คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่แก้ไขเพิ่มเติมจากร่างพระราชบัญญัติที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. ปรับปรุงบทกำหนดโทษกรณีความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และกรณีผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำ ไม่ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือไม่ส่งบัญชีเอกสารหรือหลักฐานตามมาตรา 25 (2) หรือขัดขวางหรือไม่ให้ความสะดวกตามมาตรา 25 (3)
2. ปรับปรุงอำนาจในการอนุมัติการจับและการแจ้งข้อหาผู้กระทำความผิดตามมาตรา 6 หรือมาตรา 8 ต้องได้รับอนุมัติจากเลขาธิการก่อนหรือได้รับการพิจารณาอนุมัติจากพนักงานอัยการตำแหน่งตั้งแต่อัยการจังหวัดหรือเทียบเท่าขึ้นไป
3. ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและพนักงานเจ้าหน้าที่
4. กำหนดหลักเกณฑ์ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดก่อนหรือหลังที่คณะกรรมการหรือเลขาธิการมีคำสั่งตรวจสอบทรัพย์สินตามมาตรา 19 หรือก่อนที่คณะกรรมการหรือเลขาธิการมีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามมาตรา 22
5. ปรับปรุงอำนาจของข้าราชการตำรวจตำแหน่งตั้งแต่สารวัตรหรือเทียบเท่าขึ้นไปและเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นผู้ค้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องพบสิ่งของที่มีพยานหลักฐานตามสมควรว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่าได้สิ่งของรายใดอาจมีการยักย้าย ซุกซ่อน มีอำจาจยึดสิ่งของดังกล่าวไว้เพื่อการตรวจสอบทรัพย์สิน ทั้งนี้ ในกรณีจำเป็นเร่งด่วน
6. ปรับปรุงระยะเวลาในการยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตกเป็นของกองทุนและระยะเวลาในการยื่นคำร้องเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อไต่สวนทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนีหรือถึงแก่ความตาย และให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของกองทุน
7. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตกเป็นของกองทุนและกำหนดให้การยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาหรือจำเลยรายนั้น รวมทั้งทรัพย์สินของผู้อื่นที่ได้ยึดหรืออายัดไว้เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือจำเลยรายนั้นสิ้นสุดลง กรณีปรากฏตามคำพิพากษาอันถึงที่สุดในคดีนั้นว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด
8. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้นำทรัพย์สินตามมาตรา 30 ออกขายทอดตลาดหรือไปใช้เพื่อประโยชน์ของทางราชการไปพลางก่อน ก่อนที่ทรัพย์สินตามมาตรา 30 ตกเป็นของกองทุน และการประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าเสียหายหรือค่าเสื่อมสภาพของทรัพย์สิน
9. ให้ทรัพย์สินของกองทุนรวมถึงทรัพย์สินที่ตกเป็นของกองทุนตามมาตรา 29 และมาตรา 30/2
10. แก้ไขผู้รับรายงานงบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินของกองทุนจากคณะรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 มิถุนายน 2556--จบ--