ทำเนียบรัฐบาล--28 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเห็นชอบนโยบายและกลยุทธ์การพฒนาและส่งเสริม การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 5 กลุ่ม ได้แก่ ไก่และเป็ดสดแช่เย็นแช่แข็ง กุ้งแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ข้าว แป้งมันสำปะหลัง ตามที่สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก เสนอและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อไปด้วย สรุปได้ดังนี้
1. สถานการณ์การส่งออกและคู่แข่งขันในตลาดโลก
1.1 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 5 กลุ่ม ปี 2537 มูลค่า 82,433.6 ล้าน บาท ขยายตัวสูงร้อยละ 24
1.2 ตลาดส่งออกสำคัญปี 2537 ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน สิงคโปร์ และไต้หวัน
1.3 คู่แข่งขันสำคัญในตลาดโลก ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยเวียดนามและจีน มี ศักยภาพเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดโลก
2. โอกาสตลาด
2.1 สินค้าที่มีลู่ทาง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม
2.2 ตลาดเป้าหมาย ตลาดดั้งเดิม ได้แก่ ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ และตลาดใหม่ ได้แก่ เอเชียตะ วันออก เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ยุโรปตะวันออกและอินโดจีน
3. แนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการผลิตและการตลาด
3.1 ลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในตลาดโลก โดยการคืนภาษีนำเข้า วัตถุดิบอาหารสัตว์ของไก่และกุ้งแช่เย็นแช่แข็ง
3.2 พัฒนาคุณภาพวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์
3.3 ปรับลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของรัฐ
3.4 แก้ไขปัญหาการตลาดระหว่างประเทศ โดยเจรจาประเทศคู่ค้าให้เปิดตลาดลดความ เข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพ และลดภาษีนำเข้า
4. กลยุทธ์ส่งเสริมและพัฒนาการส่งออก โดยการสนับสนุนการศึกษาวิจัยและการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย มีมูลค่าเพิ่มสูงและสอดคล้องกับตลาดโลก ตลอดจนสร้างภาพพจน์ประเทศไทยเป็น แหล่งผลิตและส่งออก สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรที่สำคัญของโลก และมีคุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งสนับ สนุนให้ผู้ผลิตใช้เครื่องหมายการค้าของตนเอง กับแสวงหาและเจรจาเปิดตลาดใหม่เพื่อลดการพึ่ง พาตลาดหลักและเจรจาลดหย่อนภาษีนำเข้าภายใต้สิทธิพิเศษ
--ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 27 พฤศจิกายน 2538--
คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเห็นชอบนโยบายและกลยุทธ์การพฒนาและส่งเสริม การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 5 กลุ่ม ได้แก่ ไก่และเป็ดสดแช่เย็นแช่แข็ง กุ้งแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ข้าว แป้งมันสำปะหลัง ตามที่สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก เสนอและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อไปด้วย สรุปได้ดังนี้
1. สถานการณ์การส่งออกและคู่แข่งขันในตลาดโลก
1.1 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 5 กลุ่ม ปี 2537 มูลค่า 82,433.6 ล้าน บาท ขยายตัวสูงร้อยละ 24
1.2 ตลาดส่งออกสำคัญปี 2537 ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน สิงคโปร์ และไต้หวัน
1.3 คู่แข่งขันสำคัญในตลาดโลก ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยเวียดนามและจีน มี ศักยภาพเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดโลก
2. โอกาสตลาด
2.1 สินค้าที่มีลู่ทาง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม
2.2 ตลาดเป้าหมาย ตลาดดั้งเดิม ได้แก่ ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ และตลาดใหม่ ได้แก่ เอเชียตะ วันออก เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ยุโรปตะวันออกและอินโดจีน
3. แนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการผลิตและการตลาด
3.1 ลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในตลาดโลก โดยการคืนภาษีนำเข้า วัตถุดิบอาหารสัตว์ของไก่และกุ้งแช่เย็นแช่แข็ง
3.2 พัฒนาคุณภาพวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์
3.3 ปรับลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของรัฐ
3.4 แก้ไขปัญหาการตลาดระหว่างประเทศ โดยเจรจาประเทศคู่ค้าให้เปิดตลาดลดความ เข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพ และลดภาษีนำเข้า
4. กลยุทธ์ส่งเสริมและพัฒนาการส่งออก โดยการสนับสนุนการศึกษาวิจัยและการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย มีมูลค่าเพิ่มสูงและสอดคล้องกับตลาดโลก ตลอดจนสร้างภาพพจน์ประเทศไทยเป็น แหล่งผลิตและส่งออก สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรที่สำคัญของโลก และมีคุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งสนับ สนุนให้ผู้ผลิตใช้เครื่องหมายการค้าของตนเอง กับแสวงหาและเจรจาเปิดตลาดใหม่เพื่อลดการพึ่ง พาตลาดหลักและเจรจาลดหย่อนภาษีนำเข้าภายใต้สิทธิพิเศษ
--ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 27 พฤศจิกายน 2538--