1. รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของฝ่ายไทยด้านการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างไทย — กัมพูชา
2. เห็นชอบการแต่งตั้งองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะทำงานร่วมด้านการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างไทย — กัมพูชา ของฝ่ายไทยตามที่ที่ประชุมเตรียมการฝ่ายไทยเสนอ ซึ่งประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานคณะทำงานและมีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ในคณะทำงานร่วมฯ ฝ่ายไทยอีก 16 คน โดยมี อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กต. เป็นคณะทำงานและเลขานุการ
ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นคณะกรรมการดังกล่าวเพิ่มเติม และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการประสานกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันไปพิจารณาดำเนินการด้วย โดยมีอำนาจหน้าที่ รวม 8 ประการ ดังนี้
1) เสนอแนะนโยบายและแนวทางในการดำเนินความร่วมมือด้านการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่นอกเหนือจากเรื่องการกำหนดเส้นเขตแดนระหว่างกัน
2) กำหนดโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างไทยกับกัมพูชาตามลำดับความสำคัญ เพื่อนำไปหารือร่วมกับฝ่ายกัมพูชาต่อไป
3) ประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินความร่วมมือด้านการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อให้การดำเนินความร่วมมือดังกล่าวเป็นไปอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ
4) แต่งตั้งคณะทำงานกลุ่มย่อยด้านต่างๆ เพื่อพิจารณาดำเนินงานเฉพาะด้านตามแต่คณะทำงานร่วมฯ ฝ่ายไทยจะมอบหมาย โดยอาจเชิญหน่วยงานราชการอื่น ๆ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นประกอบการพิจารณาได้
5) ดำเนินโครงการตามแนวทางการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมที่คณะทำงานร่วม ฯ ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้เห็นพ้องร่วมกัน
6) ติดตามผลและประเมินความคืบหน้าของการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบเป็นระยะ ๆ
7) แต่งตั้ง แก้ไข เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะทำงานตามความเหมาะสม
8) แต่งตั้งที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม
สาระสำคัญของแนวทางการดำเนินความร่วมมือฯ มีดังนี้
1. การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนไทย — กัมพูชา เห็นสมควรให้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 2 พื้นที่ ได้แก่ 1) บริเวณอรัญประเทศ (จังหวัดสระแก้ว) — ปอยเปต (จังหวัดบันเตียเมียนเจย) และ 2) จังหวัดตราด — จังหวัดเกาะกง โดยในเบื้องต้นอาจพิจารณาจัดตั้งในรูปแบบของนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตประกอบการอุตสาหกรรม
2. การพัฒนาเครือข่ายคมนาคม เห็นพ้องให้พัฒนาเส้นทางคมนาคม 3 ประเภท ได้แก่ ถนน (ทางหลวงหมายเลข 5 หมายเลข 6 และหมายเลข 48) รถไฟ (ระหว่างอรัญประเทศ - คลองลึก-ปอยเปต-ศรีโสภณ และพัฒนาสะพานรถไฟข้ามแดนระหว่างคลองลึก —ปอยเปต) และจุดผ่านแดน (บ้านหนองเอี่ยน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว — สตึงบท จังหวัดบันเตียเมียนเจย)
3. การพัฒนาสาธารณูปโภคและความร่วมมือด้านพลังงาน เห็นพ้องให้ต่อยอดโครงการความร่วมมือด้านพลังงานกับกัมพูชา 3 โครงการ ได้แก่ โครงการขายไฟฟ้าเพิ่มให้แก่กัมพูชา โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำสตึงเมนัม และโครงการโรงผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินที่จังหวัดเกาะกง
4. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่ประชุมเห็นพ้องในการดำเนินโครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 5 แนวทาง ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านสาธารณสุข การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานกัมพูชา การส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาไทยในมหาวิทยาลัยชายแดนกัมพูชา โครงการศูนย์แรกรับเหยื่อการค้ามนุษย์และกลุ่มเสี่ยงที่จังหวัดบันเตียเมียนเจย และการสานต่อโครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบนถนนเชื่อมโยงไทย — กัมพูชา
5. การสร้างแรงงานและรายได้ให้แก่ประชาชนกัมพูชาที่ประชุมเห็นชอบแผนการดำเนินงานสร้างงานและรายได้ให้แก่กัมพูชา 5 ด้าน ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านปัจจัยการผลิตสำหรับการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร การกำหนดนโยบายการค้าและการลงทุน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสาขาการผลิตที่เกี่ยวข้อง การส่งเสริมอุตสาหกรรมจากทรัพยากรธรรมชาติ และการจัดบูรณาการการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ กต. จะประสานกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดวันประชุมคณะทำงานร่วมฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2556 โดยจะจัดให้มีการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสก่อน และตามด้วยการประชุมระดับรัฐมนตรีระหว่างสองประเทศต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 พฤษภาคม 2556--จบ--