บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการศึกษาทวิภาคีไทย-เยอรมัน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 1, 2013 11:14 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการศึกษาทวิภาคีไทย-เยอรมันสู่ความเป็นเลิศระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ

แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้

1. อนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการศึกษาทวิภาคีไทย-เยอรมันสู่ความเป็นเลิศระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงศึกษาธิการหารือกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการศึกษาทวิภาคีไทย-เยอรมันสู่ความเป็นเลิศระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการศึกษาทวิภาคีไทย-เยอรมันสู่ความเป็นเลิศระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเป็นกรอบความร่วมมือที่ประเทศไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันในการพัฒนาการศึกษาทวิภาคีของไทย โดยใช้ระบบการศึกษาวิชาชีพของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีที่มีชื่อเสียงเข้ามาช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้แก่ระบบการอาชีวศึกษาที่มีอยู่ของไทย โดยในระยะแรกบริษัทเอกชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทเยอรมนี อาทิ บริษัทบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) บริษัทบ๊อช (Bosch) และบริษัท บีกริม (B.Grimm) จะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดหลักสูตรการอาชีวศึกษาขึ้นภายในวิทยาลัยอาชีวศึกษาของไทยที่ได้รับคัดเลือก โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของกรอบหลักสูตรที่เกิดจากการประสานร่วมกันเป็นอย่างดีของทั้งสองฝ่าย โดยนักเรียนอาชีวศึกษาจะได้มีโอกาสในการศึกษาในวิทยาลัยและฝึกปฏิบัติในบริษัทอย่างสมดุล และมีการจัดทำรูปแบบ ของสัญญา (ค่าตอบแทนและทุนการศึกษา) ในระหว่างการฝึกปฏิบัติงานด้วย

กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาแล้ว เห็นว่าบันทึกความเข้าใจดังกล่าว เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการของไทยและกระทรวงการต่างประเทศของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และมีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษา ไม่เป็นหนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือขอบเขตอำนาจอธิปไตยของไทย หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือเศรษฐกิจของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น กรอบความร่วมมือดังกล่าว จึงไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งบันทึกความเข้าใจดังกล่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 31 มีนาคม 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ