ร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการตรวจสอบกักกันโรคและสุขอนามัยสำหรับการส่งออกรังนกจากไทยไปจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 11, 2013 14:58 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบต่อร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการตรวจสอบกักกันโรคและสุขอนามัยสำหรับการนำผลิตภัณฑ์รังนกจากไทยไปจีน

2. อนุมัติในหลักการเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ลงนามในร่างพิธีสารว่า ด้วยข้อกำหนดการตรวจสอบกักกันโรคและสุขอนามัยสำหรับการนำผลิตภัณฑ์รังนกจากไทยไปจีน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ หากมีการปรับปรุงแก้ไขร่างพิธีสารฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้นๆ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ

3. อนุมัติให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการลงนามร่างพิธีสารฉบับนี้

สาระสำคัญของเรื่อง

กษ. รายงานว่า

1. เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2547 กษ. และกระทรวงควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรค (AQSIQ) สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกันว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เพื่อขยายความร่วมมือเกี่ยวกับงานด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการบังคับใช้มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชขององค์การการค้าโลก (WTO / SPS) โดยมีสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นหน่วยประสานงานหลักของประเทศไทย

2. เมื่อต้นปี 2555 AQSIQ ได้ออกประกาศห้ามนำเข้ารังนกจากประเทศต่างๆ เป็นการชั่วคราว เนื่องจากตรวจพบสารไนไตรท์เกินมาตรฐานในรังนกนำเข้าจากมาเลเซีย ส่งผลให้รังนกจากทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยไม่สามารถส่งออกไปจีนได้ ทำให้ราคารังนกไทยตกต่ำลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมูลค่าการค้ารังนกไทยส่งออกไปจีนประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปีหรืออาจสูงถึง 50,000 ล้านบาท ในบางปีที่มีราคาสูง

3. เมื่อเดือนเมษายน 2555 AQSIQ ได้เสนอร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการตรวจสอบกักกันโรคและสุขอนามัยสำหรับผลิตภัณฑ์รังนกที่ส่งออกจากไทยไปจีนให้ฝ่ายไทยพิจารณา กษ. จึงได้หารือร่วมกับ AQSIQ อย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งหาข้อสรุปร่างพิธีสารฯ โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปร่างพิธีสารฯ ร่วมกัน และให้แต่ละฝ่ายดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแต่ละประเทศก่อนที่จะมีการลงนามในร่างพิธีสารฯ ร่วมกันต่อไป

4. การจัดทำร่างพิธีสารฯ ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในระบบการควบคุมตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของรังนกและผลิตภัณฑ์ของไทย และเร่งเปิดตลาดรังนกของไทยส่งออกไปยังจีนหลังจากที่ AQSIQ ออกมาตรการห้ามนำเข้าชั่วคราว

5. ร่างพิธีสารฯ นี้อยู่ภายใต้บันทึกความเข้าใจร่วมกันว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ระหว่าง กษ. แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ลงนามเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2547 มีสาระสำคัญหลัก ดังนี้

5.1 กำหนดให้กรมปศุสัตว์ กษ. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักของไทยในการตรวจสอบและกักกันโรค การขึ้นทะเบียนแหล่งผลิต แหล่งรวบรวม และผู้ส่งออกรังนก การออกใบรับรองสุขภาพสัตว์ การรับรองสำหรับผลิตภัณฑ์ รังนกเพื่อการส่งออกจากไทยไปจีน การจัดส่งข้อมูลกฎหมาย กฎระเบียบ มาตรฐาน และการจัดระบบมาตรการในการควบคุมป้องกันโรคและสุขอนามัยของแหล่งที่มารังนก

5.2 กำหนดให้มีการจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งระบุข้อมูลแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ รังนก ผู้ผลิต และอื่น ๆ ลงบนบรรจุภัณฑ์เพื่อสืบสวนสาเหตุกรณีผลิตภัณฑ์มีปัญหาและสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีโดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้ส่งออกที่ผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน

5.3 ใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าและใบรับรองสุขภาพสัตว์ต้องแนบไปกับผลิตภัณฑ์รังนก เพื่อการส่งออกไปจีน

5.4 ฝ่ายจีนจะตรวจสอบที่ด่านนำเข้า หากพบการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องตามพิธีสารฯ สามารถกำหนดมาตรการ เช่น การกักกัน การส่งคืน หรือการทำลายผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มิถุนายน 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ