แห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐวานูอาตู
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอดังนี้
1. เห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐวานูอาตู
2. อนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
3. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
ทั้งนี้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกระทรวงการต่างประเทศ รายการเงินอุดหนุนการให้ความช่วยเหลือและความร่วมมือทางด้านวิชาการและเศรษฐกิจต่างประเทศตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สาระสำคัญของเรื่อง
กต. รายงานว่า
1. รัฐบาลไทยได้ให้ความร่วมมือทางวิชาการแก่สาธารณรัฐวานูอาตูมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ในรูปแบบการให้ทุนการศึกษา ทุนฝึกอบรม และการศึกษาดูงาน โดยประเมินว่า เป็นประเทศที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจและการค้าเป็นลำดับที่สองของกลุ่มประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ อีกทั้งมีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรทางธรรมชาติ
2. บันทึกความเข้าใจฯ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นการวางกรอบการดำเนินงานความร่วมมือที่ไทยจะให้ความช่วยเหลือทางวิชาการเพื่อการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ของวานูอาตู โดยขอบเขตของความร่วมมือไม่จำกัดอยู่เฉพาะสาขาที่จะดำเนินกิจกรรมร่วมกัน 5 สาขา ได้แก่ การเกษตร การศึกษา สาธารณสุข การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการค้าและการลงทุน ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
2.1 การดำเนินงาน อยู่บนพื้นฐานของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ คู่ภาคีอาจดำเนินการจัดทำข้อตกลงและบริหารจัดการโครงการความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาในแต่ละโครงการ การบริหารจัดการจะมีการกำหนดหน่วยงานบริหารงานและประสานงานและปัจจัยที่จำเป็นเพื่อที่จะดำเนินโครงการแต่ละโครงการ คู่ภาคีจะร่วมกันหรือต่างฝ่ายต่างช่วยดำเนินโครงการที่ได้รับอนุมัติแล้วโดยคู่ภาคี ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย กฎระเบียบ และกระบวนการที่กำหนดไว้แล้วภายในแต่ละประเทศ
2.2 การประชุม การประชุมระหว่างผู้แทนจากคู่ภาคีจะมีขึ้นเพื่อตกลงกันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการความร่วมมือทางวิชาการ เช่น การประเมินและการกำหนดสาขาที่มีลำดับความสำคัญร่วมกันและที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินงานความร่วมมือทางวิชาการ การกำหนดกลไกและขั้นตอนกระบวนการที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน การประเมินและอนุมัติแผนการทำงาน การพิจารณารายละเอียด อนุมัติ และดำเนินตามแผนงาน โครงการและกิจกรรม และการประเมินผลที่ได้รับจากโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วภายใต้ขอบข่ายของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้
ทั้งนี้ คู่ภาคีจะร่วมกันกำหนดสถานที่และวันที่ของการประชุมผ่านช่องทางทางการทูต
2.3 การให้ความอนุเคราะห์ต่อบุคลากร ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ที่จำเป็นแก่บุคลากรที่ภาคีอีกฝ่ายจัดส่งไปปฏิบัติงาน ในเรื่องที่พัก ยานพาหนะ และการเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการเพื่อปฏิบัติภารกิจ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ตามแต่จะกำหนดไว้ และเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของคู่ภาคี
2.4 การยุติข้อโต้แย้ง ข้อโต้แย้งใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการตีความหรือการปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะต้องหาข้อยุติฉันมิตร โดยการเจรจาโดยตรงหรือการปรึกษาหารือระหว่างคู่ภาคีผ่านช่องทางทางการทูต
3. กรณีที่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือตามข้อตกลงดังกล่าว ในส่วนของรัฐบาลไทยจะใช้จ่ายจากงบประมาณประจำปีหมวดเงินอุดหนุนงานให้ความร่วมมือทางวิชาการและเศรษฐกิจแก่ต่างประเทศของสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 พฤษภาคม 2556--จบ--