ทำเนียบรัฐบาล--29 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ของกระทรวงการต่าง ประเทศในรอบ3 เดือน ตั้งแต่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2538 ถึงสิ้น เดือนกันยายน 2538 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้าน เศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม รวมถึงความร่วมมือด้านการศึกษา วิชาการ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
2. เพิ่มพูนความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย เพื่อการพัฒนา การร่วมมือ แก้ไขปัญหา และการอยู่ ร่วมกันอย่างสันติโดยสนับสนุนให้มีการพบปะอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและ องค์กรประชาชน ตลอดจนสถาบันกองทัพของประเทศต่าง ๆ
3. เพิ่มพูนการมีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญ เช่น องค์การสหประชาชาติ องค์การการค้าโลก (World Trade Organization - WTO) องค์กรเศรษฐกิจในภูมิภาค และองค์ กรของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เพื่อยกระดับบทบาทและสถานภาพทางการเมืองระหว่างประเทศ
4. ดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ช่วยเสริมสร้างและเกื้อกูลให้ประเทศสามารถใช้ประ โยชน์จากแนวโน้มการจัดระเบียบการค้าใหม่ทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก
5. ปรับบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะในทางการทูตด้วยการให้ความสำ คัญในเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้น เพื่อให้สามารถสนับสนุนการเจรจาทางด้านการค้า การลงทุน การส่งออก การดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ การส่งเสริมการท่องเที่ยว และการสนับสนุน คุ้มครองดูแลและพิ ทักษ์ประโยชน์ให้แก่นักลงทุนไทย และคนไทยในต่างประเทศ
6. ปรับเปลี่ยนฐานะจากประเทศผู้รับการช่วยเหลือสู่การเป็นประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือ แก่ประเทศเพื่อนบ้าน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 28 พฤศจิกายน 2538--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ของกระทรวงการต่าง ประเทศในรอบ3 เดือน ตั้งแต่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2538 ถึงสิ้น เดือนกันยายน 2538 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้าน เศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม รวมถึงความร่วมมือด้านการศึกษา วิชาการ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
2. เพิ่มพูนความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย เพื่อการพัฒนา การร่วมมือ แก้ไขปัญหา และการอยู่ ร่วมกันอย่างสันติโดยสนับสนุนให้มีการพบปะอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและ องค์กรประชาชน ตลอดจนสถาบันกองทัพของประเทศต่าง ๆ
3. เพิ่มพูนการมีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญ เช่น องค์การสหประชาชาติ องค์การการค้าโลก (World Trade Organization - WTO) องค์กรเศรษฐกิจในภูมิภาค และองค์ กรของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เพื่อยกระดับบทบาทและสถานภาพทางการเมืองระหว่างประเทศ
4. ดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ช่วยเสริมสร้างและเกื้อกูลให้ประเทศสามารถใช้ประ โยชน์จากแนวโน้มการจัดระเบียบการค้าใหม่ทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก
5. ปรับบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะในทางการทูตด้วยการให้ความสำ คัญในเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้น เพื่อให้สามารถสนับสนุนการเจรจาทางด้านการค้า การลงทุน การส่งออก การดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ การส่งเสริมการท่องเที่ยว และการสนับสนุน คุ้มครองดูแลและพิ ทักษ์ประโยชน์ให้แก่นักลงทุนไทย และคนไทยในต่างประเทศ
6. ปรับเปลี่ยนฐานะจากประเทศผู้รับการช่วยเหลือสู่การเป็นประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือ แก่ประเทศเพื่อนบ้าน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 28 พฤศจิกายน 2538--