คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือ SMEs ใน 6 จังหวัดที่ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ ดังนี้
1. นับตั้งแต่เปิดทำการจนถึงวันที่ 23 มกราคม 2548 มีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือกับศูนย์ประสานและบริการฟื้นฟู SMEs ที่ประสบภัยสึนามิ จำนวน 719 รายปัญหา ต้องการวงเงินความช่วยเหลือทั้งสิ้น 2,440.46 ล้านบาท แยกเป็นวงเงินร่วมทุน 1,007.2 ล้านบาท ความช่วยเหลือด้านการเงินอื่น 1,433.26 ล้านบาท
2. ในด้านการเข้าร่วมลงทุนสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนร่วมลงทุนเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขันของธุรกิจไทย ปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไขและขั้นตอนในการอนุมัติการเข้าร่วมลงทุน เพื่อให้เอื้อต่อการช่วยเหลือ SMEs ที่ประสบภัยสึนามิ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังต่อไปนี้
2.1 วัตถุประสงค์การดำเนินงาน เพื่อเป็นแหล่งระดมทุนให้ SMEs ที่ประสบภัยสึนามิ และเพื่อประสานความร่วมมือด้านการช่วยเหลือ SMEs ร่วมกับธนาคารของรัฐ และเอกชน กระทรวงมหาดไทย
2.2 สัดส่วนการร่วมทุนประมาณ 10-49% (หลังการร่วมทุน โดยมีวงเงินร่วมลงทุนขั้นต่ำ 1.0 ล้านบาท และวงเงินสูงสุด 100.0 ล้านบาท ระยะเวลาการร่วมทุนประมาณ 1-7 ปี หรือตามแต่กรรมการเห็นสมควร)
2.3 กลุ่มเป้าหมายได้แก่ SMEs ซึ่งประสบภัยทั้งทางตรงและทางอ้อมในธุรกิจการท่องเที่ยว การโรงแรม รีสอร์ท สปา บริการที่เกี่ยวข้องและ SMEs ตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมของประเทศ
2.4 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาการร่วมลงทุน ซึ่งมีกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นประธานอนุกรรมการ นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ เป็นรองประธานอนุกรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนธนาคารกรุงไทย ผู้แทนธนาคาร SMEs เป็นอนุกรรมการ และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติการร่วมลงทุนสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสบภัยในวงเงินไม่เกิน 30.0 ล้านบาท และพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอการร่วมลงทุนสำหรับวงเงินที่เกินกว่า 30 ล้านบาท ต่อคณะกรรมการร่วมลงทุนฯ ต่อไป
2.5 ปัจจุบันคณะกรรมการร่วมลงทุนของกองทุนฯ ดังกล่าวได้อนุมัติหลักการให้ร่วมลงทุนกับ SMEs ที่ประสบภัยแล้วจำนวน 2 ราย
- บริษัท มุกดารา บีช รีสอร์ท จำกัด วงเงินร่วมลงทุนประมาณ 90 ล้านบาท
- บริษัท เซาท์ ซี ปะการัง รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด วงเงินร่วมลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 มกราคม 2548--จบ--
1. นับตั้งแต่เปิดทำการจนถึงวันที่ 23 มกราคม 2548 มีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือกับศูนย์ประสานและบริการฟื้นฟู SMEs ที่ประสบภัยสึนามิ จำนวน 719 รายปัญหา ต้องการวงเงินความช่วยเหลือทั้งสิ้น 2,440.46 ล้านบาท แยกเป็นวงเงินร่วมทุน 1,007.2 ล้านบาท ความช่วยเหลือด้านการเงินอื่น 1,433.26 ล้านบาท
2. ในด้านการเข้าร่วมลงทุนสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนร่วมลงทุนเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขันของธุรกิจไทย ปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไขและขั้นตอนในการอนุมัติการเข้าร่วมลงทุน เพื่อให้เอื้อต่อการช่วยเหลือ SMEs ที่ประสบภัยสึนามิ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังต่อไปนี้
2.1 วัตถุประสงค์การดำเนินงาน เพื่อเป็นแหล่งระดมทุนให้ SMEs ที่ประสบภัยสึนามิ และเพื่อประสานความร่วมมือด้านการช่วยเหลือ SMEs ร่วมกับธนาคารของรัฐ และเอกชน กระทรวงมหาดไทย
2.2 สัดส่วนการร่วมทุนประมาณ 10-49% (หลังการร่วมทุน โดยมีวงเงินร่วมลงทุนขั้นต่ำ 1.0 ล้านบาท และวงเงินสูงสุด 100.0 ล้านบาท ระยะเวลาการร่วมทุนประมาณ 1-7 ปี หรือตามแต่กรรมการเห็นสมควร)
2.3 กลุ่มเป้าหมายได้แก่ SMEs ซึ่งประสบภัยทั้งทางตรงและทางอ้อมในธุรกิจการท่องเที่ยว การโรงแรม รีสอร์ท สปา บริการที่เกี่ยวข้องและ SMEs ตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมของประเทศ
2.4 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาการร่วมลงทุน ซึ่งมีกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นประธานอนุกรรมการ นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ เป็นรองประธานอนุกรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนธนาคารกรุงไทย ผู้แทนธนาคาร SMEs เป็นอนุกรรมการ และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติการร่วมลงทุนสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสบภัยในวงเงินไม่เกิน 30.0 ล้านบาท และพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอการร่วมลงทุนสำหรับวงเงินที่เกินกว่า 30 ล้านบาท ต่อคณะกรรมการร่วมลงทุนฯ ต่อไป
2.5 ปัจจุบันคณะกรรมการร่วมลงทุนของกองทุนฯ ดังกล่าวได้อนุมัติหลักการให้ร่วมลงทุนกับ SMEs ที่ประสบภัยแล้วจำนวน 2 ราย
- บริษัท มุกดารา บีช รีสอร์ท จำกัด วงเงินร่วมลงทุนประมาณ 90 ล้านบาท
- บริษัท เซาท์ ซี ปะการัง รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด วงเงินร่วมลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 มกราคม 2548--จบ--