ทำเนียบรัฐบาล--25 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
เนื่องจากประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2502 ซึ่งเป็นกฎหมายว่าด้วยการแก้ไขการลุกล้ำที่สาธารณะได้กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพียงผู้เดียวเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ช่วยเหลือหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรักษาที่สาธารณะได้โดยทั่วถึง สมควรกำหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่นซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับที่สาธารณะเป็นผู้มีหน้าที่หลักในการแก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะด้วย นอกจากนั้น สมควรปรับปรุงมาตรการต่าง ๆ ในการแก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะให้เกิดประสิทธิภาพ และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือดูแลที่สาธารณะเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวม ซึ่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการแก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2502
2. บทนิยามคำว่า “ที่สาธารณะ” หมายถึง สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน และให้หมายความรวมถึงถนนและทางน้ำ
3. ให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่แก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะ
4. เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายสิ่งรุกล้ำที่สาธารณะหากไม่ปฏิบัติ เจ้าพนักงานมีอำนาจเข้าไปดำเนินการเองหรือยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งจับกุมและกักขังผู้ไม่ปฏิบัติตามได้
5. ความรับผิดชอบของผู้รุกล้ำที่สาธารณะ ต้องดำเนินการเพื่อขจัดความเสียหายและทำให้กลับสู่สภาพเดิมหรือใกล้เคียงสภาพเดิม หากไม่ดำเนินการจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
6. ในกรณีจำเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจเข้าไปในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นหรือที่ดินของบุคคลใด ๆเพื่อรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายสิ่งที่รุกล้ำที่สาธารณะได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด และหากเกิดความเสียหายแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองฯ บุคคลนั้นเรียกค่าทดแทนจากเจ้าหน้าที่ได้
7. เจ้าพนักงานท้องถิ่นและผู้ร่วมดำเนินการในการดำเนินการหรือจัดให้มีการรื้อถอนตามพระราชบัญญัตินี้ไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น เว้นแต่จะกระทำโดยมีเจตนาร้ายหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
8. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลที่สาธารณะตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐนั้น มีอำนาจดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย
9. การรุกล้ำที่สาธารณะที่เป็นความผิดทางอาญา ประชาชนที่พบแจ้งให้พนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานท้องถิ่นฯ ดำเนินการได้
10. สมาคมที่มีวัตถุประสงค์ในการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับรองให้สมาคมมีสิทธิและอำนาจที่จะดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ได้
11. บทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนคำสั่งพนักงานท้องถิ่น และผู้ไม่อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอฯ
อนึ่ง นิยามที่ว่า "เจ้าพนักงานท้องถิ่น" ให้หมายรวมถึงประธานกรรมการองค์การส่วนตำบลในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล และแก้ไขคำว่า "ราชการส่วนท้องถิ่น" ให้หมายรวมถึงองค์การบริหารส่วนตำบลด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 25 มีนาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
เนื่องจากประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2502 ซึ่งเป็นกฎหมายว่าด้วยการแก้ไขการลุกล้ำที่สาธารณะได้กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพียงผู้เดียวเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ช่วยเหลือหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรักษาที่สาธารณะได้โดยทั่วถึง สมควรกำหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่นซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับที่สาธารณะเป็นผู้มีหน้าที่หลักในการแก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะด้วย นอกจากนั้น สมควรปรับปรุงมาตรการต่าง ๆ ในการแก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะให้เกิดประสิทธิภาพ และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือดูแลที่สาธารณะเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวม ซึ่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการแก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2502
2. บทนิยามคำว่า “ที่สาธารณะ” หมายถึง สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน และให้หมายความรวมถึงถนนและทางน้ำ
3. ให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่แก้ไขการรุกล้ำที่สาธารณะ
4. เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายสิ่งรุกล้ำที่สาธารณะหากไม่ปฏิบัติ เจ้าพนักงานมีอำนาจเข้าไปดำเนินการเองหรือยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งจับกุมและกักขังผู้ไม่ปฏิบัติตามได้
5. ความรับผิดชอบของผู้รุกล้ำที่สาธารณะ ต้องดำเนินการเพื่อขจัดความเสียหายและทำให้กลับสู่สภาพเดิมหรือใกล้เคียงสภาพเดิม หากไม่ดำเนินการจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
6. ในกรณีจำเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจเข้าไปในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นหรือที่ดินของบุคคลใด ๆเพื่อรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายสิ่งที่รุกล้ำที่สาธารณะได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด และหากเกิดความเสียหายแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองฯ บุคคลนั้นเรียกค่าทดแทนจากเจ้าหน้าที่ได้
7. เจ้าพนักงานท้องถิ่นและผู้ร่วมดำเนินการในการดำเนินการหรือจัดให้มีการรื้อถอนตามพระราชบัญญัตินี้ไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น เว้นแต่จะกระทำโดยมีเจตนาร้ายหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
8. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลที่สาธารณะตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐนั้น มีอำนาจดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย
9. การรุกล้ำที่สาธารณะที่เป็นความผิดทางอาญา ประชาชนที่พบแจ้งให้พนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานท้องถิ่นฯ ดำเนินการได้
10. สมาคมที่มีวัตถุประสงค์ในการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับรองให้สมาคมมีสิทธิและอำนาจที่จะดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ได้
11. บทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนคำสั่งพนักงานท้องถิ่น และผู้ไม่อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอฯ
อนึ่ง นิยามที่ว่า "เจ้าพนักงานท้องถิ่น" ให้หมายรวมถึงประธานกรรมการองค์การส่วนตำบลในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล และแก้ไขคำว่า "ราชการส่วนท้องถิ่น" ให้หมายรวมถึงองค์การบริหารส่วนตำบลด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 25 มีนาคม 2540--