คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้งตามที่กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. พื้นที่ประสบภัย
จำนวน 55 จังหวัด 536 อำเภอ 49 กิ่งอำเภอ 3,915 ตำบล 35,643 หมู่บ้าน แยกได้ ดังนี้
ลำดับที่ ภาค จำนวน พื้นที่ประสบภัย
1 ภาคเหนือ 17 อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ แพร่ พิษณุโลก ลำปาง พะเยา
สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ตาก เชียงใหม่ กำแพงเพชร
น่าน เชียงราย พิจิตร ลำพูน และแม่ฮ่องสอน
2 ภาคตะวันออก 19 นครราชสีมา บุรีรัมย์ สกลนคร ยโสธร ร้อยเอ็ด อุดรธานี
เฉียงเหนือ ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ หนองคาย มหาสารคาม สุรินทร์
มุกดาหาร เลย ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี
อำนาจเจริญ และนครพนม
3 ภาคกลาง 11 ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี สระบุรี อ่างทอง
พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี สมุทรสงคราม และ
สมุทรปราการ
4 ภาคตะวันออก 8 ฉะเชิงเทรา ตราด ระยอง นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี
สระแก้ว
รวม 55
ราษฎรเดือดร้อน จำนวน 7,685,710 คน 1,964,821 ครัวเรือน
กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานการดำเนินการให้วามช่วยเหลือดังนี้
จากการประสานกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในการตรวจสอบข้อมูลจำนวนบ่อบาดาลทั่วประเทศ ซึ่งในปัจจุบันมีบ่อน้ำบาดาล จำนวนทั้งสิ้น 203,643 บ่อ บางส่วนชำรุดและขาดการดูแลรักษาเป็นจำนวนมาก จึงได้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการซ่อมและพัฒนาบ่อน้ำบาดาลให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดี เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านได้มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ ทั้งนี้การซ่อมแซมและพัฒนาบ่อบาดาลให้พิจารณาตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
1) เป็นบ่อบาดาลที่มีการใช้งานและยังไม่ได้รับการพัฒนาในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา
2) มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการอุดตันของตะกอนทรายในบ่อ
3) เป็นบ่อน้ำบาดาลที่ชำรุด แต่สามารถซ่อมให้กลับสู่สภาพเดิมได้
สำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมและเป่าล้างบ่อ ให้ใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือจากเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
กรมทรัพยากรน้ำ
1) ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการติดตามและแก้ไขภัยแล้ง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตามนโยบาย
นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อติดตามสถานการณ์และดำเนินการป้องกันแก้ไขวิกฤติการขาดแคลนน้ำ และได้ออกหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อทราบและขอความร่วมมือในการประสานข้อมูลด้านภัยแล้งเพื่อสรุปรายงานทุกสัปดาห์
2) ได้ดำเนินการช่วยเหลือน้ำเพื่อการเกษตรรวมทั้งสิ้น จำนวน 4,554,000 ลิตร
3) ได้ดำเนินการช่วยเหลือน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคจำนวน 2,376,000 ลิตร
4) ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซ่อมแซมระบบประปาที่ชำรุดทั่วประเทศ
จำนวน 102 แห่ง
5) ได้ก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ทั่วประเทศ
จำนวน 242 แห่ง
6) ได้พัฒนาและปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำผิวดินจำนวน 270 แห่ง
7) ได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง โดยมอบหมายให้หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรน้ำจังหวัดทุกจังหวัดเป็นกรรมการร่วมอยู่ในคณะกรรมการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งของจังหวัด และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1-8 เกลี่ยเครื่องจักร-อุปกรณ์ที่แต่ละภาคมีอยู่ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำภาคที่มีความต้องการใช้เร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน
8) ให้สำนักงานในภูมิภาคสำรวจแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค สำรองประจำหมู่บ้านที่มีอยู่ว่ามี
ปริมาณเพียงพอสำหรับใช้งานตลอดฤดูแล้งนี้หรือไม่ หากไม่เพียงพอให้วางแผนปรับปรุงแหล่งน้ำให้มีปริมาตรเก็บกัก มากขึ้น และรณรงค์ให้ราษฎรใช้น้ำอย่างประหยัด พร้อมทั้งตรวจสอบซ่อมแซมภาชนะเก็บน้ำ
9) ได้ให้สำนักงานในภูมิภาคดำเนินการสำรวจพื้นที่ในการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มปริมาตรเก็บกักน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านแล้งซ้ำซาก
10)ได้ดำเนินการสำรวจสถานที่สร้างฝายกั้นลำห้วย เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในฤดูแล้ง โดยประสานขอใช้งบประมาณจากเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด หรืองบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
11)ได้ประชาสัมพันธ์สถานการณ์ความแห้งแล้ง การให้ความช่วยเหลือให้สื่อมวลชนทราบทุกระยะอย่าง
ต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่แก่ทางราชการและประชาชน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
1) ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือราษฎร โดยขุดเจาะน้ำบาดาลทั่วประเทศรวมทั้งหมด 222 แห่ง โดยดำเนินการแล้วเสร็จ 89 บ่อ และอยู่ระหว่างการดำเนินการ 133 บ่อ
2) ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือราษฎร โดยการเป่าล้างบ่อบาดาล 218 บ่อ ซ่อมและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 179 เครื่อง ซ่อมบำรุงรักษาระบบประปาบาดาล 17 บ่อ และแจกน้ำให้ราษฎร 8,263,470 ลิตร
3) ได้ดำเนินการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องเจาะน้ำบาดาลให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานรวมจำนวน 71 ชุด
4) ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่ภัยแล้ง ร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนงบประมาณเจาะน้ำบาดาลหรือเป่าล้างบ่อบาดาลตามคำร้องขอ
5) ได้ก่อสร้างจุดจ่ายน้ำตามคำร้องขอของราษฎรและที่ได้รับงบประมาณ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 ธันวาคม 2547--จบ--
1. พื้นที่ประสบภัย
จำนวน 55 จังหวัด 536 อำเภอ 49 กิ่งอำเภอ 3,915 ตำบล 35,643 หมู่บ้าน แยกได้ ดังนี้
ลำดับที่ ภาค จำนวน พื้นที่ประสบภัย
1 ภาคเหนือ 17 อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ แพร่ พิษณุโลก ลำปาง พะเยา
สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ตาก เชียงใหม่ กำแพงเพชร
น่าน เชียงราย พิจิตร ลำพูน และแม่ฮ่องสอน
2 ภาคตะวันออก 19 นครราชสีมา บุรีรัมย์ สกลนคร ยโสธร ร้อยเอ็ด อุดรธานี
เฉียงเหนือ ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ หนองคาย มหาสารคาม สุรินทร์
มุกดาหาร เลย ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี
อำนาจเจริญ และนครพนม
3 ภาคกลาง 11 ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี สระบุรี อ่างทอง
พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี สมุทรสงคราม และ
สมุทรปราการ
4 ภาคตะวันออก 8 ฉะเชิงเทรา ตราด ระยอง นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี
สระแก้ว
รวม 55
ราษฎรเดือดร้อน จำนวน 7,685,710 คน 1,964,821 ครัวเรือน
กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานการดำเนินการให้วามช่วยเหลือดังนี้
จากการประสานกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในการตรวจสอบข้อมูลจำนวนบ่อบาดาลทั่วประเทศ ซึ่งในปัจจุบันมีบ่อน้ำบาดาล จำนวนทั้งสิ้น 203,643 บ่อ บางส่วนชำรุดและขาดการดูแลรักษาเป็นจำนวนมาก จึงได้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการซ่อมและพัฒนาบ่อน้ำบาดาลให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดี เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านได้มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ ทั้งนี้การซ่อมแซมและพัฒนาบ่อบาดาลให้พิจารณาตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
1) เป็นบ่อบาดาลที่มีการใช้งานและยังไม่ได้รับการพัฒนาในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา
2) มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการอุดตันของตะกอนทรายในบ่อ
3) เป็นบ่อน้ำบาดาลที่ชำรุด แต่สามารถซ่อมให้กลับสู่สภาพเดิมได้
สำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมและเป่าล้างบ่อ ให้ใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือจากเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
กรมทรัพยากรน้ำ
1) ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการติดตามและแก้ไขภัยแล้ง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตามนโยบาย
นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อติดตามสถานการณ์และดำเนินการป้องกันแก้ไขวิกฤติการขาดแคลนน้ำ และได้ออกหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อทราบและขอความร่วมมือในการประสานข้อมูลด้านภัยแล้งเพื่อสรุปรายงานทุกสัปดาห์
2) ได้ดำเนินการช่วยเหลือน้ำเพื่อการเกษตรรวมทั้งสิ้น จำนวน 4,554,000 ลิตร
3) ได้ดำเนินการช่วยเหลือน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคจำนวน 2,376,000 ลิตร
4) ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซ่อมแซมระบบประปาที่ชำรุดทั่วประเทศ
จำนวน 102 แห่ง
5) ได้ก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ทั่วประเทศ
จำนวน 242 แห่ง
6) ได้พัฒนาและปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำผิวดินจำนวน 270 แห่ง
7) ได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง โดยมอบหมายให้หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรน้ำจังหวัดทุกจังหวัดเป็นกรรมการร่วมอยู่ในคณะกรรมการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งของจังหวัด และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1-8 เกลี่ยเครื่องจักร-อุปกรณ์ที่แต่ละภาคมีอยู่ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำภาคที่มีความต้องการใช้เร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน
8) ให้สำนักงานในภูมิภาคสำรวจแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค สำรองประจำหมู่บ้านที่มีอยู่ว่ามี
ปริมาณเพียงพอสำหรับใช้งานตลอดฤดูแล้งนี้หรือไม่ หากไม่เพียงพอให้วางแผนปรับปรุงแหล่งน้ำให้มีปริมาตรเก็บกัก มากขึ้น และรณรงค์ให้ราษฎรใช้น้ำอย่างประหยัด พร้อมทั้งตรวจสอบซ่อมแซมภาชนะเก็บน้ำ
9) ได้ให้สำนักงานในภูมิภาคดำเนินการสำรวจพื้นที่ในการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มปริมาตรเก็บกักน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านแล้งซ้ำซาก
10)ได้ดำเนินการสำรวจสถานที่สร้างฝายกั้นลำห้วย เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในฤดูแล้ง โดยประสานขอใช้งบประมาณจากเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด หรืองบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
11)ได้ประชาสัมพันธ์สถานการณ์ความแห้งแล้ง การให้ความช่วยเหลือให้สื่อมวลชนทราบทุกระยะอย่าง
ต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่แก่ทางราชการและประชาชน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
1) ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือราษฎร โดยขุดเจาะน้ำบาดาลทั่วประเทศรวมทั้งหมด 222 แห่ง โดยดำเนินการแล้วเสร็จ 89 บ่อ และอยู่ระหว่างการดำเนินการ 133 บ่อ
2) ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือราษฎร โดยการเป่าล้างบ่อบาดาล 218 บ่อ ซ่อมและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 179 เครื่อง ซ่อมบำรุงรักษาระบบประปาบาดาล 17 บ่อ และแจกน้ำให้ราษฎร 8,263,470 ลิตร
3) ได้ดำเนินการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องเจาะน้ำบาดาลให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานรวมจำนวน 71 ชุด
4) ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่ภัยแล้ง ร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนงบประมาณเจาะน้ำบาดาลหรือเป่าล้างบ่อบาดาลตามคำร้องขอ
5) ได้ก่อสร้างจุดจ่ายน้ำตามคำร้องขอของราษฎรและที่ได้รับงบประมาณ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 ธันวาคม 2547--จบ--