ทำเนียบรัฐบาล--23 ธ.ค.--บิสนิวส์
คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจให้ความเห็นชอบวิธีปฏิบัติ แนวทางดำเนินงานเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1. วิธีปฏิบัติ และแนวทางดำเนินงานเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ ดังนี้
1.1 กำหนดการประชุม วันจันทร์ของสัปดาห์ เวลา 09.30 น. หากไม่มีเรื่องเข้าวาระการประชุม ให้งดประชุม
1.2 การจัดระเบียบวาระการประชุม/การจัดเตรียมข้อมูล
1) เรื่องที่จะนำมาจัดเป็นระเบียบวาระการประชุม มีดังนี้
- นายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณา
- คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณา
- รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านเศรษฐกิจเสนอขอให้ที่ประชุมพิจารณา โดยส่งเรื่องถึงเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาศึกษาวิเคราะห์เรื่องและจัดทำบันทึกเสนอนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เพื่อพิจารณาสั่งการให้เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณา
2) การจัดระเบียบวาระการประชุม เลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจจะนำเสนอรองนายกรัฐมนตรี (ประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ) พิจารณา และนัดหมายการประชุมเป็นคราว ๆ ไป
3) วิธีการจัดเตรียมข้อมูลสำหรับเรื่องที่ฝ่ายเลขานุการฯ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิจารณาเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการ หรือวิเคราะห์แผนงาน/โครงการที่สำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีกระทรวง ทบวง ใดเป็นเจ้าของเรื่องโดยตรง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ฝ่ายเลขานุการฯ) จะเป็นแกนกลางเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาปรึกษาหารือเพื่อจัดทำเอกสาร หรือข้อวิเคราะห์เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณา
1.3 มติคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาจัดทำมติและบันทึกเสนอนายกรัฐมนตรี อนุมัติและสั่งการ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ หรือพิจารณาโดยรองนายกรัฐมนตรี (ประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ) เป็นผู้ลงนามบันทึก และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้แจ้งยืนยันมติคณะรัฐมนตรีให้กระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป รวมทั้งการแจ้งมติของคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและปฏิบัติ
1.4 ผู้เข้าร่วมประชุม นอกจากคณะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการแล้ว เห็นควรให้บุคคลดังต่อไปนี้เข้าร่วมประชุม
- บุคคลที่ประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจมีคำสั่งให้เข้าร่วมประชุม
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องในวาระการประชุม
- เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการฯ
1.5 การแถลงข่าวผลการประชุม มอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบแถลงข่าวกรณีใดที่เป็นเรื่องสำคัญและมีรายละเอียดเป็นจำนวนมาก ให้บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมเป็นผู้แถลงข่าวในเรื่องนั้น ๆ
2. คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจอนุมัติเป็นหลักการว่า เรื่องที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ เรื่องใดสมควรอนุมัติได้ ให้ประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ และเมื่อนายกรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อถือเป็นมติคณะรัฐมนตรี ในกรณีที่เห็นว่าเรื่องใดสมควรได้รับการพิจารณาโดยคณะรัฐมนตรี ให้คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจวิเคราะห์และเสนอข้อคิดเห็น ตลอดจนมติคณะรัฐมนตรีที่ควรจะเป็น แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 23 ธันวาคม 2539--
คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจให้ความเห็นชอบวิธีปฏิบัติ แนวทางดำเนินงานเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1. วิธีปฏิบัติ และแนวทางดำเนินงานเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ ดังนี้
1.1 กำหนดการประชุม วันจันทร์ของสัปดาห์ เวลา 09.30 น. หากไม่มีเรื่องเข้าวาระการประชุม ให้งดประชุม
1.2 การจัดระเบียบวาระการประชุม/การจัดเตรียมข้อมูล
1) เรื่องที่จะนำมาจัดเป็นระเบียบวาระการประชุม มีดังนี้
- นายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณา
- คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณา
- รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านเศรษฐกิจเสนอขอให้ที่ประชุมพิจารณา โดยส่งเรื่องถึงเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาศึกษาวิเคราะห์เรื่องและจัดทำบันทึกเสนอนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เพื่อพิจารณาสั่งการให้เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณา
2) การจัดระเบียบวาระการประชุม เลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจจะนำเสนอรองนายกรัฐมนตรี (ประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ) พิจารณา และนัดหมายการประชุมเป็นคราว ๆ ไป
3) วิธีการจัดเตรียมข้อมูลสำหรับเรื่องที่ฝ่ายเลขานุการฯ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิจารณาเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการ หรือวิเคราะห์แผนงาน/โครงการที่สำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีกระทรวง ทบวง ใดเป็นเจ้าของเรื่องโดยตรง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ฝ่ายเลขานุการฯ) จะเป็นแกนกลางเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาปรึกษาหารือเพื่อจัดทำเอกสาร หรือข้อวิเคราะห์เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณา
1.3 มติคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาจัดทำมติและบันทึกเสนอนายกรัฐมนตรี อนุมัติและสั่งการ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ หรือพิจารณาโดยรองนายกรัฐมนตรี (ประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ) เป็นผู้ลงนามบันทึก และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้แจ้งยืนยันมติคณะรัฐมนตรีให้กระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป รวมทั้งการแจ้งมติของคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและปฏิบัติ
1.4 ผู้เข้าร่วมประชุม นอกจากคณะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการแล้ว เห็นควรให้บุคคลดังต่อไปนี้เข้าร่วมประชุม
- บุคคลที่ประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจมีคำสั่งให้เข้าร่วมประชุม
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องในวาระการประชุม
- เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการฯ
1.5 การแถลงข่าวผลการประชุม มอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบแถลงข่าวกรณีใดที่เป็นเรื่องสำคัญและมีรายละเอียดเป็นจำนวนมาก ให้บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมเป็นผู้แถลงข่าวในเรื่องนั้น ๆ
2. คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจอนุมัติเป็นหลักการว่า เรื่องที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ เรื่องใดสมควรอนุมัติได้ ให้ประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ และเมื่อนายกรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อถือเป็นมติคณะรัฐมนตรี ในกรณีที่เห็นว่าเรื่องใดสมควรได้รับการพิจารณาโดยคณะรัฐมนตรี ให้คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจวิเคราะห์และเสนอข้อคิดเห็น ตลอดจนมติคณะรัฐมนตรีที่ควรจะเป็น แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 23 ธันวาคม 2539--