คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยค่าตอบแทนที่ปรึกษาซึ่งนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
สาระสำคัญของร่างระเบียบฯ ดังกล่าวมีดังนี้
1. กำหนดให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป
2. กำหนดค่าตอบแทนที่ปรึกษาและอนุที่ปรึกษา โดยที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้ง เฉพาะครั้งที่มาประชุมในอัตราครั้งละหนึ่งพันบาท ส่วนอนุที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนครึ่งหนึ่งของที่ปรึกษา โดยกำหนดให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้งเฉพาะครั้งที่มาประชุมในอัตราครั้งละห้าร้อยบาท
3. กำหนดให้ที่ปรึกษาหรือนุที่ปรึกษา ซึ่งมิได้เป็นข้าราชการ พนักงานราชการหรือลูกจ้างของทางราชการหรือพนักงานหรือลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ให้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าของค่าตอบแทนที่ผู้นั้นมีสิทธิได้รับ
4. ประธานคณะที่ปรึกษาและประธานคณะอนุที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งในสี่ของค่าตอบแทนที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษา
5. กำหนดให้เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการของคณะที่ปรึกษาหรือคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนเช่นเดียวกับที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษาแล้วแต่กรณี และถ้าที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษาผู้ใดเป็นเลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการด้วย ให้เบิกค่าตอบแทนได้เพียงตำแหน่งเดียว
เลขานุการในคณะที่ปรึกษาหรือในคณะอนุที่ปรึกษาให้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนไม่เกินหนึ่งคน และผู้ช่วยเลขานุการในคณะที่ปรึกษาหรือคณะอนุที่ปรึกษาให้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนไม่เกินสองคน
6. กำหนดให้ที่ปรึกษาในคณะที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษาในคณะอนุที่ปรึกษาคณะหนึ่งให้ได้รับค่าตอบแทนเพียงครั้งเดียวในวันหนึ่งและให้เบิกจ่ายจากส่วนราชการผู้เป็นเจ้าของเรื่อง
7. กำหนดให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรักษาการตามระเบียบนี้และให้มีอำนาจวินิจฉัยปัญหาและตีความเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 ธันวาคม 2547--จบ--
สาระสำคัญของร่างระเบียบฯ ดังกล่าวมีดังนี้
1. กำหนดให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป
2. กำหนดค่าตอบแทนที่ปรึกษาและอนุที่ปรึกษา โดยที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้ง เฉพาะครั้งที่มาประชุมในอัตราครั้งละหนึ่งพันบาท ส่วนอนุที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนครึ่งหนึ่งของที่ปรึกษา โดยกำหนดให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้งเฉพาะครั้งที่มาประชุมในอัตราครั้งละห้าร้อยบาท
3. กำหนดให้ที่ปรึกษาหรือนุที่ปรึกษา ซึ่งมิได้เป็นข้าราชการ พนักงานราชการหรือลูกจ้างของทางราชการหรือพนักงานหรือลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ให้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าของค่าตอบแทนที่ผู้นั้นมีสิทธิได้รับ
4. ประธานคณะที่ปรึกษาและประธานคณะอนุที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งในสี่ของค่าตอบแทนที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษา
5. กำหนดให้เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการของคณะที่ปรึกษาหรือคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนเช่นเดียวกับที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษาแล้วแต่กรณี และถ้าที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษาผู้ใดเป็นเลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการด้วย ให้เบิกค่าตอบแทนได้เพียงตำแหน่งเดียว
เลขานุการในคณะที่ปรึกษาหรือในคณะอนุที่ปรึกษาให้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนไม่เกินหนึ่งคน และผู้ช่วยเลขานุการในคณะที่ปรึกษาหรือคณะอนุที่ปรึกษาให้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนไม่เกินสองคน
6. กำหนดให้ที่ปรึกษาในคณะที่ปรึกษาหรืออนุที่ปรึกษาในคณะอนุที่ปรึกษาคณะหนึ่งให้ได้รับค่าตอบแทนเพียงครั้งเดียวในวันหนึ่งและให้เบิกจ่ายจากส่วนราชการผู้เป็นเจ้าของเรื่อง
7. กำหนดให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรักษาการตามระเบียบนี้และให้มีอำนาจวินิจฉัยปัญหาและตีความเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 ธันวาคม 2547--จบ--