ทำเนียบรัฐบาล--3 ส.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการจัดตั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ฉบับที่ .. พ.ศ. … (จัดตั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน)
2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักนายก-รัฐมนตรี พ.ศ. …. ซึ่งแบ่งส่วนราชการภายในเป็นระดับกอง จำนวน 5 กอง ได้แก่ กองนโยบายและมาตรการ กองตรวจสอบและวิเคราะห์ กองบริหารจัดการทรัพย์สิน ศูนย์สารสนทเศและติดตามประเมินผล และกองกลาง โดยมีอัตรากำลัง รวม 64 ตำแหน่ง ซึ่งมีตำแหน่งผู้บริหาระดับสูง จำนวน 3 ตำแหน่ง ได้แก่ เลขาธิการ (นักบริหาร 11) รองเลขาธิการ (นักบริหาร 10) และ ผู้ช่วยเลขาธิการ (นักบริหาร 9)
ทั้งนี้ ให้นำร่างพระราชบัญญัติฯ ตามข้อ 1. ส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป และดำเนินการร่างพระราชกฤษฎีกา ตามข้อ 2. เมื่อร่างพระราชบัญญัติข้างต้นประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
3. รับทราบความเห็นของ สำนักงาน ก.พ. ดังต่อไปนี้
3.1 การกำหนดตำแหน่งเลขาธิการ และรองเลขาธิการ นั้น เห็นว่า แม้ว่า สำนักงาน ป.ป.ง. เป็นหน่วยงานระดับกรมที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี แต่โดยที่เป็นระยะเริ่มต้น อีกทั้งประเทศยังอยู่ในช่วงภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ จึงเห็นควรกำหนดตำแหน่งเลขาธิการเป็นระดับ 10 ไปก่อน ต่อไปเมื่อมีภารกิจเพิ่มขึ้น ก็อาจปรับเป็นระดับสูงในโอกาสต่อไปได้ ส่วนตำแหน่งรองเลขาธิการนั้น เห็นควรกำหนดเป็นระดับ 9 จำนวน 2 ตำแหน่ง ซึ่งเรื่องนี้สำนักงาน ก.พ.จะพิจารณาต่อไป
3.2 การจัดสรรอัตรากำลัง จำนวน 64 ตำแหน่ง นั้น เพื่อมิให้ขัดกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2541 ที่ไม่ให้เพิ่มอัตรากำลังใหม่ จึงเห็นควรให้เกลี่ยอัตรากำลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป.ป.ส.เป็นต้น และหากไม่เพียงพอ เห็นควรขอให้ คปร.พิจารณาจัดสรรให้จากอัตราที่ยุบเลิกจากผลการเกษียณอายุ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 3 สิงหาคม 2542--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการจัดตั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ฉบับที่ .. พ.ศ. … (จัดตั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน)
2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักนายก-รัฐมนตรี พ.ศ. …. ซึ่งแบ่งส่วนราชการภายในเป็นระดับกอง จำนวน 5 กอง ได้แก่ กองนโยบายและมาตรการ กองตรวจสอบและวิเคราะห์ กองบริหารจัดการทรัพย์สิน ศูนย์สารสนทเศและติดตามประเมินผล และกองกลาง โดยมีอัตรากำลัง รวม 64 ตำแหน่ง ซึ่งมีตำแหน่งผู้บริหาระดับสูง จำนวน 3 ตำแหน่ง ได้แก่ เลขาธิการ (นักบริหาร 11) รองเลขาธิการ (นักบริหาร 10) และ ผู้ช่วยเลขาธิการ (นักบริหาร 9)
ทั้งนี้ ให้นำร่างพระราชบัญญัติฯ ตามข้อ 1. ส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป และดำเนินการร่างพระราชกฤษฎีกา ตามข้อ 2. เมื่อร่างพระราชบัญญัติข้างต้นประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
3. รับทราบความเห็นของ สำนักงาน ก.พ. ดังต่อไปนี้
3.1 การกำหนดตำแหน่งเลขาธิการ และรองเลขาธิการ นั้น เห็นว่า แม้ว่า สำนักงาน ป.ป.ง. เป็นหน่วยงานระดับกรมที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี แต่โดยที่เป็นระยะเริ่มต้น อีกทั้งประเทศยังอยู่ในช่วงภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ จึงเห็นควรกำหนดตำแหน่งเลขาธิการเป็นระดับ 10 ไปก่อน ต่อไปเมื่อมีภารกิจเพิ่มขึ้น ก็อาจปรับเป็นระดับสูงในโอกาสต่อไปได้ ส่วนตำแหน่งรองเลขาธิการนั้น เห็นควรกำหนดเป็นระดับ 9 จำนวน 2 ตำแหน่ง ซึ่งเรื่องนี้สำนักงาน ก.พ.จะพิจารณาต่อไป
3.2 การจัดสรรอัตรากำลัง จำนวน 64 ตำแหน่ง นั้น เพื่อมิให้ขัดกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2541 ที่ไม่ให้เพิ่มอัตรากำลังใหม่ จึงเห็นควรให้เกลี่ยอัตรากำลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป.ป.ส.เป็นต้น และหากไม่เพียงพอ เห็นควรขอให้ คปร.พิจารณาจัดสรรให้จากอัตราที่ยุบเลิกจากผลการเกษียณอายุ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 3 สิงหาคม 2542--