การจัดทำบันทึกความตกลงระหว่างกระทรวงศึกษาธิการไทยและฟิลิปปินส์ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนครู

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 30, 2013 16:45 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ ดังนี้

1. อนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความตกลงระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนครู (Memorandum of Agreement between the Ministry of Education of the Kingdom of Thailand and the Department of Education of the Republic of the Philippines on Exchanges of Professional Teachers) ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขบันทึกความตกลงฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ ศธ. หารือกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมายกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามในบันทึกความตกลงระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนครู

3. อนุมัติให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามในข้อ 2

สำหรับกรณีการจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) เป็นกรณีการทำความตกลงในระดับหน่วยงานของรัฐไม่ใช่ระดับรัฐหรือรัฐบาล ไม่เข้าลักษณะการทำหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2555 จึงไม่จำเป็นต้องให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) เพื่อการลงนามดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

บันทึกความตกลงระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ว่าด้วยการเปลี่ยนครู มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

1. เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการ

(1) โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายในการส่งเสริมความสามารถและสมรรถนะของบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูในสถานศึกษา ผ่านโครงการแลกเปลี่ยนครูหนึ่งภาคการศึกษา ซึ่งเริ่มต้นในปีการศึกษาปัจจุบัน และจะมีการขยายโครงการออกไปอีกหนึ่งปีการศึกษาหากประเมินผลการดำเนินงานแล้วเป็นที่น่าพอใจ

(2) โครงการแลกเปลี่ยนจะครอบคลุมถึงการแนะนำให้ครูของคู่ภาคีได้รับรู้ถึงกิจกรรมประจำวันในโรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา และโรงเรียนเทคนิคและอาชีวศึกษาอย่างต่อเนื่อง

(3) เมื่อสิ้นสุดการแลกเปลี่ยนครูทุกครั้ง ให้ครูที่เข้าร่วมโครงการประชุมร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจัดทำโครงการ/กิจกรรมเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนในโรงเรียนของแต่ละฝ่าย บนพื้นฐานของปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในหมู่เพื่อนร่วมวิชาชีพและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางการศึกษาอื่น ๆ

2. บทบาทและภาระหน้าที่ของคู่ภาคีฝ่ายจัดส่ง คู่ภาคีจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบ ดังนี้

(1) แสวงหาและคัดเลือกครูในโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษา และวิทยาลัยอาชีวศึกษา ซึ่งจะจัดส่งไปยังภาคีอีกฝ่ายหนึ่งบนพื้นฐานของความเข้าใจร่วมกันว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จะเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนเป็นครูที่กระตือรือร้นและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดปรกติของภาคีแต่ละฝ่าย

(2) ให้คู่ภาคีจัดให้มีความช่วยเหลือก่อนการเดินทาง ซึ่งครอบคลุมถึงการอำนวยความสะดวกในการดำเนินการตรวจคนเข้าเมืองและเอกสารการเดินทางของครูที่เข้าร่วมโครงการ

(3) ให้ภาคีฝ่ายจัดส่งรับผิดชอบค่าเดินทางทั้งภายในและระหว่างประเทศ รวมทั้งค่าประกันการเดินทางระหว่างสถานที่ซึ่งครูไปปฏิบัติงานจนถึงเมืองหลวง ซึ่งรวมถึงค่าเบี้ยเลี้ยงและสิทธิอื่น ๆ ระหว่างการเดินทางด้วย ฯลฯ

3. บทบาทและภาระหน้าที่ของคู่ภาคีฝ่ายรับ คู่ภาคีมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการให้การสนับสนุนครูและบุคลากรทางการศึกษา ดังนี้

(1) กำหนด คัดเลือก และ ตรวจสอบโรงเรียนและสถานที่ซึ่งครูที่เข้าร่วมโครงการจะไปปฏิบัติงาน รวมทั้งแจ้งข้อมูลดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่จัดส่งครู

(2) ให้คู่ภาคีฝ่ายรับมีหน้าที่รับผิดชอบจัดการปฐมนิเทศ บริการสนับสุน และการกำกับดูแลครูที่เข้าร่วมโครงการ

(3) ให้คู่ภาคีฝ่ายรับประสานกับผู้บริหารการศึกษาและผู้ที่มีหน้าที่กำกับดูแลการศึกษาในสถานที่และโรงเรียนต่าง ๆ ที่ครูจะไปปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าครูที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับบริการพื้นฐานที่เหมาะสม

(4) ให้คู่ภาคีฝ่ายรับจัดสรรงบประมาณสำหรับเป็นค่าตอบแทนและเบี้ยเลี้ยงในอัตราที่เหมาะสมสำหรับครูที่เข้าร่วมโครงการ โดยครอบคลุมถึง ค่าใช้จ่ายในการประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ อาทิ เหตุฉุกเฉิน การส่งกลับประเทศ และ การอพยพเคลื่อนย้ายตามสถานการณ์ที่จำเป็นบางประการ ฯลฯ

4. การระงับข้อพิพาท ข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการตีความและ/หรือการดำเนินการตามความตกลงนี้จะได้รับการระงับฉันท์มิตร ด้วยการเจรจาต่อรองและการปรึกษาหารือกันระหว่างคู่ภาคี

5. การบังคับใช้ ความตกลงฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ นับตั้งแต่วันที่ได้รับการลงนามเป็นต้นไป

6. การสิ้นสุดความตกลง

(1) ความตกลงฉบับนี้จะสิ้นสุดลงได้ เมื่อได้รับความเห็นชอบร่วมกันของคู่ภาคีเป็นลายลักษณ์อักษร

(2) บริการต่าง ๆ ของครูที่เข้าร่วมโครงการอาจยุติลงก่อนวันเสร็จสิ้นโครงการตามที่กำหนดไว้เดิม เมื่อได้รับความเห็นชอบร่วมกันของคู่ภาคีเป็นลายลักษณ์อักษร

(3) ความตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 3 ปี และจะได้รับการต่ออายุโดยอัตโนมัติ อีก 1 ปี

(4) ความตกลงฉบับนี้จะสิ้นสุดลงได้ โดยภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องเสนอหนังสือแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร 3 เดือนล่วงหน้า ผ่านช่องทางทางการทูต

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 เมษายน 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ