ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 6, 2013 10:46 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการ

ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เสนอดังนี้

1. เห็นชอบร่างความตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาและอนุมัติให้มีการลงนามในร่างความตกลงดังกล่าว ทั้งนี้ หากก่อนการลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างความตกลงฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ วท. หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงฯ

3. มอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามในข้อ 2.

สาระสำคัญของร่างความตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา มีดังนี้

1. คู่ภาคีจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในสาขาที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อวัตถุประสงค์ในทางสันติเพื่อให้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนความเห็น ข้อมูล ทักษะและเทคนิค โดยคู่ภาคีจะสนับสนุนให้มีการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจและสังคมและการพัฒนาอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ

2. ความร่วมมือภายใต้ความตกลงฉบับนี้จะดำเนินการในสาขาที่เห็นชอบร่วมกัน กิจกรรมความร่วมมือภายใต้ความตกลงฉบับนี้อาจรวมถึงโครงการวิจัยและพัฒนาร่วม คณะทำงานร่วม การศึกษาร่วม ฯลฯ

3. คู่ภาคีจะสนับสนุนการเข้าร่วมในกิจกรรมความร่วมมือของนักวิจัยและองค์กรจากทุกภาคส่วน รวมถึงมหาวิทยาลัย ห้องปฏิบัติการทดลองแห่งชาติและภาคเอกชน

4. กิจกรรมภายใต้ความตกลงฉบับนี้จะจัดทำโดยเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่ใช้อยู่ของภาคีแต่ละฝ่าย และขึ้นอยู่กับเงินทุนและบุคลากรที่มีอยู่เว้นแต่จะได้ระบุในข้อตกลงเป็นอย่างอื่น

5. การปกป้องและการจัดสรรสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาและการปฏิบัติต่อข้อมูลลับทางธุรกิจจะอยู่ภายใต้ข้อบังคับของภาคผนวก 1 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของความตกลงฉบับนี้ โดยภาคผนวก 1 มีสาระสำคัญเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีความแน่ใจว่ามีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้ความตกลงฉบับนี้ และข้อตกลงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอและมีประสิทธิผล โดยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญานั้นจะได้รับการจัดสรรตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก ซึ่งภาคผนวกจะใช้ได้กับกิจกรรมความร่วมมือที่ดำเนินการตามความตกลงฉบับนี้ เว้นแต่คู่ภาคีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะตกลงกันเป็นอย่างอื่นเป็นการเฉพาะ

6. พันธกรณีด้านการรักษาความปลอดภัยต่างตอบแทนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลหรืออุปกรณ์ที่มีความอ่อนไหวและที่เปิดเผยได้และถูกควบคุมการส่งออก ที่ได้ถ่ายทอดภายใต้ความตกลงฉบับนี้จะอยู่ภายใต้บังคับของภาคผนวก 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของความตกลงฉบับนี้ โดยภาคผนวก 2 มีสาระสำคัญเกี่ยวกับพันธกรณีด้านการรักษาความปลอดภัย ซึ่งคู่ภาคีจะไม่มีการให้ข้อมูลหรืออุปกรณ์ที่ต้องการการปกป้องเพื่อประโยชน์ของความมั่นคงแห่งชาติ การป้องกันประเทศหรือความสัมพันธ์ต่างประเทศ และที่เปิดเผยไม่ได้โดยเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ หรือคำสั่งภายในประเทศที่ใช้อยู่ในกรณีที่ระหว่างการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือตามความตกลงฉบับนี้ ภาคีได้พบข้อมูลหรืออุปกรณ์ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า หรือเชื่อว่าจะต้องได้รับการปกป้องจะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบถึงข้อมูลหรืออุปกรณ์นั้นโดยทันที คู่ภาคีจะหารือเพื่อระบุและดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมสำหรับข้อมูลและอุปกรณ์นั้น ฯลฯ

7. ความตกลงจะมีผลบังคับใช้เมื่อลงนามและจะยังมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลา 5 ปี และอาจต่ออายุเป็นระยะเวลาอีกคราวละ 5 ปี และอาจมีการแก้ไขเมื่อใดก็ได้ โดยการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรของคู่ภาคี ทั้งนี้คู่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจบอกเลิกความตกลงเมื่อใดก็ได้เมื่อแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 มีนาคม 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ