คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม World Fertilizer Congress ครั้งที่ 13 ในเดือนพฤศจิกายน 2548 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดการประชุมฯ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 และให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการจัดตั้งงบประมาณและดำเนินการอื่นๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ด้วย International Scientific Center of Fertilizer (CIEC) ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ มีสถานะเป็นสมาคมปุ๋ยระหว่างประเทศ และเป็นผู้จัดการประชุมวิชาการปุ๋ยโลก ได้เชิญให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดการประชุม World Fertilizer Congress ครั้งที่ 13 ในปี 2548 ที่ประเทศไทย ซึ่งการประชุมดังกล่าวฯ จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยหลายๆด้าน ดังนี้
1. เป็นการเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในการเป็นผู้นำของโลกด้านการเกษตรและการพัฒนาทางด้านปุ๋ยโดยเฉพาะปุ๋ยอินทรีย์
2. ทำให้เกิดการตื่นตัวเรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินแทนที่การใช้ปุ๋ยเคมี
3. เปิดโอกาสให้นักวิชาการด้านปุ๋ย หรือนักวิชาการในสาขาที่เกี่ยวข้องของไทยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและผลงานวิจัยกับนักวิชาการต่างประเทศซึ่งจะช่วยยกระดับการวิจัยด้านปุ๋ย ทำให้เกิดการพัฒนาความรู้ที่ทันสมัยให้ดียิ่งขึ้น
4. เป็นโอกาสที่จะได้เผยแพร่ศิลปะ วัฒนธรรม และสินค้าพื้นเมืองของไทย อันจะมีผลดีต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการส่งออก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 30 พฤศจิกายน 2547--จบ--
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ด้วย International Scientific Center of Fertilizer (CIEC) ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ มีสถานะเป็นสมาคมปุ๋ยระหว่างประเทศ และเป็นผู้จัดการประชุมวิชาการปุ๋ยโลก ได้เชิญให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดการประชุม World Fertilizer Congress ครั้งที่ 13 ในปี 2548 ที่ประเทศไทย ซึ่งการประชุมดังกล่าวฯ จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยหลายๆด้าน ดังนี้
1. เป็นการเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในการเป็นผู้นำของโลกด้านการเกษตรและการพัฒนาทางด้านปุ๋ยโดยเฉพาะปุ๋ยอินทรีย์
2. ทำให้เกิดการตื่นตัวเรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินแทนที่การใช้ปุ๋ยเคมี
3. เปิดโอกาสให้นักวิชาการด้านปุ๋ย หรือนักวิชาการในสาขาที่เกี่ยวข้องของไทยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและผลงานวิจัยกับนักวิชาการต่างประเทศซึ่งจะช่วยยกระดับการวิจัยด้านปุ๋ย ทำให้เกิดการพัฒนาความรู้ที่ทันสมัยให้ดียิ่งขึ้น
4. เป็นโอกาสที่จะได้เผยแพร่ศิลปะ วัฒนธรรม และสินค้าพื้นเมืองของไทย อันจะมีผลดีต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการส่งออก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 30 พฤศจิกายน 2547--จบ--