ทำเนียบรัฐบาล--23 มิ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติทบทวนเกี่ยวกับการปรับปรุงมาตรการเพื่อเร่งรัดการดำเนินคดียาเสพติด ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2540 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล) ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เสนอ เพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติงานและแก้ไขอุปสรรคในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ดังนี้
1. เมื่อพนักงานสอบสวนได้รับยาเสพติดของกลาง ให้พนักงานสอบสวนส่งยาเสพติดของกลางไปตรวจพิสูจน์โดยเร็วแต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 3 วัน
2. ในการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของสถานตรวจพิสูจน์ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจับยึด และตรวจพิสูจน์ยาเสพติด พ.ศ. 2537 ส่วนการกำหนดระยะเวลาในการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดแต่ละประเภทให้ชัดเจน เห็นควรมอบให้คณะอนุกรรมการตรวจพิสูจน์เป็นผู้กำหนด
3. ให้พนักงานสอบสวนไปรับผลการตรวจที่สถานตรวจพิสูจน์โดยเร็ว และดำเนินการนำคดีส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา ภายใน 14 วัน เว้นแต่คดีที่มีลักษณะเป็นรายใหญ่ หรือคดีที่มีข้อมูลยุ่งยาก หรือมีลักษณะเครือข่ายงาน หรือคดีที่มีการตรวจสอบทรัพย์สิน
4. ให้สำนักงานอัยการสูงสุด ขอความร่วมมือให้พนักงานอัยการส่งคดีขึ้นฟ้องศาลภายใน 7 วัน ทั้งนี้ โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริง และพฤติการณ์แห่งคดี
5. เพื่อให้คดีเสร็จสิ้นโดยเร็ว ขอความร่วมมือให้กระทรวงยุติธรรม ขอให้ศาลใช้ดุลยพินิจเร่งรัดการพิจารณาคดีให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 23 มิถุนายน 2541--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติทบทวนเกี่ยวกับการปรับปรุงมาตรการเพื่อเร่งรัดการดำเนินคดียาเสพติด ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2540 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล) ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เสนอ เพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติงานและแก้ไขอุปสรรคในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ดังนี้
1. เมื่อพนักงานสอบสวนได้รับยาเสพติดของกลาง ให้พนักงานสอบสวนส่งยาเสพติดของกลางไปตรวจพิสูจน์โดยเร็วแต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 3 วัน
2. ในการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของสถานตรวจพิสูจน์ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจับยึด และตรวจพิสูจน์ยาเสพติด พ.ศ. 2537 ส่วนการกำหนดระยะเวลาในการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดแต่ละประเภทให้ชัดเจน เห็นควรมอบให้คณะอนุกรรมการตรวจพิสูจน์เป็นผู้กำหนด
3. ให้พนักงานสอบสวนไปรับผลการตรวจที่สถานตรวจพิสูจน์โดยเร็ว และดำเนินการนำคดีส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา ภายใน 14 วัน เว้นแต่คดีที่มีลักษณะเป็นรายใหญ่ หรือคดีที่มีข้อมูลยุ่งยาก หรือมีลักษณะเครือข่ายงาน หรือคดีที่มีการตรวจสอบทรัพย์สิน
4. ให้สำนักงานอัยการสูงสุด ขอความร่วมมือให้พนักงานอัยการส่งคดีขึ้นฟ้องศาลภายใน 7 วัน ทั้งนี้ โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริง และพฤติการณ์แห่งคดี
5. เพื่อให้คดีเสร็จสิ้นโดยเร็ว ขอความร่วมมือให้กระทรวงยุติธรรม ขอให้ศาลใช้ดุลยพินิจเร่งรัดการพิจารณาคดีให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 23 มิถุนายน 2541--