ทำเนียบรัฐบาล--30 ธ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ที่จะต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ และเห็นชอบให้กำหนดเป็นแนวทางเพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป ดังนี้
เนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 มีงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ และได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม จากการประมาณการเบื้องต้นคาดว่าจะมีผลกระทบต่องบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ดังนี้
1. นักเรียนทุนของรัฐบาลที่ศึกษาต่อในต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมตามเงื่อนไขการจัดหายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ได้จัดสรรงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุนรัฐบาลที่ศึกษาต่อในต่างประเทศทุกระดับ และค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมตามเงื่อนไขการจัดหายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ ส่วนราชการต่าง ๆ ดังนี้
1) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จำนวน 539.5 ล้านบาท
2) กระทรวงกลาโหม จำนวน 583.1 ล้านบาท
3) กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม จำนวน 490.6 ล้านบาท
4) ทบวงมหาวิทยาลัย จำนวน 737.0 ล้านบาท
รวมทั้งสิ้น 2,350.2 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อคำนวณอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท คาดว่าจะมีผลกระทบโดยตรงทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการข้างต้นอีกจำนวน 1,595.7 ล้านบาท
2. หน่วยราชการไทยในต่างประเทศ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้หน่วยราชการไทยในต่างประเทศของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
ส่วนราชการ จำนวนแห่ง อัตรา งบประมาณ
ข้าราชการ ลูกจ้าง จำนวน
1. สำนักนายกรัฐมนตรี 35 53 32 214.9
2. กระทรวงกลาโหม 47 111 184 388.1
3. กระทรวงการคลัง 7 13 22 70.2
4. กระทรวงการต่างประเทศ 82 662 1,208 2,050.7
5. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 7 15 26 65.1
6. กระทรวงพาณิชย์ 78 172 368 953.2
7. กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม 11 32 46 135.2
8. กระทรวงอุตสาหกรรม 6 11 31 56.9
9. กระทรวงศึกษาธิการ 1 1 3 4.4
10. กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ 3 6 10 33.6
11. รัฐวิสาหกิจ (ททท.) 17 36 78 887.4
รวม 294 1,112 2,008 4,859.7
เมื่อพิจารณาผลกระทบเนื่องจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอัตรา 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท คาดว่าจะมีผลกระทบทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีหน่วยราชการในต่างประเทศดังกล่าวอีก ประมาณ 3,150.3 ล้านบาท
3. รายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ต่างประเทศ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 มีภาระจากรายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้จากต่างประเทศ จำนวนรวมทั้งสิ้น 34,788.2 ล้านบาท และเมื่อคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอัตรา 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสกุลต่าง ๆ ในสัดส่วนเดียวกันแล้ว คาดว่าจะมีผลกระทบทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 สำหรับรายการนี้อีกประมาณ 5,097.6 ล้านบาท
4. การจัดหาครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ หรือมีชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
4.1 ครุภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศโดยตรง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ประมาณการว่าจะมีการนำเข้าครุภัณฑ์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะยุทโธปกรณ์และชิ้นส่วนซ่อมบำรุง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรายการที่ผูกพันต่อเนื่องมาจากปีก่อน ๆ จำนวน 19,953 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอัตรา 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท แล้ว คาดว่าจะมีผลกระทบทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณรายจ่ายอีกจำนวน 13,548.2 ล้านบาท
4.2 การก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ประมาณการว่ามีรายการสิ่งก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 203,928.0 ล้านบาท ซึ่งเมื่อได้คำนวณสัดส่วนของส่วนประกอบที่จะต้องนำเข้าจากต่างประเทศประมาณร้อยละ 18.07 จะมีผลให้จำนวนงบประมาณที่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีจำนวนประมาณ 36,848.3 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคำนวณอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท คาดว่าจะมีผลกระทบทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณเพื่อการก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ดังกล่าวอีก จำนวน 25,020.1 ล้านบาท
ฉะนั้น หากไม่มีมาตรการที่จะดำเนินการในเรื่องที่กล่าวข้างต้น รัฐบาลมีภาระที่จะต้องจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมให้แก่ส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอีกเป็นจำนวนถึง 48,411.9 ล้านบาท
ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณได้กำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาภาระการใช้จ่ายงบประมาณปี 2541 ของรัฐบาล อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1. เรื่องนักเรียนทุนของรัฐบาล ให้ดำเนินการตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยให้คงจำนวนเป้าหมายของนักเรียนทุนของรัฐบาลตามที่กำหนดในงบประมาณปี 2541 ส่วนผู้เข้าฝึกอบรมตามเงื่อนไขการจัดหายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศให้สำนักงบประมาณพิจารณาทบทวนลดจำนวนให้เหลือเท่าที่จำเป็น
2. เรื่องหน่วยราชการไทยในต่างประเทศ เห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยมอบให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าของเรื่อง ประสานงานกับกระทรวงที่มีสำนักงานและบุคลากรในต่างประเทศต่อไป
3. เรื่องรายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ต่างประเทศ เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาบริหารหนี้ต่างประเทศภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับในปีงบประมาณ 2541
4. การจัดหาครุภัณฑ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าของเรื่องประสานงานกับกระทรวงทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
4.1 ขอเจรจาผ่อนปรนระยะเวลาการชำระเงินให้สอดคล้องกับจำนวนงบประมาณที่ได้รับในปี 2541
4.2 พิจารณาทบทวนให้ใช้วัสดุอุปกรณ์และครุภัณฑ์ที่ผลิตได้ในประเทศทดแทนหรือชะลอหรือยุบเลิกรายการหรือลดจำนวนรายการครุภัณฑ์ที่มีลำดับความสำคัญต่ำ หากจำเป็นต้องมีการนำเข้าให้ใช้หลักการค้าต่างตอบแทนตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดโดยเคร่งครัด
5. กรณีการก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาปรับรูปแบบรายการตามโครงการ โดยให้ใช้วัสดุครุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศให้มากที่สุด หากจำเป็นต้องมีการนำเข้าให้ใช้หลักการค้าต่างตอบแทนตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดโดยเคร่งครัด
6. เนื่องจากมีมูลนิธิและองค์กรเอกชนในต่างประเทศแสดงความประสงค์จะให้การสนับสนุนให้ทุนการศึกษาและการพัฒนาบุคลากรแก่ประเทศไทย จึงมอบให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปดำเนินการ โดยให้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการทบวงมหาวิทยาลัย และสำนักงาน ก.พ. ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 ธันวาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ที่จะต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ และเห็นชอบให้กำหนดเป็นแนวทางเพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป ดังนี้
เนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 มีงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ และได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม จากการประมาณการเบื้องต้นคาดว่าจะมีผลกระทบต่องบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ดังนี้
1. นักเรียนทุนของรัฐบาลที่ศึกษาต่อในต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมตามเงื่อนไขการจัดหายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ได้จัดสรรงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุนรัฐบาลที่ศึกษาต่อในต่างประเทศทุกระดับ และค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมตามเงื่อนไขการจัดหายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ ส่วนราชการต่าง ๆ ดังนี้
1) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จำนวน 539.5 ล้านบาท
2) กระทรวงกลาโหม จำนวน 583.1 ล้านบาท
3) กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม จำนวน 490.6 ล้านบาท
4) ทบวงมหาวิทยาลัย จำนวน 737.0 ล้านบาท
รวมทั้งสิ้น 2,350.2 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อคำนวณอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท คาดว่าจะมีผลกระทบโดยตรงทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการข้างต้นอีกจำนวน 1,595.7 ล้านบาท
2. หน่วยราชการไทยในต่างประเทศ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้หน่วยราชการไทยในต่างประเทศของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
ส่วนราชการ จำนวนแห่ง อัตรา งบประมาณ
ข้าราชการ ลูกจ้าง จำนวน
1. สำนักนายกรัฐมนตรี 35 53 32 214.9
2. กระทรวงกลาโหม 47 111 184 388.1
3. กระทรวงการคลัง 7 13 22 70.2
4. กระทรวงการต่างประเทศ 82 662 1,208 2,050.7
5. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 7 15 26 65.1
6. กระทรวงพาณิชย์ 78 172 368 953.2
7. กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม 11 32 46 135.2
8. กระทรวงอุตสาหกรรม 6 11 31 56.9
9. กระทรวงศึกษาธิการ 1 1 3 4.4
10. กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ 3 6 10 33.6
11. รัฐวิสาหกิจ (ททท.) 17 36 78 887.4
รวม 294 1,112 2,008 4,859.7
เมื่อพิจารณาผลกระทบเนื่องจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอัตรา 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท คาดว่าจะมีผลกระทบทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีหน่วยราชการในต่างประเทศดังกล่าวอีก ประมาณ 3,150.3 ล้านบาท
3. รายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ต่างประเทศ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 มีภาระจากรายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้จากต่างประเทศ จำนวนรวมทั้งสิ้น 34,788.2 ล้านบาท และเมื่อคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอัตรา 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสกุลต่าง ๆ ในสัดส่วนเดียวกันแล้ว คาดว่าจะมีผลกระทบทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 สำหรับรายการนี้อีกประมาณ 5,097.6 ล้านบาท
4. การจัดหาครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ หรือมีชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
4.1 ครุภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศโดยตรง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ประมาณการว่าจะมีการนำเข้าครุภัณฑ์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะยุทโธปกรณ์และชิ้นส่วนซ่อมบำรุง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรายการที่ผูกพันต่อเนื่องมาจากปีก่อน ๆ จำนวน 19,953 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอัตรา 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท แล้ว คาดว่าจะมีผลกระทบทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณรายจ่ายอีกจำนวน 13,548.2 ล้านบาท
4.2 การก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ประมาณการว่ามีรายการสิ่งก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 203,928.0 ล้านบาท ซึ่งเมื่อได้คำนวณสัดส่วนของส่วนประกอบที่จะต้องนำเข้าจากต่างประเทศประมาณร้อยละ 18.07 จะมีผลให้จำนวนงบประมาณที่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีจำนวนประมาณ 36,848.3 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคำนวณอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 43.00 บาท คาดว่าจะมีผลกระทบทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณเพื่อการก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ดังกล่าวอีก จำนวน 25,020.1 ล้านบาท
ฉะนั้น หากไม่มีมาตรการที่จะดำเนินการในเรื่องที่กล่าวข้างต้น รัฐบาลมีภาระที่จะต้องจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมให้แก่ส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอีกเป็นจำนวนถึง 48,411.9 ล้านบาท
ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณได้กำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาภาระการใช้จ่ายงบประมาณปี 2541 ของรัฐบาล อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1. เรื่องนักเรียนทุนของรัฐบาล ให้ดำเนินการตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยให้คงจำนวนเป้าหมายของนักเรียนทุนของรัฐบาลตามที่กำหนดในงบประมาณปี 2541 ส่วนผู้เข้าฝึกอบรมตามเงื่อนไขการจัดหายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศให้สำนักงบประมาณพิจารณาทบทวนลดจำนวนให้เหลือเท่าที่จำเป็น
2. เรื่องหน่วยราชการไทยในต่างประเทศ เห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยมอบให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าของเรื่อง ประสานงานกับกระทรวงที่มีสำนักงานและบุคลากรในต่างประเทศต่อไป
3. เรื่องรายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ต่างประเทศ เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาบริหารหนี้ต่างประเทศภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับในปีงบประมาณ 2541
4. การจัดหาครุภัณฑ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าของเรื่องประสานงานกับกระทรวงทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
4.1 ขอเจรจาผ่อนปรนระยะเวลาการชำระเงินให้สอดคล้องกับจำนวนงบประมาณที่ได้รับในปี 2541
4.2 พิจารณาทบทวนให้ใช้วัสดุอุปกรณ์และครุภัณฑ์ที่ผลิตได้ในประเทศทดแทนหรือชะลอหรือยุบเลิกรายการหรือลดจำนวนรายการครุภัณฑ์ที่มีลำดับความสำคัญต่ำ หากจำเป็นต้องมีการนำเข้าให้ใช้หลักการค้าต่างตอบแทนตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดโดยเคร่งครัด
5. กรณีการก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาปรับรูปแบบรายการตามโครงการ โดยให้ใช้วัสดุครุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศให้มากที่สุด หากจำเป็นต้องมีการนำเข้าให้ใช้หลักการค้าต่างตอบแทนตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดโดยเคร่งครัด
6. เนื่องจากมีมูลนิธิและองค์กรเอกชนในต่างประเทศแสดงความประสงค์จะให้การสนับสนุนให้ทุนการศึกษาและการพัฒนาบุคลากรแก่ประเทศไทย จึงมอบให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปดำเนินการ โดยให้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการทบวงมหาวิทยาลัย และสำนักงาน ก.พ. ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 ธันวาคม 2540--