้งในและนอกราชอาณาจักร
2.3 ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้แทนพรรคการเมืองและกลุ่มผู้สนับสนุนผู้สมัคร
2.4 ผู้จัดการเลือกตั้ง ได้แก่ คณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด กรรมการเลือกตั้งประจำเขต ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขต กรรมการประจำหน่วย กรรมกรนับคะแนน และพนักงานการเลือกตั้ง เป็นต้น
3. โครงการและงบประมาณตามแผนเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวข้างต้นจึงออกแบบโครงการในลักษณะของกิจกรรมและการใช้สื่อรณรงค์ทุกรูปแบบทั้งด้านกว้างและด้านลึกอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ที่สามารถชี้วัดได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ประกอบด้วย 4 โครงการหลักที่มีความสอดรับและต่อเนื่องกันดังนี้
3.1 โครงการปลุกจิตสำนึกทางการเมืองเพื่อเลือก “คนดี” เป็นผู้แทนราษฎร งบประมาณ 120 ล้านบาท เพื่อปลุกจิตสำนึกของการใช้อำนาจอธิปไตยในการไปเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกกลุ่มด้วยสื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทุกประเภท
3.2 โครงการส่งเสริมเยาวชนประชาธิปไตยหนี่งโรงเรียน หนึ่งเขตเลือกตั้ง งบประมาณ 60 ล้านบาท เป็นการสร้างต้นน้ำประชาธิปไตยโดยให้เยาวชนนักเรียนทั้งในและนอกโรงเรียนเป็นสื่อบุคคลที่สำคัญของครอบครัวในการชักชวนพ่อแม่ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
3.3 โครงการรณรงค์การเลือกตั้งในกลุ่มวัยรุ่น งบประมาณ 5 ล้านบาท เป็นการรณรงค์ให้ความรู้กับเยาวชนวัยรุ่น (New Voters) โดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้ใช้สิทธิใช้เสียงในการเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพ
3.4 โครงการผลิตสื่อหนังสือ “คู่มือความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง” งบประมาณ 15 ล้านบาท เป็นการผลิตสื่อการเรียนรู้ประชาสัมพันธ์ที่เป็นคู่มือสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือ Voter Guide ที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนในการเตรียมตัวเพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 200 ล้านบาทถ้วน
4. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ในปี 2548 จำนวนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ 45,231,600 คน
คาดว่าจะมีผู้ไปใช้สิทธิเลือก-ตั้ง จำนวน 36,185,280 คน หรือร้อยละ 80 และเป็นการใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพรวมถึงเกิดความสมานฉันท์ของคนในชาติเมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลลง ตัวชี้วัดความสำเร็จ ก็คือ 1. มีการใช้สิทธิการเลือกตั้งเพิ่มมากขึ้น 2. จำนวนบัตรเสียลดลง และ 3. การทุจริตการเลือกตั้งและการร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้งลดลง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--
การเรียนรู้เรื่องประชาธิปไตยและการเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2548 รวมทั้งสิ้น 200,000,000 บาท
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามแผนรณรงค์ส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องประชาธิปไตยและการเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2548 รวมทั้งสิ้น 200,000,000 บาทตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอแล้วมีมติอนุมัติค่าใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 200,000,000 บาท
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรายงานว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วันนับแต่วันครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 5 มกราคม 2548 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้จัดทำแผนรณรงค์ส่งเสริมการเรียนรู้ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ปี พ.ศ. 2548 สรุปสาระสำคัญดังนี้
1. วัตถุประสงค์
1.1 เพื่อปลุกจิตสำนึกของประชาชนให้เห็นความสำคัญของการใช้สิทธิเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
1.2 เพื่อเร่งเร้าเชิญชวนให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างถ้วนหน้า
1.3 เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม
1.4 เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นภายในชาติภายหลังการเลือกตั้ง
2. กลุ่มเป้าหมาย
ในการเตรียมความพร้อมของประชาชนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง แผนฯนี้ได้กำหนดยุทธศาสตร์ว่า “การเลือกตั้งสำหรับทุกคน” หรือ Election for All ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายจึงประกอบด้วย
2.1 เยาวชนที่กำลังจะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (Pre-voters) อายุ 16-17 ปี และเยาวชนในระดับอุดมศึกษา อายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง (New Voters) รวมถึงเยาวชนนอกสถานศึกษา (Out school)
2.2 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งประกอบด้วย ประชาชนกลุ่มต่างๆทั้งในเมืองและชนบทที่ห่างไกล ทั้งในภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มผู้พิการต่างๆ ทั้งในและนอกราชอาณาจักร
2.3 ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้แทนพรรคการเมืองและกลุ่มผู้สนับสนุนผู้สมัคร
2.4 ผู้จัดการเลือกตั้ง ได้แก่ คณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด กรรมการเลือกตั้งประจำเขต ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขต กรรมการประจำหน่วย กรรมกรนับคะแนน และพนักงานการเลือกตั้ง เป็นต้น
3. โครงการและงบประมาณตามแผนเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวข้างต้นจึงออกแบบโครงการในลักษณะของกิจกรรมและการใช้สื่อรณรงค์ทุกรูปแบบทั้งด้านกว้างและด้านลึกอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ที่สามารถชี้วัดได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ประกอบด้วย 4 โครงการหลักที่มีความสอดรับและต่อเนื่องกันดังนี้
3.1 โครงการปลุกจิตสำนึกทางการเมืองเพื่อเลือก “คนดี” เป็นผู้แทนราษฎร งบประมาณ 120 ล้านบาท เพื่อปลุกจิตสำนึกของการใช้อำนาจอธิปไตยในการไปเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกกลุ่มด้วยสื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทุกประเภท
3.2 โครงการส่งเสริมเยาวชนประชาธิปไตยหนี่งโรงเรียน หนึ่งเขตเลือกตั้ง งบประมาณ 60 ล้านบาท เป็นการสร้างต้นน้ำประชาธิปไตยโดยให้เยาวชนนักเรียนทั้งในและนอกโรงเรียนเป็นสื่อบุคคลที่สำคัญของครอบครัวในการชักชวนพ่อแม่ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
3.3 โครงการรณรงค์การเลือกตั้งในกลุ่มวัยรุ่น งบประมาณ 5 ล้านบาท เป็นการรณรงค์ให้ความรู้กับเยาวชนวัยรุ่น (New Voters) โดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้ใช้สิทธิใช้เสียงในการเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพ
3.4 โครงการผลิตสื่อหนังสือ “คู่มือความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง” งบประมาณ 15 ล้านบาท เป็นการผลิตสื่อการเรียนรู้ประชาสัมพันธ์ที่เป็นคู่มือสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือ Voter Guide ที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนในการเตรียมตัวเพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 200 ล้านบาทถ้วน
4. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ในปี 2548 จำนวนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ 45,231,600 คน
คาดว่าจะมีผู้ไปใช้สิทธิเลือก-ตั้ง จำนวน 36,185,280 คน หรือร้อยละ 80 และเป็นการใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพรวมถึงเกิดความสมานฉันท์ของคนในชาติเมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลลง ตัวชี้วัดความสำเร็จ ก็คือ 1. มีการใช้สิทธิการเลือกตั้งเพิ่มมากขึ้น 2. จำนวนบัตรเสียลดลง และ 3. การทุจริตการเลือกตั้งและการร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้งลดลง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--