ผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 1, 2013 11:09 —มติคณะรัฐมนตรี

1. เห็นชอบความเห็นของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่โครงการที่มีความพร้อมและมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที ในกรอบวงเงิน 100 ล้านบาทในพื้นที่กลุ่มจังหวัดกลางตอนกลาง รวม 5 จังหวัด โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียด คำขอรับการจัดสรรงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2556 และจัดส่งให้สำนักงบประมาณโดยเร่งด่วน พร้อมทั้งให้รับความเห็นไปดำเนินการต่อไป

2. เห็นชอบตามความเห็นและข้อสั่งการเพิ่มเติมในพื้นที่ดูงานของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดปราจีนบุรี

ผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง (ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว) โดยความเห็นของรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่โครงการในกรอบวงเงิน 100 ล้านบาท จำนวน 1 กลุ่มจังหวัด และ 5 จังหวัด สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1. กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง มีนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง และเลขานุการรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ รวม 6 คน ในพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ปราจีนบุรี และสระแก้ว โดยมีความเห็นต่อโครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที ดังนี้

(1) เห็นชอบโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้อาเซียนของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง ซึ่งดำเนินการในพื้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 30.00 ล้านบาท

(2) เห็นชอบโครงการพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์และสุขภาพวิถีไทย ซึ่งดำเนินการในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 16.804 ล้านบาท

(3) เห็นชอบโครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และแปรรูปปลาสลิดของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง เพื่อส่งเสริมให้ได้มาตรฐาน OTOP และส่งเสริมการส่งออก ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 23.00 ล้านบาท

(4) เห็นชอบโครงการพัฒนาด่านชายแดนและปรับปรุงระบบการให้บริการประชาชน ซึ่งดำเนินการในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 37.50 ล้านบาท

2. จังหวัดในกลุ่มภาคกลางตอนกลางมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ลงพื้นที่โครงการในกรอบวงเงิน 100 ล้านบาท รวม 17 คน โดยมีความเห็นต่อโครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันทีในแต่ละจังหวัด ดังนี้

(1) จังหวัดฉะเชิงเทรา มีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ลงพื้นที่ตรวจราชการ รวม 4 คน มีความเห็นต่อโครงการ ดังนี้

(1.1) เห็นชอบโครงการปรับปรุงเส้นทางเชื่อมโยงการเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอแปลงยาว โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 44.00 ล้านบาท

(1.2) เห็นชอบโครงการเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอคลองเขื่อน โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 51.20 ล้านบาท

(1.3) เห็นชอบโครงการรักษาเสถียรภาพต้นทุนการผลิตไข่ไก่ ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอบ้านโพธิ์ โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 12.00 ล้านบาท

(2) จังหวัดสมุทรปราการ มีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง และที่ปรึกษารัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ รวม 5 คน มีความเห็นต่อโครงการ ดังนี้

(2.1) เห็นชอบโครงการศูนย์แสดง จำหน่าย และกระจายสินค้า OTOP ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ สู่ตลาดสากล โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 70.00 ล้านบาท

(2.2) เห็นชอบโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว “งานประเพณีรับบัว” จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอบางพลี โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 15.00 ล้านบาท

(2.3) เห็นชอบโครงการปรับปรุงซ่อมแซมเขื่อนกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จากภาวะน้ำทะเลหนุน บริเวณพื้นที่ชุมชนรอบศูนย์ราชการจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอเมือง โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 15.00 ล้านบาท

(3) จังหวัดนครนายก มีรัฐมนตรี และปลัดกระทรวง (แทน รมว.พม.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ รวม 2 คน มีความเห็นต่อโครงการ ดังนี้

(3.1) เห็นชอบในหลักการโครงการทั้ง 4 โครงการที่จังหวัดเสนอขอ แต่เนื่องจากภาคเอกชนมีข้อเสนอในการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล ดังนั้นจึงเห็นควรให้จังหวัดทำการศึกษาความเป็นไปได้ และวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเขื่อนขุนด่านปราการชลในภาพรวมอย่างเป็นระบบ

(4) จังหวัดปราจีนบุรี มีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ลงพื้นที่ตรวจราชการ รวม 5 คน มีความเห็นต่อโครงการ ดังนี้

(4.1) เห็นชอบโครงการสวนสุขภาพของชุมชนในจังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 5 แห่ง ดำเนินการในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอประจันตคาม อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอนาดี โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 40.00 ล้านบาท

(4.2) เห็นชอบโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อภาคเกษตรกรรมตำบลบ้านพระ อำเภอเมืองปราจีนบุรี โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 25.56 ล้านบาท

(4.3) เห็นชอบโครงการปรับปรุงคันกั้นน้ำท่าแห ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 38.00 ล้านบาท

(5) จังหวัดสระแก้ว มีรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ รวม 1 คน มีความเห็นต่อโครงการ ดังนี้

(5.1) เห็นชอบโครงการจัดสร้างศูนย์กระจายสินค้าพืชพลังงาน ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอวัฒนานคร และอำเภอวังน้ำเย็น โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 49.90 ล้านบาท

(5.2) เห็นชอบโครงการก่อสร้างตลาดกลางสินค้าเกษตร ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอวังสมบูรณ์ โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 25.00 ล้านบาท

(5.3) เห็นชอบโครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตพืชพลังงาน (มันสำปะหลัง) ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอวังสมบูรณ์ โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 17.59 ล้านบาท

(5.4) เห็นชอบโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเพื่อยกระดับรายได้ ซึ่งดำเนินการในพื้นที่ทั้ง 9 อำเภอ ในจังหวัดสระแก้ว โดยให้สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลางฯ วงเงิน 12.30 ล้านบาท

ข้อสั่งการเพิ่มเติมของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี

1. จังหวัดสระแก้ว

นายกรัฐมนตรี 1) ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองวางระบบ Auto Channel และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะสนับสนุนให้เกิดความรวดเร็วในการให้บริการที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก โดยเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบปกติตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งเห็นควรให้กรมศุลกากรเสนอของบประมาณการให้บริการที่ต่อเนื่องกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้การบริการและการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนเป็นรูปแบบสากล เช่นเดียวกับการบริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ 2) เห็นควรให้กรมศุลกากรไปเร่งจัดหาที่ดิน ออกแบบรายละเอียดเพื่อพัฒนาโครงการพัฒนาด่านศุลกากร ณ บ้านหนองเอี่ยน — สตึงบท รองรับรองการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ (Southern Economic Corridor)

2. จังหวัดปราจีนบุรี

รองนายกรัฐมนตรี (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) กรณีเขื่อนทดน้ำบางปะกง ซึ่งรัฐบาลได้เห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2533 แล้วเสร็จปี พ.ศ. 2543 วงเงินลงทุนประมาณ 3,027 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็ม และเก็บกักน้ำจืดไว้ใช้ในฤดูแล้ง ทั้งนี้ จากการเริ่มใช้งานจริงในช่วงปี พ.ศ. 2543 พบว่า เกิดน้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมด้านท้ายน้ำในช่วงน้ำขึ้น และการพังทลายของตลิ่งในบริเวณที่เป็นคุ้งน้ำในช่วงน้ำลง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม มีเพียงการบริหารจัดการเขื่อนทดน้ำเพื่อรักษาระดับน้ำจืดและระดับน้ำทะเล ให้แตกต่างกันน้อยที่สุด ทำให้โครงการไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ได้ ดังนั้น จึงเห็นควรมอบหมายกรมชลประทานโดยการกำกับของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ทำการศึกษาทางด้านชลศาสตร์ อุทกศาสตร์ และธรณีวิทยาของตลิ่ง และ/หรือ การศึกษาออกแบบการก่อสร้างฝายทดน้ำที่บริเวณปากแม่น้ำอีกแห่งหนึ่ง เพื่อลดความแปรปรวนของการขึ้นลงของระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นสาเหตุของการพังทลายของตลิ่งในปัจจุบัน เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ และคุ้มค่ากับเงินที่ได้ลงทุนไปแล้ว

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 31 มีนาคม 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ