คณะรัฐมนตรีอนุมัติผลการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมเกี่ยวกับการขอใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามที่สำนัก-เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ ดังนี้
1. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการใช้เงินงบกลาง จำนวน 5 มติ คือ
1.1 มติคณะรัฐมนตรี (23 ธันวาคม 2519) เรื่อง การใช้จ่ายเงินงบกลาง
1.2 มติคณะรัฐมนตรี (22 พฤศจิกายน 2520) เรื่อง การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
1.3 มติคณะรัฐมนตรี (1 มิถุนายน 2522) เรื่อง การให้ความเห็นชอบรายจ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
1.4 มติคณะรัฐมนตรี (26 มิถุนายน 2533) เรื่อง การให้ความเห็นชอบรายจ่ายเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
1.5 มติคณะรัฐมนตรี (26 กันยายน 2538) เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
2. กำหนดแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการขอใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อถือปฏิบัติดังนี้
2.1 ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เสนอขอใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามความจำเป็นและเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการเท่านั้น โดยขอให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจพิจารณาเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี สำหรับงาน โครงการหรือแผนงาน โดยเตรียมการล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ หรือเสนอขอแปรญัตติงบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่ไม่สามารถเสนอขอตั้งงบประมาณประจำปีได้ทันเวลา
2.2 ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจใดมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง ฯ สำหรับนำไปใช้ในงาน หรือโครงการ หรือแผนงานใด เนื่องจากไม่อาจเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีหรือแปรญัตติงบประมาณเพิ่มเติมมาดำเนินการได้ ก็ให้ส่วนราชการเจ้าของเรื่องทำความตกลงกับสำนักงบประมาณไปได้ โดยกำหนดให้ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเป็นผู้พิจารณาอนุมัติให้ใช้จ่ายงบกลาง ฯ ภายในวงเงิน 10 ล้านบาท สำหรับรายการใช้จ่ายที่เกินวงเงิน 10 ล้านบาท ให้สำนักงบประมาณพิจารณานำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน โดยหากนายกรัฐฒนตรีเห็นสมควรจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติหลักการก่อนก็ได้ โดยเฉพาะโครงการหรือแผนงานที่มีวงเงินเกินกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีที่มีบทบัญญัติของกฎหมายกำหนดให้ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
3. องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ในบังคับบัญชาของฝ่ายบริหาร เช่น สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา สำนักงานศาลยุติธรรม ฯลฯ ที่มีความจำเป็นต้องใช้งบกลาง ฯ ในวงเงินเกินกว่า 10 ล้านบาท สำหรับงานหรือโครงการ แผนงานใด ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในหลักการก่อน โดยให้สำนักงบประมาณเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 ธันวาคม 2547--จบ--
1. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการใช้เงินงบกลาง จำนวน 5 มติ คือ
1.1 มติคณะรัฐมนตรี (23 ธันวาคม 2519) เรื่อง การใช้จ่ายเงินงบกลาง
1.2 มติคณะรัฐมนตรี (22 พฤศจิกายน 2520) เรื่อง การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
1.3 มติคณะรัฐมนตรี (1 มิถุนายน 2522) เรื่อง การให้ความเห็นชอบรายจ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
1.4 มติคณะรัฐมนตรี (26 มิถุนายน 2533) เรื่อง การให้ความเห็นชอบรายจ่ายเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
1.5 มติคณะรัฐมนตรี (26 กันยายน 2538) เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
2. กำหนดแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการขอใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อถือปฏิบัติดังนี้
2.1 ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เสนอขอใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามความจำเป็นและเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการเท่านั้น โดยขอให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจพิจารณาเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี สำหรับงาน โครงการหรือแผนงาน โดยเตรียมการล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ หรือเสนอขอแปรญัตติงบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่ไม่สามารถเสนอขอตั้งงบประมาณประจำปีได้ทันเวลา
2.2 ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจใดมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง ฯ สำหรับนำไปใช้ในงาน หรือโครงการ หรือแผนงานใด เนื่องจากไม่อาจเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีหรือแปรญัตติงบประมาณเพิ่มเติมมาดำเนินการได้ ก็ให้ส่วนราชการเจ้าของเรื่องทำความตกลงกับสำนักงบประมาณไปได้ โดยกำหนดให้ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเป็นผู้พิจารณาอนุมัติให้ใช้จ่ายงบกลาง ฯ ภายในวงเงิน 10 ล้านบาท สำหรับรายการใช้จ่ายที่เกินวงเงิน 10 ล้านบาท ให้สำนักงบประมาณพิจารณานำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน โดยหากนายกรัฐฒนตรีเห็นสมควรจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติหลักการก่อนก็ได้ โดยเฉพาะโครงการหรือแผนงานที่มีวงเงินเกินกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีที่มีบทบัญญัติของกฎหมายกำหนดให้ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
3. องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ในบังคับบัญชาของฝ่ายบริหาร เช่น สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา สำนักงานศาลยุติธรรม ฯลฯ ที่มีความจำเป็นต้องใช้งบกลาง ฯ ในวงเงินเกินกว่า 10 ล้านบาท สำหรับงานหรือโครงการ แผนงานใด ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในหลักการก่อน โดยให้สำนักงบประมาณเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 ธันวาคม 2547--จบ--