คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อดำเนินโครงการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอแล้วมีมติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ คณะที่ 4 (ฝ่ายการวัฒนธรรมท่องเที่ยวและกีฬา) มีดังนี้
1. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2546 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2547 เฉพาะในส่วนของพื้นที่การก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ โดยย้ายจาก ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ ไปที่ราชพัสดุ ตำบลช้างเผือก ด้วยเหตุผลตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายการต่างประเทศ วัฒนธรรม ท่องเที่ยวและกีฬา) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เป็นประธานกรรมการ
2. อนุมัติงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นเงิน 366,000,000 บาท เพื่อมาดำเนินการสำหรับการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2548 และผูกพันงบประมาณอีก 854,000,000 บาท สำหรับงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550
3. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับแผนงานการจัดงานมหกรรมพืชสวนให้สอดคล้องกับการดำเนินการสร้างศูนย์ประชุมดังกล่าวข้างต้น
สำหรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายการต่างประเทศ วัฒนธรรมท่องเที่ยวและกีฬา) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เป็นประธานกรรมการ ในส่วนของพื้นที่การก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่มีดังนี้
1. ผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่าจากการเปรียบเทียบพื้นที่ก่อสร้างเห็นว่า พื้นที่ราชพัสดุหนองฮ่อ ตำบลช้างเผือก เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ดังนี้
(1) ทำเลที่ตั้ง ติดกับเส้นทางสัญจรหลักห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร ห่างจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประมาณ 10 กิโลเมตร อยู่บริเวณเดียวกับสถานที่ก่อสร้างตลาดกลางสินค้าเกษตรและศูนย์ส่งเสริมการกระจายสินค้า SME
(2) ขนาด พื้นที่จำนวน 240 ไร่ เพียงพอในการก่อสร้าง
(3) สภาพพื้นที่ เป็นที่ราบมีความลาดชันน้อย เดิมเป็นที่ตั้งศูนย์ฝึก รด. ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งปัจจุบันได้ย้ายออกไปแล้ว โดยได้รับเงินงบประมาณค่าขนย้าย จำนวน 230,000,000 บาท โดยสภาพพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นจะทำให้สามารถประหยัดค่าก่อสร้างได้
(4) สถานะพื้นที่และการเข้าใช้ประโยชน์ เป็นที่ราชพัสดุในความดูแลของกรมธนารักษ์ ขั้นตอนการขอใช้พื้นที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนมีความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจ
(5) Zoning & Land Use ของพื้นที่โดยรอบ อยู่ในกลุ่มพื้นที่กิจกรรมด้านการจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ เช่นตลาดกลางการเกษตร ศูนย์ส่งเสริมและกระจายสินค้า SME อยู่ใกล้ตัวเมือง ย่านธุรกิจ ศูนย์ราชการ สนามกีฬา 700 ปี สนามกอล์ฟ ศูนย์กีฬาทางน้ำ และสถานที่จัดงานฤดูหนาวของจังหวัดเชียงใหม่
(6) ปัญหาและอุปสรรคในการใช้สถานที่ ไม่มี
(7) งบประมาณ 1,220 ล้านบาท ไม่ต้องขอเพิ่ม แต่อาจต้องมีการปรับปรุงรูปแบบและรายละเอียดการก่อสร้างให้สอดคล้องกับพื้นที่และวัตถุประสงค์ของการใช้งานโดยรายการก่อสร้างต่างๆ ยังคงสอดคล้องกับเงื่อนไขของ TOR เดิม และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณเดิม เป็นเงิน 1,220,000,000 บาท
(8) กำหนดเริ่มก่อสร้างแล้วเสร็จ มิถุนายน 2548 — สิงหาคม 2549
(9) ความพร้อมในการรองรับการประชุมสำหรับมหกรรมพืชสวน (พฤศจิกายน 2549 — มีนาคม 2550) มีความพร้อม
2. ที่ประชุมเห็นว่า จากข้อมูลและเหตุผลที่ ททท. นำเสนอการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ควรดำเนินการที่ตำบลช้างเผือก ตามที่คณะรัฐมนตรีเคยมีมติไว้เดิมเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2546 และวันที่ 27 เมษายน 2547 จะเป็นการเหมาะสมกว่า เนื่องจากจะทำให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินงานตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ภายในกรอบ TOR เดิม โดยไม่ต้องเพิ่มวงเงินงบประมาณไม่กระทบต่อการจัดงานมหกรรมพืชสวนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ ผู้แทนสำนักงบประมาณได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับโครงการนี้ไว้เดิมจำนวน 1,450,000,000 บาท ซึ่งมิใช่เป็นการอนุมัติเงินงบประมาณดำเนินการ ประกอบกับมิได้มีการตั้งงบประมาณปี 2548 เพื่อการนี้ไว้ จึงไม่มีงบประมาณที่จะเบิกจ่ายจริง ดังนั้น เมื่อได้ข้อยุติในเรื่องสถานที่ก่อสร้างศูนย์ประชุม ฯ ททท. จะต้องเร่งดำเนินการทำเรื่อง ขออนุมัติงบกลางประจำปี 2548 รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ในส่วนที่สามารถดำเนินการได้สำหรับวงเงินที่เหลือ จำนวน 1,220,000,000 บาท โดยให้ประสานการดำเนินการกับสำนักงบประมาณ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 ธันวาคม 2547--จบ--
1. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2546 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2547 เฉพาะในส่วนของพื้นที่การก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ โดยย้ายจาก ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ ไปที่ราชพัสดุ ตำบลช้างเผือก ด้วยเหตุผลตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายการต่างประเทศ วัฒนธรรม ท่องเที่ยวและกีฬา) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เป็นประธานกรรมการ
2. อนุมัติงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นเงิน 366,000,000 บาท เพื่อมาดำเนินการสำหรับการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2548 และผูกพันงบประมาณอีก 854,000,000 บาท สำหรับงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550
3. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับแผนงานการจัดงานมหกรรมพืชสวนให้สอดคล้องกับการดำเนินการสร้างศูนย์ประชุมดังกล่าวข้างต้น
สำหรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายการต่างประเทศ วัฒนธรรมท่องเที่ยวและกีฬา) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เป็นประธานกรรมการ ในส่วนของพื้นที่การก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่มีดังนี้
1. ผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่าจากการเปรียบเทียบพื้นที่ก่อสร้างเห็นว่า พื้นที่ราชพัสดุหนองฮ่อ ตำบลช้างเผือก เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ดังนี้
(1) ทำเลที่ตั้ง ติดกับเส้นทางสัญจรหลักห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร ห่างจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประมาณ 10 กิโลเมตร อยู่บริเวณเดียวกับสถานที่ก่อสร้างตลาดกลางสินค้าเกษตรและศูนย์ส่งเสริมการกระจายสินค้า SME
(2) ขนาด พื้นที่จำนวน 240 ไร่ เพียงพอในการก่อสร้าง
(3) สภาพพื้นที่ เป็นที่ราบมีความลาดชันน้อย เดิมเป็นที่ตั้งศูนย์ฝึก รด. ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งปัจจุบันได้ย้ายออกไปแล้ว โดยได้รับเงินงบประมาณค่าขนย้าย จำนวน 230,000,000 บาท โดยสภาพพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นจะทำให้สามารถประหยัดค่าก่อสร้างได้
(4) สถานะพื้นที่และการเข้าใช้ประโยชน์ เป็นที่ราชพัสดุในความดูแลของกรมธนารักษ์ ขั้นตอนการขอใช้พื้นที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนมีความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจ
(5) Zoning & Land Use ของพื้นที่โดยรอบ อยู่ในกลุ่มพื้นที่กิจกรรมด้านการจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ เช่นตลาดกลางการเกษตร ศูนย์ส่งเสริมและกระจายสินค้า SME อยู่ใกล้ตัวเมือง ย่านธุรกิจ ศูนย์ราชการ สนามกีฬา 700 ปี สนามกอล์ฟ ศูนย์กีฬาทางน้ำ และสถานที่จัดงานฤดูหนาวของจังหวัดเชียงใหม่
(6) ปัญหาและอุปสรรคในการใช้สถานที่ ไม่มี
(7) งบประมาณ 1,220 ล้านบาท ไม่ต้องขอเพิ่ม แต่อาจต้องมีการปรับปรุงรูปแบบและรายละเอียดการก่อสร้างให้สอดคล้องกับพื้นที่และวัตถุประสงค์ของการใช้งานโดยรายการก่อสร้างต่างๆ ยังคงสอดคล้องกับเงื่อนไขของ TOR เดิม และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณเดิม เป็นเงิน 1,220,000,000 บาท
(8) กำหนดเริ่มก่อสร้างแล้วเสร็จ มิถุนายน 2548 — สิงหาคม 2549
(9) ความพร้อมในการรองรับการประชุมสำหรับมหกรรมพืชสวน (พฤศจิกายน 2549 — มีนาคม 2550) มีความพร้อม
2. ที่ประชุมเห็นว่า จากข้อมูลและเหตุผลที่ ททท. นำเสนอการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ควรดำเนินการที่ตำบลช้างเผือก ตามที่คณะรัฐมนตรีเคยมีมติไว้เดิมเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2546 และวันที่ 27 เมษายน 2547 จะเป็นการเหมาะสมกว่า เนื่องจากจะทำให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินงานตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ภายในกรอบ TOR เดิม โดยไม่ต้องเพิ่มวงเงินงบประมาณไม่กระทบต่อการจัดงานมหกรรมพืชสวนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ ผู้แทนสำนักงบประมาณได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับโครงการนี้ไว้เดิมจำนวน 1,450,000,000 บาท ซึ่งมิใช่เป็นการอนุมัติเงินงบประมาณดำเนินการ ประกอบกับมิได้มีการตั้งงบประมาณปี 2548 เพื่อการนี้ไว้ จึงไม่มีงบประมาณที่จะเบิกจ่ายจริง ดังนั้น เมื่อได้ข้อยุติในเรื่องสถานที่ก่อสร้างศูนย์ประชุม ฯ ททท. จะต้องเร่งดำเนินการทำเรื่อง ขออนุมัติงบกลางประจำปี 2548 รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ในส่วนที่สามารถดำเนินการได้สำหรับวงเงินที่เหลือ จำนวน 1,220,000,000 บาท โดยให้ประสานการดำเนินการกับสำนักงบประมาณ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 ธันวาคม 2547--จบ--