รายงานผลการประชุมเกี่ยวกับผลกระทบของค่าเงินบาทต่อเศรษฐกิจไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 15, 2013 10:43 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมเกี่ยวกับผลกระทบของค่าเงินบาทต่อเศรษฐกิจไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้

ด้วยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการนโยบายการเงิน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันหารือเกี่ยวกับผลกระทบของค่าเงินบาทต่อเศรษฐกิจไทย เมื่อ วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม 2556 เวลา 10.00 น. ณ ห้อง 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล

การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันในสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และเพื่อหารือถึงการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสามารถในการแข่งขันและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศ โดยที่ประชุมได้ปรึกษาหารือถึงผลกระทบของค่าเงินบาทที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้งแนวทางการลดผลกระทบที่มีต่อภาคการส่งออก และมีความเห็นร่วมกันว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าเกินไป โดยแข็งค่ากว่าเงินของคู่แข่งในภูมิภาคนี้และขาดเสถียรภาพจะมีผลเสียต่อการส่งออก การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้น การทำงานร่วมกันของหน่วยงานทั้งหลายของภาครัฐและภาคเอกชนที่จะทำให้ค่าเงินมีค่าที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับคู่แข่งและประเทศคู่ค้าอย่างมีเสถียรภาพท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกก็จะช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศและชวยประคับประคองอัตราการขยายตัวของการส่งออกได้ ทั้งนี้ ภาคเอกชนได้ขอให้ภาครัฐพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาการชะลอตัวของการส่งออกทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวในประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. ควรพิจารณาผลักดันให้ใช้เงินบาทเป็นเงินสกุลหลักสำหรับการค้าขายในภูมิภาคนี้

2. เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่มีฝีมือในระดับอาชีวะ ภาครัฐจึงควรลดอุปสรรคในการเคลื่อนย้ายแรงงานในภูมิภาคนี้ และสนับสนุนให้มีผู้เรียนสายอาชีพเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งควรมีการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านพลังงาน เพื่อรองรับภาคการผลิต

3. เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตในประเทศหันไปใช้วัตถุดิบจากภายนอกประเทศมากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ดังนั้น จึงขอให้พิจารณามาตรการเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้วัตถุดิบในประเทศเพิ่มขึ้น

4. ขอให้พิจารณายกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ขายสินค้าให้กับผู้ส่งออกและเมื่อได้รับเงินตราต่างประเทศแล้วขอให้สามารถใช้เงินตราต่างประเทศนั้น เพื่อชำระค่าสินค้าภายในประเทศโดยไม่ต้องแลกเป็นเงินบาท

5. ขอให้พิจารณาจัดหาสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาสินค้าในด้านต่าง ๆ

6. ขอให้พิจารณาลดหย่อนภาษีสำหรับการนำอัญมณีและเครื่องประดับที่เข้ามาแสดงและซื้อขายในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศ

7. ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดทำข้อมูลเผยแพร่เกี่ยวกับการเปรียบเทียบค่าเงินบาทกับเงินสกุลอื่น ๆ นอกจากดอลล่าร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบเทียบกับค่าเงินเยน

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าควรจัดให้มีการประชุมในลักษณะนี้ขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง โดยอาจเปลี่ยนหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมในครั้งต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 พฤษภาคม 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ