1. เห็นชอบต่อการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงฯ ที่ 2101 (ค.ศ. 2013) เกี่ยวกับโกตดิวัวร์ เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีที่ไทยมีต่อสหประชาชาติ ทั้งนี้ โดยสอดคล้องและเป็นไปตามกฎหมายภายในของไทย
2. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติและแจ้งผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ กต. ทราบ เพื่อประโยชน์ในการรายงานต่อสหประชาชาติต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
กต. รายงานว่า
1. เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2556 คณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้รับรองข้อมติที่ 2101 (ค.ศ. 2013) ขยายเวลาการดำเนินมาตรการเกี่ยวกับโกตดิวัวร์ออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 เพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
2. สาระสำคัญของข้อมติ ที่ 2101 (ค.ศ. 2013) สรุปได้ดังนี้
2.1 ข้อ 1 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 ให้รัฐสมาชิกดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันการจัดหา การขาย หรือการถ่ายโอน ทั้งทางตรงและทางอ้อมซึ่งอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปยังโกตดิวัวร์ จากดินแดนหรือโดยคนชาติของตน หรือโดยใช้เรือหรืออากาศยานที่ประดับธงของรัฐนั้น แม้ว่าอาวุธและยุทโธปกรณ์เหล่านั้นจะมีที่มาจากรัฐนั้นหรือไม่ก็ตาม
2.2 ข้อ 3 ให้มาตรการตามข้อ 1 ของข้อมติ ไม่มีผลบังคับใช้ต่อ
(ก) การดำเนินการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนหรือใช้ในปฏิบัติการของสหประชาชาติในโกตดิวัวร์หรือ United Nations Operation in Cote d’lvoire (UNOCI) และกองกำลังฝรั่งเศสซึ่งให้การสนับสนุน UNOCI
(ข) การจัดหาอุปกรณ์ทางทหารที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตและใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านมนุษยธรรมหรือการป้องกันตนเองโดยเฉพาะ ซึ่งให้แจ้งเรื่องดังกล่าวล่วงหน้าต่อคณะกรรมการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อติดตามการดำเนินการตามมาตรการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (คณะกรรมการฯ)
(ค) การจัดหาเครื่องแต่งกายที่ใช้ในการป้องกัน รวมถึงเสื้อเกราะและหมวกสนาม ที่ส่งออกเป็นการชั่วคราวไปยังโกตดิวัวร์ โดยบุคลากรของสหประชาชาติ ผู้แทนสื่อมวลชน ผู้ปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมและด้านการพัฒนา และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้เป็นการส่วนตัว
(ง) การส่งออกเป็นการชั่วคราวเพื่อใช้สำหรับกองกำลังของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลืออพยพคนชาติของตนหรือบุคคลที่รัฐนั้นมีความรับผิดชอบทางกงสุลที่ต้องให้การดูแลในโกตดิวัวร์ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ให้แจ้งเรื่องดังกล่าวล่วงหน้าต่อคณะกรรมการฯ
(จ) การจัดหาอุปกรณ์เพื่อการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตและมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้กองกำลังความมั่นคงของโกตดิวัวร์สามารถใช้กำลังได้อย่างเหมาะสมและตามสัดส่วนเท่านั้น ในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ให้แจ้งเรื่องดังกล่าวล่วงหน้าต่อคณะกรรมการฯ
(ฉ) การจัดหาอาวุธและอุปกรณ์ร้ายแรงที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ให้แก่กองกำลังความมั่นคงของโกตดิวัวร์ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนหรือใช้ในกระบวนการปฏิรูปด้านความมั่นคงของโกตดิวัวร์ ซึ่งได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจากคณะกรรมการฯ
2.3 ข้อ 4 ย้ำถึงความสำคัญของการแจ้งและการขออนุญาตล่วงหน้าต่อคณะกรรมการฯ ซึ่งควรมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงวัตถุประสงค์ของการใช้และผู้ใช้ปลายทาง รายละเอียดทางเทคนิคและจำนวนของอุปกรณ์ที่จะจัดส่งไป ผู้จัดหา วันที่จะจัดส่ง รวมทั้งวิธีและกำหนดการการขนส่ง
2.4 ข้อ 6 ให้ขยายระยะเวลามาตรการห้ามการเดินทางและการอายัดทรัพย์สิน ตามข้อ 9-12 ของข้อมติ ที่ 1572 (ค.ศ. 2004) และข้อ 12 ของข้อมติ ที่ 1975 (ค.ศ. 2011) รวมทั้งมาตรการป้องกันการนำเข้าโดยรัฐใด ๆ ซึ่งเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนจากโกตดิวัวร์ ตามข้อ 6 ของข้อมติ ที่ 1643 (ค.ศ. 2005) ออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 รวมทั้ง พร้อมที่จะทบทวนมาตรการเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยพิจารณาถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตามกระบวนการ Kimberly Process
3. การดำเนินการตามข้อมติ ที่ 2101 (ค.ศ. 2013) เป็นพันธกรณีที่ไทยในฐานะรัฐสมาชิกสหประชาชาติ ต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว และไม่มีความเกี่ยวข้องกับมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และโดยที่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายรองรับเพื่อให้ปฏิบัติตามพันธกรณีตามข้อมติข้างต้นได้อย่างครบถ้วน ทำให้ในบางกรณีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่อาจดำเนินมาตรการดังกล่าวได้ จึงจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงฯ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป โดยให้เป็นไปตามขอบเขตของกฎหมายภายในของไทย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 มิถุนายน 2556--จบ--