คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติการรับขนของทางถนนระหว่างประเทศ พ.ศ.... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป
ร่างพรบ.ดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดทางแพ่งของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการและบุคคลอื่นที่มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจการรับขนของทางถนนระหว่างประเทศ และคุ้มครองผู้ใช้บริการการขนส่งของทางถนนระหว่างประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดขอบเขตการใช้บังคับสัญญารับขนของทางถนนด้วยรถ รวมถึงกรณีการขนส่งรูปแบบอื่น ซึ่งมิได้มีการขนถ่ายของลงจากรถด้วย ซึ่งพรบ.นี้จะไม่บังคับใช้กับการรับขนไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศ การขนส่งศพ และการขนย้ายเครื่องเรือน
2. กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องใบตราส่งอันจะถือเป็นการยืนยันเบื้องต้นของการทำสัญญารับขน เงื่อนไขสัญญา และการที่ผู้ขนส่งได้รับของไว้ โดยได้กำหนดรูปแบบและรายการในใบตราส่ง
3. กำหนดหน้าที่ของผู้ส่งที่จะต้องรับผิดต่อผู้ขนส่งเพื่อความเสียหายแก่บุคคล อุปกรณ์ และของอื่นๆ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการฯ
4. กำหนดความรับผิดและข้อยกเว้นความรับผิดของผู้ขนส่ง กล่าวคือ ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นในช่วงเวลาตั้งแต่ที่ผู้ขนส่งได้รับของไว้ในความดูแลจนถึงเวลาที่ได้ส่งมอบของ ให้สันนิฐานว่า ผู้ขนส่งอาจต้องรับผิด เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ถึงข้อยกเว้นความรับผิดชอบตามที่กฏหมายกำหนดไว้
5. กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องความรับผิดของผู้ขนส่ง ให้ต้องรับผิดในกรณีที่ไม่มีการส่งมอบของภายในเวลาที่กำหนด ส่งมอบชักช้า
6. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งในกรณีของผู้สูญหายไม่เกิน 8.33 SDR (หน่วยพิเศษถอนเงิน กำหนดโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ) ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม
7. กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องการรับขนโดยผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด รวมทั้งกำหนดหน้าที่ของผู้ขนส่งที่ได้รับมอบหมายจากผู้ขนส่งรายคนก่อน เป็นต้น
8. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอายุความที่จะเริ่มนับ เมื่อมีข้อพิพาทที่เกิดจากการรับขน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 ธันวาคม 2547--จบ--
ร่างพรบ.ดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดทางแพ่งของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการและบุคคลอื่นที่มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจการรับขนของทางถนนระหว่างประเทศ และคุ้มครองผู้ใช้บริการการขนส่งของทางถนนระหว่างประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดขอบเขตการใช้บังคับสัญญารับขนของทางถนนด้วยรถ รวมถึงกรณีการขนส่งรูปแบบอื่น ซึ่งมิได้มีการขนถ่ายของลงจากรถด้วย ซึ่งพรบ.นี้จะไม่บังคับใช้กับการรับขนไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศ การขนส่งศพ และการขนย้ายเครื่องเรือน
2. กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องใบตราส่งอันจะถือเป็นการยืนยันเบื้องต้นของการทำสัญญารับขน เงื่อนไขสัญญา และการที่ผู้ขนส่งได้รับของไว้ โดยได้กำหนดรูปแบบและรายการในใบตราส่ง
3. กำหนดหน้าที่ของผู้ส่งที่จะต้องรับผิดต่อผู้ขนส่งเพื่อความเสียหายแก่บุคคล อุปกรณ์ และของอื่นๆ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการฯ
4. กำหนดความรับผิดและข้อยกเว้นความรับผิดของผู้ขนส่ง กล่าวคือ ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นในช่วงเวลาตั้งแต่ที่ผู้ขนส่งได้รับของไว้ในความดูแลจนถึงเวลาที่ได้ส่งมอบของ ให้สันนิฐานว่า ผู้ขนส่งอาจต้องรับผิด เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ถึงข้อยกเว้นความรับผิดชอบตามที่กฏหมายกำหนดไว้
5. กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องความรับผิดของผู้ขนส่ง ให้ต้องรับผิดในกรณีที่ไม่มีการส่งมอบของภายในเวลาที่กำหนด ส่งมอบชักช้า
6. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งในกรณีของผู้สูญหายไม่เกิน 8.33 SDR (หน่วยพิเศษถอนเงิน กำหนดโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ) ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม
7. กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องการรับขนโดยผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด รวมทั้งกำหนดหน้าที่ของผู้ขนส่งที่ได้รับมอบหมายจากผู้ขนส่งรายคนก่อน เป็นต้น
8. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอายุความที่จะเริ่มนับ เมื่อมีข้อพิพาทที่เกิดจากการรับขน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 ธันวาคม 2547--จบ--