คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการขอผ่อนผันให้โรงเรียนเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้โรงเรียนวัดบางใหญ่ หมู่ที่ 5 ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยผ่อนผันยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2534 ที่ให้ระงับการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนโดยเด็ดขาด และให้กระทรวงศึกษาธิการรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 2.2 (ฝ่ายการเกษตรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เป็นประธานกรรมการ ไปดำเนินการด้วย
2. เห็นควรให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการแล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
3. เพื่อให้ป่าชายเลนของไทยได้รับการอนุรักษ์ ฟื้นฟูอย่างมั่นคงถาวร ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ป่าชายเลนและสภาพแวดล้อมได้ไปพิจารณาในภาพรวม เพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการในการดูแลรักษาสภาพป่าชายเลน พร้อมทั้งแนวทางป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยกำหนดให้มีมาตรการปฏิบัติและตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน รวมทั้งให้มีระบบการติดตามประเมินผลและรายงานที่ชัดเจนด้วย
กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานว่า
1. โรงเรียนวัดบางใหญ่ได้ใช้ที่ดินของวัดบางใหญ่ จำนวน 2 ไร่ 2 งาน 7 ตารางวา เป็นที่ตั้งของโรงเรียน แต่ที่ดินของวัดไม่เพียงพอต่อโครงการขยายโอกาสทางการศึกษาของโรงเรียน ซึ่งได้ดำเนินการเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับมัธยมศึกษา จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ในท้องที่หมู่ 5 ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 25 ไร่ เพื่อเป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารเรียน ซึ่งโดยข้อเท็จจริงปรากฏว่า โรงเรียนวัดบางใหญ่ได้ก่อสร้างและเป็นที่ตั้งของโรงเรียนในที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ขอถอนสภาพมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 และพื้นที่บางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนที่จำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนเป็นเขตเศรษฐกิจ ข. (พื้นที่ป่าชายเลนที่ยอมให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินและการพัฒนาด้านอื่น ๆ ได้ แต่ต้องคำนึงถึงผลดีและผลเสียทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วย)
2. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 (สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช เดิม) ได้ประสานกับสำนักงานป่าไม้จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ได้รับคำชี้แจงว่า โรงเรียนวัดบางใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพื้นที่ป่าชายเลน จึงเห็นควรให้ส่วนราชการผู้ขอถอนสภาพที่ดินสาธารณ-ประโยชน์ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1 ยืนขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ต่ออำเภอท้องที่เพื่อแจ้งให้จังหวัดประสานงานกับกรมป่าไม้เขตท้องที่ออกไปตรวจสภาพป่าแล้ว เสนอกรมป่าไม้พิจารณา
2.2 ที่ดินเฉพาะส่วนที่อยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนที่จำแนกเป็นเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรีมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนในทุกกรณี ทั้งภาครัฐและเอกชน จึงได้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาผ่อนผันมิให้นำมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว มาใช้บังคับกับกรณีของโรงเรียนวัดบางใหญ่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 30 พฤศจิกายน 2547--จบ--
1. อนุมัติให้โรงเรียนวัดบางใหญ่ หมู่ที่ 5 ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยผ่อนผันยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2534 ที่ให้ระงับการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนโดยเด็ดขาด และให้กระทรวงศึกษาธิการรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 2.2 (ฝ่ายการเกษตรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เป็นประธานกรรมการ ไปดำเนินการด้วย
2. เห็นควรให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการแล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
3. เพื่อให้ป่าชายเลนของไทยได้รับการอนุรักษ์ ฟื้นฟูอย่างมั่นคงถาวร ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ป่าชายเลนและสภาพแวดล้อมได้ไปพิจารณาในภาพรวม เพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการในการดูแลรักษาสภาพป่าชายเลน พร้อมทั้งแนวทางป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยกำหนดให้มีมาตรการปฏิบัติและตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน รวมทั้งให้มีระบบการติดตามประเมินผลและรายงานที่ชัดเจนด้วย
กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานว่า
1. โรงเรียนวัดบางใหญ่ได้ใช้ที่ดินของวัดบางใหญ่ จำนวน 2 ไร่ 2 งาน 7 ตารางวา เป็นที่ตั้งของโรงเรียน แต่ที่ดินของวัดไม่เพียงพอต่อโครงการขยายโอกาสทางการศึกษาของโรงเรียน ซึ่งได้ดำเนินการเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับมัธยมศึกษา จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ในท้องที่หมู่ 5 ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 25 ไร่ เพื่อเป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารเรียน ซึ่งโดยข้อเท็จจริงปรากฏว่า โรงเรียนวัดบางใหญ่ได้ก่อสร้างและเป็นที่ตั้งของโรงเรียนในที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ขอถอนสภาพมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 และพื้นที่บางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนที่จำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนเป็นเขตเศรษฐกิจ ข. (พื้นที่ป่าชายเลนที่ยอมให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินและการพัฒนาด้านอื่น ๆ ได้ แต่ต้องคำนึงถึงผลดีและผลเสียทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วย)
2. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 (สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช เดิม) ได้ประสานกับสำนักงานป่าไม้จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ได้รับคำชี้แจงว่า โรงเรียนวัดบางใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพื้นที่ป่าชายเลน จึงเห็นควรให้ส่วนราชการผู้ขอถอนสภาพที่ดินสาธารณ-ประโยชน์ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1 ยืนขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ต่ออำเภอท้องที่เพื่อแจ้งให้จังหวัดประสานงานกับกรมป่าไม้เขตท้องที่ออกไปตรวจสภาพป่าแล้ว เสนอกรมป่าไม้พิจารณา
2.2 ที่ดินเฉพาะส่วนที่อยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนที่จำแนกเป็นเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรีมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนในทุกกรณี ทั้งภาครัฐและเอกชน จึงได้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาผ่อนผันมิให้นำมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว มาใช้บังคับกับกรณีของโรงเรียนวัดบางใหญ่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 30 พฤศจิกายน 2547--จบ--