(ASEAN +3 Macroeconomic Research Office : AMRO) เป็นองค์การระหว่างประเทศ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกรอบการเจรจาเพื่อการยกระดับสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน + 3 (ASEAN + 3 Macroeconomic Research Office : AMRO) เป็นองค์การระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และเสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป
สาระสำคัญของร่างกรอบการเจรจาฯ มีดังนี้
1. การจัดตั้งองค์กร
ยกระดับ AMRO เป็นองค์การระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของ AMRO ให้มีความเป็นอิสระในการประเมินภาวะเศรษฐกิจและการเงินของประเทศสมาชิกอาเซียน +3 รายประเทศทั้งและของภูมิภาค
2. โครงสร้างการบริหารจัดการ
การบริหารจัดการ AMRO อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่อาวุโส กค. และธนาคารอาเซียน+3
3. การให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกัน (Privileges and Immunities : P&I)การให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกัน AMRO และบุคลากรของ AMRO ควรเป็นไปตามหลักความจำเป็นแก่การปฏิบัติหน้าที่ (Functional Necessity) ซึ่งจะต้องพิจารณาโครงสร้างวัตถุประสงค์และภารกิจของ AMRO เป็นสำคัญ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และภารกิจของ AMRO และพิจารณาเปรียบเทียบกับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ให้กับองค์การระหว่างประเทศอื่น ทั้งนี้ ขอบเขตของเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้น ไม่ควรจะให้มากกว่าองค์การระหว่างประเทศอื่นที่มีโครงสร้างและภารกิจที่คล้ายกัน เช่น ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) โดยคำนึงถึงข้อจำกัดของกฎหมายภายในของแต่ประเทศสมาชิกเป็นสำคัญ
4. การระงับข้อพิพาท
กรณีที่มีข้อพิพาทระหว่างประเทศสมาชิกกับ AMRO ให้สามารถใช้กลไกระงับข้อพิพาทในทางสากลได้ อาทิ วิธีอนุญาโตตุลาการหรือการจัดตั้งองค์คณะไต่สวน (Tribunal) ทั้งนี้ กลไกดังกล่าวต้องมีความเป็นกลาง มีขั้นตอนที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรมแก่ประเทศสมาชิกทุกประเทศ
5. เรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ให้เจรจาเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและประเด็นดังกล่าวต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 พฤษภาคม 2556--จบ--