คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขออนุมัติวงเงินงบกลางฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วมีมติเห็นชอบในหลักการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถเบิกเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินดังกล่าว โดยให้กระทรวงมหาดไทยทำความตกลงกับกระทรวงการคลังขอยกเว้นหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ให้สามารถเบิกจ่ายจากเงินทดรองราชการได้ทันทีแทนการขอใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพิ่มเติมตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2548 นี้ มีความรุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา และครอบคลุมทุกภาคของประเทศในพื้นที่ 65 จังหวัด 630 อำเภอ 62 กิ่งอำเภอ โดยกระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดให้จังหวัดที่ประสบภัยใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการป้องกันและให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 1,262,474,811 บาท เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้งใน 3 กิจกรรม คือ ขุดลอกแหล่งน้ำขนาดเล็ก ลำห้วย หนองน้ำ สระน้ำ ก่อสร้างฝายประชาอาสา จัดหาถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน สำหรับการขุดเจาะบ่อบาดาล การเป่าล้างบ่อ การซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก การติดตั้งจุดจ่ายน้ำ ในหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2548 อนุมัติวงเงินงบกลางฯ ปี 2548 ให้ความช่วยเหลือแล้ว เป็นเงิน 852 ล้านบาท และขณะนี้จังหวัดที่ประสบความแห้งแล้ง จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ สุพรรณบุรี มหาสารคาม อ่างทอง นครพนม ชัยภูมิ แพร่ ขอนแก่น สุรินทร์ และนครศรีธรรมราช ได้ส่งโครงการที่ไม่สามารถใช้จ่ายจากเงินทดรองตามระเบียบกระทรวงการคลัง โดยผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินของจังหวัดแล้ว รวม 628 โครงการ แยกเป็นประเภทกิจกรรม/โครงการ ดังนี้
1. จัดหาถังน้ำ (ไฟเบอร์กลาส) ให้แก่หมู่บ้านที่ไม่มีถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านหรือมีแต่ไม่เพียงพอจำนวน 5,305 ใบ เป็นเงิน 43,050,000 บาท
2. ขุดลอกลำห้วย/สระน้ำ/หนองน้ำขนาดเล็กในพื้นที่ตำบล หมู่บ้าน จำนวน 498 โครงการ 422,048,428 บาท
3. ก่อสร้างฝายน้ำล้น/ฝายประชาอาสา (มข.2527) จำนวน 128 โครงการ และหลายจังหวัดอยู่ระหว่างจัดทำโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 เมษายน 2548--จบ--
กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2548 นี้ มีความรุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา และครอบคลุมทุกภาคของประเทศในพื้นที่ 65 จังหวัด 630 อำเภอ 62 กิ่งอำเภอ โดยกระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดให้จังหวัดที่ประสบภัยใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการป้องกันและให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 1,262,474,811 บาท เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้งใน 3 กิจกรรม คือ ขุดลอกแหล่งน้ำขนาดเล็ก ลำห้วย หนองน้ำ สระน้ำ ก่อสร้างฝายประชาอาสา จัดหาถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน สำหรับการขุดเจาะบ่อบาดาล การเป่าล้างบ่อ การซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก การติดตั้งจุดจ่ายน้ำ ในหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2548 อนุมัติวงเงินงบกลางฯ ปี 2548 ให้ความช่วยเหลือแล้ว เป็นเงิน 852 ล้านบาท และขณะนี้จังหวัดที่ประสบความแห้งแล้ง จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ สุพรรณบุรี มหาสารคาม อ่างทอง นครพนม ชัยภูมิ แพร่ ขอนแก่น สุรินทร์ และนครศรีธรรมราช ได้ส่งโครงการที่ไม่สามารถใช้จ่ายจากเงินทดรองตามระเบียบกระทรวงการคลัง โดยผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินของจังหวัดแล้ว รวม 628 โครงการ แยกเป็นประเภทกิจกรรม/โครงการ ดังนี้
1. จัดหาถังน้ำ (ไฟเบอร์กลาส) ให้แก่หมู่บ้านที่ไม่มีถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านหรือมีแต่ไม่เพียงพอจำนวน 5,305 ใบ เป็นเงิน 43,050,000 บาท
2. ขุดลอกลำห้วย/สระน้ำ/หนองน้ำขนาดเล็กในพื้นที่ตำบล หมู่บ้าน จำนวน 498 โครงการ 422,048,428 บาท
3. ก่อสร้างฝายน้ำล้น/ฝายประชาอาสา (มข.2527) จำนวน 128 โครงการ และหลายจังหวัดอยู่ระหว่างจัดทำโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 เมษายน 2548--จบ--