แท็ก
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ร่างพระราชบัญญัติ
สภาผู้แทนราษฎร
คณะรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล--26 ม.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปพิจารณาด้วย แลัวให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฯ มีดังนี้
1. แก้ไขบทนิยามคำว่า "อธิบดี" ให้หมายความว่า อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ หรืออธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ แล้วแต่กรณี
2. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของตน
3. กำหนดให้สมาชิกนิคมจะต้องใช้ที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์เฉพาะ เพื่อทำการเกษตรหรือเพื่อการพาณิชยกรรมตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี ถ้าจะทำการอย่างอื่นด้วยต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี
4. เพิ่มเติมให้ผู้ทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อนวันที่ได้รับการคัดเลือก เมื่อได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกนิคม ให้นับอายุการเป็นสมาชิกนิคมเริ่มตั้งแต่วันที่เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินนั้น และเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การพิสูจน์วันเข้าครอบครองทำประโยชน์
5. ให้ผู้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินเนื่องจากการจัดที่ดินตามพระราชบัญญัตินี้ สามารถโอนที่ดินให้แก่ทบวงการเมือง องค์การของรัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจได้
6. เพิ่มอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการให้มีอำนาจหน้าที่ส่งเสริมการพาณิชยกรรมและกิจกรรมอื่นได้ รวมทั้งมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติการตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
7. ตัดข้อกำหนดหน้าที่ของสมาชิกนิคมที่ต้องช่วยเหลือร่วมแรงทำการบำรุงที่ดินหรือปฏิบัติการงานอื่นๆ อันจำเป็นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของนิคมสร้างตนเองออก เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 51 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
8. แก้ไขชื่อตำแหน่งอธิบดีกรมสหกรณ์ที่ดินเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้ตรงกับชื่อตำแหน่งในปัจจุบัน
สำหรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับมาตรา 9 ที่ได้แก้ไขใหม่เพื่อให้สมาชิกนิคมสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมตามระเบียบที่อธิบดีกกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี ถ้าจะทำอย่างอื่นต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี ได้แก่ การส่งเสริมการพาณิชยกรรมหรือกิจกรรมอื่น เช่น การประกอบอาชีพนอกการเกษตร มีความจำเป็นเพื่อเสริมรายได้แก่สมาชิก แต่การนำที่ดินไปใช้เพื่อการอื่นนอกจากการเกษตรควรหลีกเลี่ยง การใช้พื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเหมาะสมที่จะทำการเกษตร หรือพื้นที่ที่รัฐได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตรไปแล้ว ตลอดจนการระมัดระวังการดำเนินกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดมลภาวะที่อาจกระทบต่อการประกอบกิจการด้านการเกษตร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้ที่ดิน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 มกราคม 2542--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปพิจารณาด้วย แลัวให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฯ มีดังนี้
1. แก้ไขบทนิยามคำว่า "อธิบดี" ให้หมายความว่า อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ หรืออธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ แล้วแต่กรณี
2. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของตน
3. กำหนดให้สมาชิกนิคมจะต้องใช้ที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์เฉพาะ เพื่อทำการเกษตรหรือเพื่อการพาณิชยกรรมตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี ถ้าจะทำการอย่างอื่นด้วยต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี
4. เพิ่มเติมให้ผู้ทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อนวันที่ได้รับการคัดเลือก เมื่อได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกนิคม ให้นับอายุการเป็นสมาชิกนิคมเริ่มตั้งแต่วันที่เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินนั้น และเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การพิสูจน์วันเข้าครอบครองทำประโยชน์
5. ให้ผู้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินเนื่องจากการจัดที่ดินตามพระราชบัญญัตินี้ สามารถโอนที่ดินให้แก่ทบวงการเมือง องค์การของรัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจได้
6. เพิ่มอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการให้มีอำนาจหน้าที่ส่งเสริมการพาณิชยกรรมและกิจกรรมอื่นได้ รวมทั้งมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติการตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
7. ตัดข้อกำหนดหน้าที่ของสมาชิกนิคมที่ต้องช่วยเหลือร่วมแรงทำการบำรุงที่ดินหรือปฏิบัติการงานอื่นๆ อันจำเป็นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของนิคมสร้างตนเองออก เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 51 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
8. แก้ไขชื่อตำแหน่งอธิบดีกรมสหกรณ์ที่ดินเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้ตรงกับชื่อตำแหน่งในปัจจุบัน
สำหรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับมาตรา 9 ที่ได้แก้ไขใหม่เพื่อให้สมาชิกนิคมสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมตามระเบียบที่อธิบดีกกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี ถ้าจะทำอย่างอื่นต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี ได้แก่ การส่งเสริมการพาณิชยกรรมหรือกิจกรรมอื่น เช่น การประกอบอาชีพนอกการเกษตร มีความจำเป็นเพื่อเสริมรายได้แก่สมาชิก แต่การนำที่ดินไปใช้เพื่อการอื่นนอกจากการเกษตรควรหลีกเลี่ยง การใช้พื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเหมาะสมที่จะทำการเกษตร หรือพื้นที่ที่รัฐได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตรไปแล้ว ตลอดจนการระมัดระวังการดำเนินกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดมลภาวะที่อาจกระทบต่อการประกอบกิจการด้านการเกษตร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้ที่ดิน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 มกราคม 2542--