คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... (ปรับอัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง) ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอแล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มขึ้นเฉพาะตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งอัตราเงินเดือนมีความยึดโยงกับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา และประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547 ซึ่งเป็นกรณีที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (19 ตุลาคม 2547) เห็นชอบไปแล้ว และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายกร่างกฎหมาย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอ สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา จึงให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป
2. มอบให้เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม อธิบดีกรมบัญชีกลาง เลขาธิการ ก.พ. และอัยการสูงสุด รับเรื่องการพิจารณาปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของตุลาการศาลปกครอง และข้าราชการตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการไปพิจารณาในภาพรวม โดยคำนึงถึงความเหมาะสมทั้งระบบ รวมทั้งอัตราเงินเดือนของข้าราชการอัยการที่มีความยึดโยงกันอยู่ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--
1. เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มขึ้นเฉพาะตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งอัตราเงินเดือนมีความยึดโยงกับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา และประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547 ซึ่งเป็นกรณีที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (19 ตุลาคม 2547) เห็นชอบไปแล้ว และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายกร่างกฎหมาย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอ สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา จึงให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป
2. มอบให้เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม อธิบดีกรมบัญชีกลาง เลขาธิการ ก.พ. และอัยการสูงสุด รับเรื่องการพิจารณาปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของตุลาการศาลปกครอง และข้าราชการตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการไปพิจารณาในภาพรวม โดยคำนึงถึงความเหมาะสมทั้งระบบ รวมทั้งอัตราเงินเดือนของข้าราชการอัยการที่มีความยึดโยงกันอยู่ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547--จบ--